Index

  สรุปผลการสำรวจปี 2546
  สรุปผลการสำรวจปี 2545

 

สรุปผลการสำรวจปี 2544
  สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
 

Links

  ECTI Policy (กลับหน้าแรก)
  NSTDA
  NECTEC
  ฝ่ายพัฒนานโยบายและกฎหมาย (PLD)
 

Internet User Profile 2002



 

การสำรจประจำปี 2545 มีการปรับปรุงแบบสอบถามจากปี
ก่อน โดยเพิ่มคำถามเกี่ยวกับความคิดเห็นในการเข้าไปใช้
บริการ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ภาครัฐ  โดย
ผลสำรวจโดยละเอียด
แสดงไว้ในหนังสือ "รายงานการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2545" ทั้งในรูปแบบของข้อมูลในตารางและแผนภูมิ (กราฟ)  อย่างไรก็ตาม มีผลการสำรวจบางประการที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งจะขอกล่าวถึงในส่วนนี้ ดังต่อไปนี้
 

1.  เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจของทั้ง 3 ปีที่ผ่านมา (การสำรวจนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2542) พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระหว่างกลุ่มหญิงและชาย มีแนวโน้มที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของกลุ่มหญิงจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยในปีแรกที่มีการสำรวจ คือ 2542 พบสัดส่วนจำนวนผู้ใช้เปรียบเทียบหญิงต่อชายคือ 35 ต่อ 65 ในปีถัดมาคือ 2543 สัดส่วนดังกล่าวสูงขึ้นเป็น 49 ต่อ 51 ในปี 2544 สัดส่วนนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อยเป็น 51 ต่อ 49 และในปี 2545 สัดส่วนนี้ได้สูงขึ้นเป็น 53.4 ต่อ 46.6 อย่างไรก็ตามสัดส่วนความแตกต่างระหว่างหญิงและชายยังไม่สูงนัก จึงอาจจะกล่าวได้ว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศ (gender gap) ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
 

  เพศ 
  Gender

หญิง
Female

ชาย
Male

รวม*
Total

  จำนวน
  
Frequency

8,023

7,013

15,036

  ร้อยละ                      
  Percent

53.4

46.6

100
 

                                *จำนวนในที่นี้คือผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น มิใช่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

2.  ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเปรียบเทียบระหว่างคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยังปรากฏอย่างชัดเจน โดยสัดส่วนผู้ใช้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และสัดส่วนผู้ใช้รวมกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว คือจากร้อยละ 52.2 และร้อยละ 66.0 ในปี 2544 เป็นร้อยละ 50.2 และ 62.5 ในปีนี้ ตามลำดับ ซึ่งนับว่าสัดส่วนดังกล่าวก็ยังนับว่าสูงอยู่มาก
 
3. สำหรับอายุของกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จากการสำรวจพบว่ากลุ่มอายุของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ (ร้อยละ 52.2) อยู่ระหว่างอายุ 20-29 ปี ซึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากการสำรวจในปีก่อนๆ

4. เมื่อพิจารณาถึงระดับการศึกษาของกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เมื่อเปรียบเทียบผลการสำรวจใน 3 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของกลุ่มผู้ใช้ที่มีการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ ในปีนี้กลุ่มผู้ใช้ที่มีการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปคิดเป็น 62.3 ซึ่งลดลงจากร้อยละ 74.0 ในปี 2544 ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้แพร่กระจายไปสู่ระดับการศึกษาอื่นๆ เพิ่มขึ้น

5. ในเรื่องของการใช้งาน ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ยังคงดำรงตำแหน่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดเหมือนการสำรวจในปีก่อนๆ ในปีนี้ร้อยละ 37.9 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าใช้อีเมล์มากที่สุด ตามมาด้วยการค้นหาข้อมูล ร้อยละ 33.8

เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลหญิง-ชายพบว่า ความนิยมในอีเมล์ในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นหญิงสูงกว่ามาก คือร้อยละ 42.5 ของผู้ใช้ที่เป็นหญิงระบุว่าใช้อีเมล์มากที่สุด เทียบกับเพียงร้อยละ 32.6 ของผู้ใช้ที่เป็นชาย ในขณะที่สำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นชายนั้น กิจกรรมอันดับหนึ่งคือการค้นหาข้อมูล ด้วยคะแนนร้อยละ 34.2 ในขณะที่คะแนนของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นหญิงสำหรับกิจกรรมนี้คือ 33.5

