EECI – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Sat, 30 Sep 2023 12:20:17 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png EECI – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 รวมตัวคนอุตสาหกรรม EEC ! ยกระดับทักษะออกแบบและการเขียนโปรแกรมไอโอทีในโรงงาน ผลิตบุคลากรระยะเร่งด่วน รับเป้าหมายอุตสาหกรรม 4.0 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/iot-fundamentals.html Fri, 28 Apr 2023 11:52:48 +0000 https://nectec.or.th/?p=34077
เนคเทค สวทช. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) จัดกิจกรรมอบรมหลักสูตร “การออกแบบ และการเขียนโปรแกรมสำหรับ Internet of Things ในโรงงาน 4.0 (IoT Fundamentals)” ภายใต้การสนับสนุนโดยโครงการ EEC Type B สำนักงานคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) เพื่อพัฒนาทักษะ ยกระดับความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมทางด้านระบบ Internet of Things หรือ IoT ทั้งในเรื่องโครงสร้างของระบบ IoT, รูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ในระบบ IoT, การออกแบบ ใช้งาน เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ บน IoT Device, IoT Platform ฯลฯ ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ตอบโจทย์งานด้านอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเหมาะสม โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวนกว่า 40 คน จากกลุ่มบริษัทในเครือ SCG Chemical ประกอบด้วย ผู้จัดการ วิศวกร เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ แผนกวางแผนซ่อมบำรุง แผนกวิศวกรรม แผนก Digital Infrastructure 3 เข้าร่วมกิจกรรม วันที่ 27 เมษายน 2566 ณ ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) EECi จ.ระยอง
ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) กล่าวเปิดกิจกรรม ความว่า EEC HDC ให้ความสำคัญและยินดีที่จะสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรมผ่านการจัดสรรงบประมาณ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ศักยภาพบุคลากรอุตสาหกรรมให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคที่ไทยพยายามขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพลิกโฉมโครงสร้างการทำงานและองค์กรแบบ Labor intensive สู่ Digital Platform การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะสร้างข้อได้เปรียบให้กับภาคอุตสาหกรรม ด้วยอุตสาหกรรมแบบเก่ามีระดับศักยภาพ ต้นทุน และความสูญเสียโดยรวมต่างกันกับอุตสาหกรรมใหม่ถึง 40% สำหรับโครงการนี้นอกเหนือจากองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เกิดเครือข่ายของคนอุตสาหกรรม หรือ สร้างความเชื่อมโยงกับเนคเทค สวทช. เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าให้กับภาคอุตสาหกรมต่อไปได้
ด้าน คุณโฆสิต หนูฤทธิ์ Operation Productivity Improvement Manager บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม เล่าว่า บริษัทมีมุมมองในการนำเทคโนโลยีไอโอทีมาปรับใช้กับเครื่องจักรที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เครื่องจักรสามารถสื่อสารกันได้ หรือในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเครื่องจักรต้องสามารถสื่อสารมาที่มนุษย์ได้เช่นกัน โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องจักร อัตราการผลิต และการใช้พลังงาน รวมถึงวางแผนการดูแลรักษาเครื่องจักรให้เกิดดาวน์ไทม์น้อยที่สุด
ในจุดเริ่มต้นของการนำไอโอทีมาใช้ในโรงงาน เราใช้คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความรู้ความสามารถก่อน แต่เมื่อต้องการขยายผลไปยังส่วนการผลิต หรือ ระบบอื่น ๆ ในโรงงาน จึงต้องการบุคลากรในส่วนนี้เพิ่มขึ้น “ซึ่งในอดีตการพัฒนาบุคลากรเหล่านี้ไม่ได้อบรมเรียนรู้ไปพร้อมกัน ทำให้มองภาพและเข้าใจคนละแบบ เป็นอุปสรรคเมื่อกลับมาทำงานร่วมกัน หรือ แชร์องค์ความรู้ต่อ สำหรับการอบรมในครั้งนี้บริษัทจึงนำบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับด้านไอโอทีทุกกลุ่มทั้ง ผู้จัดการ วิศวกร เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ แผนกวางแผนซ่อมบำรุง แผนกวิศวกรรม แผนก Digital Infrastructure เข้ามาเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานไอโอทีในโรงงานที่เป็นภาพเดียวกันทั้งหมด
การอบรมในครั้งนี้ ผู้อบรมจะได้เรียนรู้ พื้นฐานและองค์ประกอบของไอโอทีอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจภาพรวม หลักการทำงาน และความสามารถของระบบ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมสำหรับการควบคุมอุปกรณ์ไอโอทีโดยใช้ Microcontroller รวมถึงวิธีการทำให้อุปกรณ์ไอโอทีสามารถเชื่อมต่อรูปแบบต่าง ๆทั้งในเครือข่าย หรือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ โดยเน้นศึกษาข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อให้สามารถปรับใช้ในอุตสาหกรรมหรือหน้างานของตัวเองได้ อีกทั้งยังได้เรียนรู้ความสำคัญของ IoT Platform และวิธีการเลือกใช้งาน IoT Platform ให้เหมาะกับงานด้านอุตสาหกรรม พร้อมยกตัวอย่างการใช้งาน IoT Platform โดยใช้ NETPIE2020 อีกด้วย
]]>
SMC จัดกิจกรรม “SMC Forum in MiRA & SUBCON EEC 2022” https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/smc-mira-subcon-2022.html Fri, 26 Aug 2022 08:54:16 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28710

ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center : SMC) จัดกิจกรรม “SMC Forum in MiRA & SUBCON EEC 2022” ณ ห้อง Theater, Exhibition Hall 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยนำองค์ความรู้นำนวัตกรรมไทยมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างยั่งยืน คาดหวังให้ผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฟังบรรยายและเสวนาไปวางแผนการพัฒนาเทคโนโลยี/นวัตกรรม ในโรงงานหรือบริษัทของตัวเองเพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากหน่วยงานที่สนับสนุน อาทิ EXIM Bank, BOI, AIS (ภายในงาน) ได้อย่างสูงสุด

ในโอกาสนี้คุณอุดม ลิ่วลมไพศาล นักวิจัย กลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช. ตัวแทนกล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษในหัวข้อ Scaling the Smart manufacturing: The value of an ecosystem, Strategic alliances and value co-creation. กล่าวถึงภาพรวมการพัฒนาและเส้นทางสู่อุตสาหกรรมสู่ 4.0 ปัญหาของอุตสาหกรรมไทย ซึ่งสามารถแก้โจทย์ด้วย ecosystem ของ SMC ได้อย่างไร พร้อมแนะนำSMC และเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจมาเยี่ยมชมในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งบรรยายถึงเป้าหมายของSMC งานวิจัยที่จะมาช่วยสนับสนุน บริการทั้ง 5 ด้านของSMC แบบประเมินตนเองอุตสาหกรรมไทย ในชื่อ Thailand i4.0 index

ต่อด้วยการแชร์ประสบการณ์จากพันธมิตรของSMC ในการเสวนา Connecting the Dots : How SMC Members Co-create โดยผู้แทน Technology Vendor คุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ Head of Enterprise Marketing Management Unit บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) ผู้แทน System Integrator คุณศรัณย์ ศรีพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ไอโอที จำกัด และผู้แทน โรงงานอุตสาหกรรม คุณศิริวรรณ รุจิมิตร ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด ดำเนินการเสวนา โดยดร. รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมสมัยใหม่ สวทช.
ส่งท้ายด้วยกิจกรรม Workshop: สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยคุณอุษณีย์ ถิ่นเกาะแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บรรยายถึงภาพรวมสิทธิประโยชน์ BOI มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ มาตรการ 6 ด้านการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ Workshop Mockup Case: “ตัวอย่างการกรอกแบบประกอบ มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0”โดย ดร. วุฒิภัทร คอวนิช นักวิจัยกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช.

ส่งท้ายด้วยกิจกรรม Workshop: สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บรรยายถึงภาพรวมสิทธิประโยชน์ BOI มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ มาตรการ 6 ด้านการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ Workshop Mockup Case: “ตัวอย่างการกรอกแบบประกอบ มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0”โดย ดร. วุฒิภัทร คอวนิช นักวิจัยกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช.

