มาตรา ๗๐
บุคคลผู้เป็นข้าราชการ
พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ
หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
หรือของราชการส่วนท้องถิ่น
และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม
อำนวยความสะดวก
และให้บริการแก่ประชาชน
มาตรา ๗๖
รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดนโยบายการตัดสินใจทางการเมือง
การวางแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจ
สังคม และการเมือง
รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ
มาตรา ๗๕
รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
จัดระบบงานของกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ
และอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างรวดเร็วและเท่าเทียมกัน
รวมทั้งจัดระบบงานราชการและงานของรัฐอย่างอื่นให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
|
๒.๑ แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
ได้กำหนดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
ให้รัฐมีหน้าที่สำคัญและตรงต่อปัญหาบ้านเมืองยิ่งขึ้น
ดังนี้
๒.๑.๑ ชาติ
ได้คงไว้ซึ่งนโยบายหลักของชาติในการพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
เอกราช และบูรณภาพแห่งอาณาเขต
ตลอดจนการพัฒนากองทัพไว้
๒.๑.๒ การมีส่วนร่วม
ได้เพิ่มหน้าที่ส่งเสริม
และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจระดับต่างๆ
ของรัฐให้เด่นชัด
และย้ำไว้เป็นพิเศษในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม
๒.๑.๓ วัฒนธรรม
ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม
ได้ย้ำให้อุปถัมภ์
และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น
รวมทั้งสนับสนุนการนำหลักธรรมของศาสนามาใช้เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม
และพัฒนาคุณภาพชีวิตไว้อย่างชัดเจน
ด้านระบบการศึกษา
รัฐต้องจัดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาของชาติ
และพัฒนาวิชาชีพครู
โดยต้องให้องค์กรท้องถิ่นมีบทบาทหลักในการจัดการศึกษาด้วย
๒.๑.๔ เศรษฐกิจ
ในส่วนเศรฐกิจนั้น
ได้คงนโยบายเดิมที่จะคุ้มครองส่งเสริมการเกษตรฯ
สหกรณ์ และผู้ใช้แรงงานไว้
อีกทั้งยืนยันในระบบเศรษฐกิจแบบเสรีที่มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมไว้
เช่น รัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ
ส่วนการคุ้มครองผู้บริโภคนั้นได้ยกระดับเป็นสิทธิไว้ด้วยแล้ว
๒.๒ การกระจายภาระกิจของรัฐ
๒.๒.๑ สิทธิชุมชน
ได้รับรองให้สิทธิแก่ชุมชนดั้งเดิม
ที่จะเข้าจัดการดูแลรักษาฐานทรัพยากรของชุมชน
อย่างสมดุลและยั่งยืน
มาตรา ๔๖
บุคคลซึ่งรวมกันเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้ง |