กิจกรรมที่พบความแตกต่างชัดเจนระหว่างหญิง-ชายคือการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตเพื่อติดตามข่าว และดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ โดยร้อยละ 10.7 ของผู้ใช้ที่เป็นชายระบุว่าใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลมากที่สุด ในขณะที่ผู้ใช้หญิงกลับตอบข้อนี้เพียงร้อยละ 8.3 สำหรับกิจกรรมการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ ร้อยละ 5.2 ของผู้ใช้ที่เป็นชายระบุว่าใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับกิจกรรมนี้มากที่สุด ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นหญิงคิดเป็นร้อยละ 1.2

เมื่อเปรียบเทียบการใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างกลุ่มอายุ โดยจำแนกเป็น 3 กลุ่มคือ ต่ำกว่า 20 ปี 20-29 ปี และ 30 ปีขึ้นไป จะเห็นว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 20 จะใช้ประโยชน์ในกิจกรรมที่เน้นไปในการบันเทิง เช่นเพื่อเล่นเกมและสนทนา ในขณะที่กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปจะใช้ประโยชน์จากการค้นหาข้อมูล และติดตามข่าวสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ

กิจกรรม
Activity

จำนวน(คน)
Frequency

ร้อยละ
Percent

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
e-mail

5,623

37.9

ค้นหาข้อมูล
Information Search

5,023

33.8

ติดตามข่าว
News, Timely  Report

1,397

9.4

เว็บบอร์ด
Web Board

701

4.7

สนทนา
Chat/ ICQ

621

4.2

ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์
Download-Software

454

3.1

เล่นเกม
Game

348

2.3

ชมสินค้า
Shopping

215

1.4

ดาวน์โหลดเพลง
Download-Music

161

1.1

ดาวน์โหลดเกมส์
Download-Game

72

0.5

อื่นๆ
Others

232

1.6

รวม
Total

14,847

100

              หมายเหตุ : สำหรับข้อนี้  ผู้ตอบต้องระบุว่าใช้อินเทอร์เน็ตในกิจกรรมใดมากที่สุดเลือกได้เพียง
                   คำตอบเดียว
   (จำนวนรวม คือจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้ทังหมด)                   

6. สำหรับความคิดเห็นต่อปัญหาสำคัญของอินเทอร์เน็ตนั้น ในแบบสอบถามนี้
ได้ระบุให้ผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเลือกได้ 3 ปัญหานั้น พบว่าปัญหา 3 อันดับแรกที่มีผู้ระบุบ่อยครั้งที่สุดคือ ความล่าช้าของการสื่อสาร ร้อยละ 62.5 อีเมล์ขยะ ร้อยละ 38.5 และความเชื่อถือได้ของบริการเครือข่าย ร้อยละ 28.1 ในปีนี้ปัญหาเรื่องอีเมล์ขยะเป็นปัญหาที่ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าเป็นปัญหาที่สำคัญเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับการสำรวจในปี 2544 ปัญหานี้ถูกระบุเป็นอันดับ 4 ได้เลื่อนอันดับขึ้นเป็นลำดับที่ 2 และปัญหาการมีแหล่งยั่วยุทางเพศ ซึ่งเคยอยู่ในอันดับ 2 ได้ถูกจัดลำดับลงไปอยู่ในลำดับที่ 4 ในปีนี้ การที่ปัญหาเรื่องแหล่งยั่วยุทางเพศถูกจัดอันดับให้ลดลงอาจเนื่องจากปีนี้มีข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีข่าวในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการถูกล่อลวงทางเพศโดยใช้

อินเทอร์เน็ตหลายครั้ง และการที่ปัญหาเรื่องอีเมลล์ขยะกลับเพิ่มขึ้นก็เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้ประโยชน์จากอีเมล์เพิ่มขึ้น และได้รับอีเมล์โฆษณาขายสินค้า/บริการที่ไม่พึงประสงค์มากขึ้น