ภายในงานได้จัดแสดงผลงาน 3 ผลงานด้วยกัน ได้แก่

  • ชุดจัดแสดงตัวอย่างการประยุกต์การทำงานของอุตสาหกรรมผ่านระบบ 5G
  • ชุดจัดแสดง IDA Platform แพลตฟอร์มไอโอทีและระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม พร้อมด้วย URCONNECT อุปกรณ์เชื่อมโยงข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ ของเครื่องจักร
  • ชุดจัดแสดงอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพมอเตอร์ (Smart Sensor for Smart Maintenance)

นอกจากนี้ EECi เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้มาร่วมตั้งโต๊ะเจรจาธุรกิจแก่ผู้ประกอบการด้วย

]]>
เผยผลงานสุดสร้างสรรค์ ของสุดยอดนวัตกรน้อยในเขตพื้นที่ EEC คว้ารางวัลเวที “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon” (UtuNoi Hackathon) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/utunoi-hkt-2022-award.html Sun, 12 Jun 2022 16:59:26 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=26837

12 มิถุนายน 2565 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดงานประกาศผล และพิธีมอบรางวัลการแข่งขัน “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon” (UtuNoi Hackathon) เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการออกแบบนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครู อาจารย์ และเยาวชนระดับมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หวังสร้างชุมชนนักประดิษฐ์ด้วยวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Community Data Science) เตรียมพร้อมพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0

ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สายงานพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงที่มาของการจัดกิจกรรม ซึ่งสวทช. ได้ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครูและเยาวชน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมและกิจกรรมแข่งขัน ในรูปแบบออนไลน์ (Online) ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 400 โรงเรียน ในหัวข้อต่าง ๆ ทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ การโค้ดดิ้ง (Coding), ระบบสมองกลฝังตัว (Embedded system), อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) และในครั้งนี้ได้ได้จัดกิจกรรม ณ สถานที่จริง ให้กับคุณครู และนักเรียน ได้มีโอกาสมาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้กับนักวิจัย ได้มาใช้เครื่องมือในโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication lab หรือ FabLab) ในการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติและการตัดด้วยเลเซอร์ (3D-Printing & Laser cutting)  เพื่อออกแบบพัฒนาผลงานสถานีวัดอากาศอุตุน้อย นำไปใช้ประโยชน์ในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง รวมถึงการขยายผลต่อยอดเป็นชุดสื่อการเรียนการสอน เป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่น ๆ โดยความสำคัญของกิจกรรมนี้น้อง ๆ จะได้ฝึกทักษะที่จำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งทักษะการทำงานเป็นทีม ทักษะการแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี การคิดเชิงออกแบบ หรือ Design Thinking  ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมไปถึงทักษะการโค้ดดิ้ง และสเต็ม ตามที่สพฐ. ให้ความสำคัญ

คุณธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้กล่าวถึงบทบาทของ EEC ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดการลงทุนในนวัตกรรมขั้นสูงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมเพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่นับเป็นภารกิจที่ EEC ให้ความสำคัญ ทั้งด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ซึ่งโครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครูและเยาวชน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ EEC ร่วมดำเนินงานกับสวทช. มาอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนกิจกรรมด้านการพัฒนากำลังคนด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนได้พัฒนาทักษะด้านนวัตกรรมดิจิทัล ได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ นั่นก็คือ KidBright และอุปกรณ์ใน Fab Lab ผ่านการคิด วางแผน ออกแบบ และลงมือทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ EEC มีนิคมอตุสาหกรรมต่างๆ Automation Park ที่เป็นตัวอย่างของนวัตกรรม พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนทางด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนาทักษะความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0

ดร.โชติมา หนูพริก ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษา สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. กล่าวว่า สพฐ. พร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกับเนคเทค สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร ในการสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิด พัฒนาความรู้ และได้รับประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการเรียนรู้ภายในห้องเรียน โดยกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ใช้ได้จริง เชื่อว่าผู้เรียนจะสามารถต่อยอดไปสู่การคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ และในอนาคตอาจมีแผนการขยายผลโครงการฯ ไปยังโรงเรียนในพื้นที่อื่น หรือพื้นที่ห่างไกล ที่มีเพชรเม็ดงามที่ต้องการการเจียระไนให้เป็นนักพัฒนา เป็นนวัตกรน้อยสำหรับเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมภายในประเทศต่อไป

36 ชั่วโมงสุดเข้มข้นของ UtuNoi Hackathon

การแข่งขัน“การออกแบบอย่างใจ คิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon”(UtuNoi Hackathon) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565  เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คุณครู และนักเรียน ได้ร่วมกันนำเสนอไอเดียอย่างสร้างสรรค์ ออกแบบพัฒนาสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ หรืออุตุน้อย โดยเปิดรับสมัครครู และนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ. ฉะเชิงเทรา จ. ชลบุรี และจ.ระยอง ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2565 มีทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาแข่งขันในรอบนี้ทั้งสิ้น 15 ทีม จาก 12 โรงเรียน จำนวน 74 คน แต่ละทีมจะประกอบด้วยครู 2 คน และนักเรียน 3 คน ซึ่งหัวหน้าทีมจะต้องเป็นครูที่ผ่านการอบรมในหัวข้อ “KidBright อุตุน้อย” นอกจากนี้ทุกทีมจะได้รับการอบรมออนไลน์ปรับพื้นฐานความรู้ และเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม ในเวทีการแข่งขันแต่ละทีมจะต้องออกแบบ พัฒนาเชื่อมต่อบอร์ด KidBright ร่วมกับเซนเซอร์ภายนอกสำหรับตรวจวัดสภาพอากาศ จากโจทย์การแข่งขัน  3 ประเภท ได้แก่ เซนเซอร์วัดความเร็วลม เซนเซอร์วัดทิศทางลม และเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน โดยเริ่มต้นจากออกแบบโครงสร้าง Sensor ขึ้นรูปชุดอุปกรณ์วัด และออกแบบวงจรไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกัน ด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่มีอยู่ภายในห้อง Fab Lab สร้างเป็นสถานีอุตุน้อยในการวัดค่าสภาพอากาศ ภายในระยะเวลา 36 ชั่วโมง จนได้เป็นต้นแบบของเซนเซอร์ที่สามารถนำไปเผยแพร่ให้กับโรงเรียนอื่น ๆ ที่อยากพัฒนาสถานีอุตุน้อยเองร่วมกับบอร์ด KidBright ที่โรงเรียนมีอยู่ และการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการส่งข้อมูล สภาพอากาศไว้บน UtuNoi PLAYGROUND และคาดหวังว่าในปีหน้า จะขยายผลส่งเสริมการเรียนปัญญาประดิษฐ์ในโรงเรียน (KidBright AI) ให้กับโรงเรียนที่นำร่องไปแล้วเกือบ 400 โรงเรียน

ผลการคัดเลือกทีมที่สามารถคว้ารางวัล “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิต อุตุน้อย Hackathon” ในแต่ละประเภท

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนแกลง “วิทยาสถาวร”  จังหวัดระยอง

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายเอกรัฐ เอมเจริญ
2. นางสาวประภาพร ปลายเนิน

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นายณภัทร ศิริจันทร์
2. นางสาวมานิศา กล้าหาญ
3. นางสาวธีรนาฎ เพ็ชรฉกรรจ์

รายละเอียดผลงาน: ออกแบบและสร้างเครื่องมือวัดปริมาณน้ำฝน อย่างง่ายโดยเป็นความถูกต้องแม่นยํา ประหยัดงบประมาณง่ายต่อการใช้งาน เพื่อนําไปใช้ในการพยากรณ์ ป้องกันภัยพิบัติ หลักการทำงาน น้ำไหลหยดลงไปยังคานกระดก คานกระดกหนึ่งครั้งส่งสัญญานไปยังลีดสวิตซ์  1 ครั้ง น้ำ ถ้าลีดด์ผ่านสวิตซ์ เป็นวงจรปิด ถ้าลีดด์ไม่ผ่านสวิตซ์ เป็นวงจรเปิด

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดความเร็วลม ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา  

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายสุทธิพงษ์ สุขสร้อย
2. นายรติ พิพัฒน์ศรี

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นางสาวณัฏฐาณิชา จิราพรพิสิฐ
2. นางสาวพนิตนันท์ พานิชนันโท
3. นายไตรวิชญ์ จันทร์งาม

รายละเอียดผลงาน : เมื่อลมพัด จะทำให้แขนของเครื่องพัดตามความเร็วลมแบบแปรผันตรงกัน หากลมพัดเร็วขึ้นแขนก็จะหมุนเร็วขึ้น จากนั้นจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังบอร์ด KidBright บอร์ดจะทําการคํานวณค่าความเร็วลมตามที่เขียนโค้ดวงจร การทำงานของเครื่องวัดความเร็วลมมีตัว REED SWITCH เป็นหลอดแก้วผนึกกั้นอากาศมีขั้วไฟฟ้าที่ปลายทั้งสองด้าน ด้านในต่อกับก้านหน้าสัมผัสขนาดเล็ก ที่ทำจากโลหะสารแม่เหล็ก เมื่อใบพัดของเครื่องวัดความเร็วลมที่ ติดแม่เหล็กเคลื่อนที่ ทำให้สนามแม่เหล็กในบริเวณสัมผัสกันทำให้เกิดสัญญาณ PULSE  และส่งสัญญาณไปยังบอร์ด KidBright เพื่อประมวลต่อไป  

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดทิศทางลม ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนชลกันยานุกูล จังหวัดชลบุรี

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายณัฐ กาญจนศิริ
2. นายอุภัยภัทร บุญเพ็ง

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นางสาวธิษณาพัชญ์ อุมา
2. นางสาวปภาวรินทร์ ลาภอนันต์
3. นางสางศศิชา อากาศอำนวย

รายละเอียดผลงาน : ใช้หลักการต้านทานอากาศเมื่อมีอากาศไหลผ่านอุปกรณ์ สามารถวัดทิศทางลมในทิศทางทำมุมกับเครื่องวัด แรงลมจะผลักให้หางหมุนรอบแกนหมุนจนกว่าจะมีทิศทางขนานกับลม ภายในวงจรจะมีลีดด์สวิตซ์ทำงานเมื่อมีแม่เหล็กเข้ามาใกล้โดยแต่ละตัวจะมีการต่อตัวต้านทานจะทำให้รู้ว่าลูกศรชี้ไปในทิศทางใด

]]>
คณะผู้บริหารจาก BIG เยือน เนคเทค สวทช. พร้อมหารือความร่วมมือในระยะต่อไป https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/070322-big-visit.html Tue, 08 Mar 2022 08:49:02 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=24953
7 มีนาคม 2565 – ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (เนคเทค สวทช.)โดย ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ และ ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ พร้อมด้วย ดร.เจนกฤษณ์  คณาธารณา รองผู้อำนวยการ สวทช. และผู้อำนวยการ EECi  ดร.รวีภัทร์  ผุดผ่อง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมสมัยใหม่ ดร.ประพัฒน์  พันปี ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมฐานชีวภาพ EECi และ ว่าที่ ร้อยตรี ดร. พรพรหม อธีตนันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนคเทค สวทช. ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารบริษัท BIG นำโดย คุณปิยบุตร  จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ คุณอนุพงษ์  เครือสุวรรณเวส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพาณิชยกรรม และคุณวนัชพร ณ เชียงใหม่ ผู้จัดการส่วนงานพัฒนาเทคโนโลยีและธุรกิจใหม่

ดร.ชัย ขอบคุณความร่วมมือจาก BIG ที่ผ่านมา จากการเป็น System Integrator ในโครงการ IDA Platform และ การเป็นผู้ให้การสนับสนุนการจัด NECTEC-ACE 2021 และได้หารือกิจกรรมความร่วมมือระหว่าง BIG และ SMC ระยะต่อไป เพื่อร่วมกันสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย รวมทั้งเชิญ BIG เข้าร่วมเป็น SMC Membership อีกด้วย

นอกจากนี้  ดร.เจนกฤษณ์ และทีม BIOPOLIS ได้นำเสนอความก้าวหน้าของ BIOPOLIS ณ EECi วังจันทร์วัลเลย์ พร้อมเชิญ BIG ร่วมเป็นพันธมิตรใน BIOPOLIS เพื่อร่วมพัฒนาและส่งเสริมงานวิจัยสู่อุตสาหกรรม ตามแนวทาง BCG Model

]]>
เนคเทคร่วมกับ EECi โปรโมท THAILAND i4.0 INDEX ในงาน APEC PPSTI WORKSHOP https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/i4index-apecppsti.html Wed, 22 Dec 2021 02:49:41 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23909

เนคเทคร่วมกับ EECi โปรโมท THAILAND i4.0 INDEX ในงาน APEC PPSTI WORKSHOP เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญ
ในการสร้างโซ่อุปทานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมสมัยใหม่ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมนำเสนอข้อมูลใน หัวข้อ “Building Resilience to the Supply by Adopting Industry 4.0 Readiness Index” ภายในงาน APEC PPSTI Workshop on Digital Manufacturing for Supply Chain Resilience ซึ่งจัดขึ้นโดย Industrial Technology Research Institute (ITRI) ประเทศไต้หวัน

ดร.รวีภัทร์ได้นำเสนอกรอบแนวทางการดำเนินงานของ Thailand i4.0 Index ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม การนำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะมาใช้ร่วมกัน การบูรณาการข้อมูลด้านITและOT การบูรณาการและจัดการข้อมูลด้านการตลาดและลูกค้า การนำดัชนีไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานขององค์กร การจัดการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาความสามารถรวมถึงศักยภาพของบุคลากร

ทั้งนี้ ดร.รวีภัทร์ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการนำดัชนีนี้ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานของโรงงานตน รวมทั้งประโยชน์ของดัชนีนี้ในมุมของการนำไปใช้ในระดับประเทศ นอกจากนี้แล้ว ดร.รวีภัทร์ยังได้ใช้โอกาสนี้แนะนำข้อมูลของ EECi ARIPOLIS (เมืองนวัตกรรมหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและระบบอัจฉริยะ) และ Sustainable Manufacturing Center (SMC) ให้แก่ผู้เข้าร่วมในงานนี้ได้รับทราบอีกด้วย

]]>
เนคเทค สวทช. ร่วมกับ EECi โปรโมท THAILAND i4.0 INDEX เครื่องมือที่สำคัญสร้างโซ่อุปทานรับการเปลี่ยนแปลง ใน APEC PPSTI WORKSHOP https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/apec-ppsti-workshop.html Wed, 15 Dec 2021 07:49:54 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=26229

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมสมัยใหม่ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมนำเสนอข้อมูลใน หัวข้อ “Building Resilience to the Supply by Adopting Industry 4.0 Readiness Index” ภายในงาน APEC PPSTI Workshop on Digital Manufacturing for Supply Chain Resilience ซึ่งจัดขึ้นโดย Industrial Technology Research Institute (ITRI) ประเทศไต้หวัน

ดร.รวีภัทร์ ได้นำเสนอกรอบแนวทางการดำเนินงานของ Thailand i4.0 Index ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม การนำการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะมาใช้ร่วมกัน การบูรณาการข้อมูลด้านITและOT การบูรณาการและจัดการข้อมูลด้านการตลาดและลูกค้า การนำดัชนีไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานขององค์กร การจัดการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาความสามารถรวมถึงศักยภาพของบุคลากร 

ทั้งนี้ ดร.รวีภัทร์ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการนำดัชนีนี้ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานของโรงงานตน รวมทั้งประโยชน์ของดัชนีนี้ในมุมของการนำไปใช้ในระดับประเทศ นอกจากนี้แล้ว ดร.รวีภัทร์ยังได้ใช้โอกาสนี้แนะนำข้อมูลของ EECi ARIPOLIS (เมืองนวัตกรรมหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและระบบอัจฉริยะ) และ Sustainable Manufacturing Center (SMC) ให้แก่ผู้เข้าร่วมในงานนี้ได้รับทราบอีกด้วย

]]>
เนคเทค สวทช. จับมือ ส.ท.อ. พร้อมพันธมิตรเอกชน ร่วมยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยแพลตฟอร์มสารสนเทศขั้นสูง พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/ace2021-opening.html Mon, 13 Dec 2021 06:13:53 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23734

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ(มทร.กรุงเทพ) และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทคประจำปี 2564 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2021 (NECTEC–ACE 2021) ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” มุ่งเน้นด้าน “Digital Transformation for Sustainable Manufacturing and Services” เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรม ไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เป้าหมายเพื่อแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมการผลิตและบริการที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาและประยุกต์ใช้งานได้จริงในสายการผลิต พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0 ในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ในฐานะประธานเปิดงานกล่าวว่า อุตสาหกรรมคือแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อภาคเศรษกิจของไทย แต่ในช่วงที่ผ่านกลับเติบโตช้าลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความสามารถด้านแข่งขันและความเข้มข้นของการใช้เทคโนโลยีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมไทย ประกอบกับสถานการณ์จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน นอกเหนือจากการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังต้องมีการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง พร้อมต่อการแข่งขันภายหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย บวกกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับสายการผลิตเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 ในปัจจุบันได้เข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ตามแนวทางการพัฒนาประเทศ Thailand 4.0 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ถึง 10-40 % และสร้างรายได้ 10-20 % แต่ผู้ประกอบการยังขาดความรู้ความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ อุตสาหกรรม 4.0

จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้กำหนดแนวทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SME ให้สามารถยกระดับองค์กรให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ พร้อมรองรับการเข้าสู่ยุคความปกติใหม่หลัง COVID-19 ขึ้น อย่างเป็นระบบ โดยใช้แนวทางบันได 3 ขั้น คือ 1.การประเมินความพร้อมในปัจจุบัน และการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องดำเนินการตามทิศทางของธุรกิจ (Initiation) 2.การจัดทำแผนดำเนินการและการจัดหาเทคโนโลยีโซลูชั่น (Solutioning) 3.การติดตั้งเทคโนโลยีโซลูชั่นและการประยุกต์ใช้งานในโรงงาน (Implementation & Operation)

 
เมื่อภาคอุตสาหกรรมของไทยสามารถประเมินความพร้อมได้ จะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจำนวนหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ในการยกระดับความพร้อมของสถานประกอบการให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการพัฒนากำลังคนอุตสาหกรรม และการพัฒนา Technology Solution Provider/System Integrator (SI) ให้มีทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการ ในการยกระดับเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต่ำลง และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะของประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับอุปสงค์ของภาคอุตสาหกรรมในประเทศอีกด้วย

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กล่าวว่า การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทคประจำปี 2564 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2021 (NECTEC – ACE 2021) ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานให้กับประเทศไทย เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย การสนับสนุนภารกิจสำคัญของประเทศและเครือข่ายพันธมิตร โดยในปีนี้มีกลุ่มเป้าหมายและพันธมิตรที่สำคัญ คือ ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยเทคโนโลยีเหมาะสมและคุ้มค่าต่อการลงทุน

ซึ่งปีนี้ เนคเทค สวทช. ได้จับมือร่วมกับพันธมิตรสำคัญได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และผู้สนับสนุนการจัดงานจากภาคเอกชน 8 องค์กร ภาครัฐ 1 องค์กร ร่วมกันจัดงานในรูปแบบออนไลน์ มีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 13-16 ธันวาคม 2564 และมีพิธีเปิดงาน ณ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” โดยมุ่งเน้นด้าน “Digital Transformation for Sustainable Manufacturing and Services” เพื่อแสดงถึงการพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมในยุคดิจิทัลที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมการผลิตและบริการที่ยั่งยืน ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0 เป็นสำคัญ 

รวมทั้งภายในงานจะมีการนำเสนอองค์ความรู้จากผลงานวิจัยของเนคเทค และผลงานที่ร่วมกับพันธมิตร มานำเสนอในรูปแบบการสัมมนาวิชาการ และการจัดนิทรรศการแบบOnline โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอผล งานและบริการที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล เพื่อแสดงศักยภาพและเทคโนโลยีจากภาครัฐและเอกชนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับภาค อุตสาหกรรม และนำเสนอความก้าวหน้าทางวิชาการทางด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิสก์ และสารสนเทศขั้นสูง โดยในปีนี้จะมีการจัดงานในรูปแบบ Online มีระยะเวลาจัดงาน 4 วัน , มี 4 Keynote , 17 หัวข้อสัมมนา, 50 บูธนิทรรศการ, 10 ห้องเจรจาธุรกิจ ที่สำคัญ คือ Virtual Exhibition ทั้ง 50 บูธ ยังเปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าไปรับชมและศึกษาข้อมูลได้ตลอด 3 เดือนภายหลังวันจัดงาน

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 35 ปี ในการก่อตั้งเนคเทค สวทช. ได้สะสมองค์ความรู้และผลงานวิจัยในด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์สำคัญ โดยมุ่งเน้นสร้างฐานรากเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ ที่ผ่านมาได้ส่งมอบผลงานในหลายด้าน อาทิ AIFORTHAI, KidBright, NETPIE2020, HandySense Smart Farming Open Innovation, Open-D และในวันนี้สิ่งหนึ่งที่เนคเทค สวทช. พัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง คือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ประกอบกับมีโจทย์สำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปี 2564 เนคเทค สวทช. จึงส่งมอบ Smart Factory Platform ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภายใต้แผนพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi จึงมีโอกาสขยายต่อยอดเพื่อประโยชน์แก่ภาคอุตสาหกรรมทุกระดับต่อไป พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0”

ภาคอุตสาหกรรมจะได้เตรียมความพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรมอุตสาหกรรม 4.0 คือ การรู้จักตัวเองด้วยดัชนีชี้วัดความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 (Thailand I4.0 Index) ช่วยในการสนับสนุนตามมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นกระบวนการการประเมินศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการ โรงงาน เเละบริษัท โดยทำการลำดับการปรับปรุงโรงงานในด้านต่าง ๆ เมื่อภาคอุตสาหกรรมมีความเข้าใจก็สามารถเริ่มต้นง่ายๆ เพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในราคาที่จับต้องได้ ด้วยแพลตฟอร์ม IDA หรือ Industrial IoT and Data Analytics Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไอโอที(IoT) และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักรการผลิตและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและอนุรักษ์พลังงานให้ดีที่สุด”

นอกจากนี้ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ ส.ท.อ. พร้อมพันธมิตร ร่วมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi ณ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมีวิสัยทัศน์เพื่อตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ผู้พัฒนาระบบ นวัตกร นักวิจัยตลอดจนนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ผ่านกิจกรรมต่างๆ

SMC ช่วยปลดล็อกปัญหาในการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยบริการทั้ง 5 ด้าน 

1) การประเมินความพร้อมของโรงงาน ว่ามีประเด็นใด ที่ต้องพัฒนาไปสู่ industry 4.0 ด้วย Thailand I4.0 Index 

2) การพัฒนากําลังคนร่วมกับพันธมิตรเพิ่มทักษะรองรับการเปลี่ยนแปลง 

3) การเลือกใช้เทคโนโลยีและการให้คําปรึกษาเรื่องแหล่งเงินทุนรวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับอุตสาหกรรมการผลิตแบบ One Stop Shop 

4) ให้บริการแพลตฟอร์มพื้นฐาน เพื่อตอบโจทย์โรงงานขนาดเล็กและกลางที่มีเงินลงทุนจำกัด 

5) ให้บริการเครื่องมือทดสอบ (Testbed) เบื้องต้นสามารถเข้ามาใช้บริการศูนย์การเรียนรู้ SMC Learning Center เพื่อเรียนรู้และรับบริการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สามารถรับคำแนะนำจากบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม 4.0 ในด้านต่างๆ กว่า 100 ท่าน

สนใจรับบริการ ติดต่อได้ที่

Email: smc-business@nectec.or.th
Website: www.nectec.or.th/smc
Facebook Page: facebook.com/smceeci
Facebook Group: SMC Community

]]>