ปัญหา   
Perceived Problems

จำนวน (คน)
 
Frequency

ร้อยละ Percent

ความล่าช้าของการสื่อสาร
Speed

9,486

62.5

อีเมล์ขยะ
Junk Mail

5,839

38.5

ความเชื่อถือได้ของบริการเครือข่าย
Network  Reliability

4,256

28.1

การมีแหล่งยั่วยุทางเพศ
Pornography

4,055

26.7

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
Data  Integrity

3,436

22.7

ความยากในการหาเว็บไซต์
Web Search

3,252

21.4

ภาระค่าใช้จ่าย
Expenses

3,224

21.3

ปัญหาทางภาษา
Language

3,201

21.1

ขาดกฎหมายที่ครอบคลุมชัดเจนสำหรับการกระทำนิติกรรม Lack of Law for web-based business transaction

3,077

20.3

การใช้ถ้อยคำหยาบคาย
Impolite/Inappropriate Content

3,057

20.2

การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
Data Privacy Violation

2,976

19.6

การขโมยข้อมูล/การบุกรุกข้อมูล
Hacking

2,720

17.9

การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการโฆษณาขายสินค้า
Commercial Use of Internet

1,020

6.7

เกิดการถูกกลืนทางวัฒนธรรม
Cultural Dominance

854

5.6

ลดการติดต่อสัมพันธ์ในชีวิตจริง
Social Isolation

789

5.2

การขอหมายเลขโทรศัพท์
Request for telephone line installation

739

4.9

อื่นๆ
Others

229

1.5

                  หมายเหตุ : ผู้ตอบสามารถตอบได้ 1-3 คำตอบ


7. เมื่อศึกษาถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต พบว่าสัดส่วนผู้ที่เคยซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตสูงขึ้นตามลำดับ จากร้อยละ 18.4 ในปี 2542 เป็นร้อยละ 19.1 ในปี 2543 ร้อยละ 19.6ในปี 2544 และเพิ่มเป็นร้อยละ 23.6 ในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบการซื้อสินค้าระหว่างหญิง-ชายพบว่า ชายมีการซื้อมากกว่าหญิง คือ ชายเคยซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตคิดเป็นร้อยละ 30.6 และหญิงร้อยละ17.3 การที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชายนี้เองทำให้สินค้ายอดนิยมที่มีการซื้อทางอินเทอร์เน็ตหลายรายการเป็นสินค้าที่ผู้ชายนิยมซื้อ เช่น ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

8. สำหรับสินค้ายอดนิยมที่มีการซื้อทางอินเทอร์เน็ตของปีนี้ยังคงเป็นหนังสือ (ร้อยละ 54.4) รองลงมาคือซอฟต์แวร์ (ร้อยละ 30.2) ตามด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์(ร้อยละ 28.9) เป็น 3 อันดับแรกของปีที่แล้วเช่นกัน ในปีนี้ได้มีการปรับปรุงแบบสอบถามในข้อนี้ โดยได้เพิ่มคำตอบเกี่ยวกับการสั่งจองบริการต่างๆ เช่นโรงแรม ภาพยนตร์ และพบว่าคำตอบในข้อนี้สูงถึงร้อยละ 16.1

9. เหตุผลที่ไม่เคยซื้อสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ตอบสามารถเลือกได้ 1-3 คำตอบนั้น เหตุผลที่ได้รับเลือกมากที่สุดคือ ไม่สามารถเห็นหรือจับต้องสินค้าได้ (ร้อยละ 40.5) ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้สินค้ายอดนิยมที่ซื้อทางอินเทอร์เน็ตคือหนังสือซึ่งเป็นสินค้าที่คุณภาพคงที่ ไม่ต้องดูรูปร่างหน้าตาในรายละเอียด ลำดับต่อมาคือไม่ไว้ใจผู้ขาย (ร้อยละ 36.4) และไม่อยากให้หมายเลขบัตรเครดิต (ร้อยละ 27.3) ตามลำดับ ซึ่งเป็นปัญหาอันดับต้นๆที่ผู้ตอบแบบสอบถามตอบในการสำรวจปีก่อนเช่นเดียวกัน

ความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์ภาครัฐ

1.ร้อยละ 62.1 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เข้าชมเว็บไซต์ภาครัฐน้อยกว่า 5 ครั้งใน 1 เดือน ซึ่งเมื่อแยกตามอายุแล้วพบว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นกลุ่มที่ตอบว่าไม่เคยเข้าชมเลยใน 1 เดือนมากที่สุด


         

2. สำหรับเรื่องการเข้าไปใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ภาครัฐนั้น ให้ผู้ตอบสามารถตอบได้ 1-3 ข้อที่เคยใช้บริการจากเว็บไซต์ภาครัฐ ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 78.5) ผู้ตอบแบบสอบถามจะเข้าไปค้นคว้าหาข้อมูล หรือหาความรู้ทั่วไป รองลงมาได้แก่ การรับทราบข่าวสารใหม่ๆ (ร้อยละ 36.8) และ การหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ราชการ (ร้อยละ 36.4) ตามลำดับ สำหรับข้อนี้มีคำตอบที่น่าสนใจคือมีผู้ตอบว่าเข้าไปตรวจผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลถึงร้อยละ 22.5

3. ในประเด็นเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อเว็บไซต์ภาครัฐ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (ร้อยละ 67.6) ตอบว่าได้พบข้อมูลหรือบริการที่ต้องการจากการเข้าไปค้นหาในเว็บไซต์ภาครัฐต่ำกว่าร้อยละ 50

4. ในแง่ของปัญหาที่พบจากการเข้าไปใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ภาครัฐ 3 ปัญหาแรกได้แก่ ข้อมูลไม่ทันสมัย (ร้อยละ 57.9) ไม่รู้จักชื่อเว็บไซต์ (ร้อยละ 57.7) และหาข้อมูลที่ต้องการไม่พบเมื่อเข้าไปในเว็บไซต์นั้นแล้ว (ร้อยละ 44.9) แสดง
ให้เห็นว่าเว็บไซต์ของภาครัฐยังต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และต้องมีการจัดระบบการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ให้หาง่ายขึ้นกว่าเดิม
 

ปัญหา
Perceived Problems

จำนวน Frequency

ร้อยละ
Percent

ข้อมูลไม่ทันสมัย ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
Out-dated Information

8,783

57.9

ไม่รู้จักชื่อเว็บไซต์( URL) ของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการค้นหาข้อมูล
Don’t know website name

8,747

57.7

หาข้อมูลที่ต้องการไม่พบ สับสนในการค้นหาข้อมูล
Can’t find needed  information

6,811

44.9

มีบริการที่ไม่ตรงตามความต้องการ
 Can’t find needed  services

4,555

30.0

ลิงค์ขาด คลิกบริเวณที่มีลิงค์แต่ไม่สามารถลิงค์ไปถึงข้อมูลได้
Unaction links

4,543

30.0

ไม่แจ้งที่อยู่ หน่วยงาน หรือส่วนงาน ให้ติดต่อกลับ
No contact information

1,467

9.7

อื่นๆ
Others

422

2.8

                   หมายเหตุ : ผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเลือกได้ 1-3 คำตอบ

ข้อจำกัดของการสำรวจ

ข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดคือ การสำรวจครั้งนี้มิได้ใช้การ “สุ่มตัวอย่าง” (random sampling) แต่เป็นการ “เลือกตอบโดยสมัครใจ” (self selection) ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่สนใจจะตอบแบบสอบถาม ดังนั้น จึงเป็นไปได้มากว่าข้อมูลที่รวบรวมได้จะมีความลำเอียง (bias) อยู่มากพอสมควร ตัวอย่างเช่น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จะยินดีเสียเวลาการออนไลน์ให้กับการตอบแบบสอบถามมากกว่าผู้ใช้ในต่างจังหวัด เพราะจากระดับรายได้ที่ต่างกันระหว่างกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ทำให้ในเชิงเปรียบเทียบแล้ว ค่าบริการอินเทอร์เน็ตนั้นถูกกว่าสำหรับคนกรุงเทพ ฯ

ในทางเดียวกัน มีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า ผู้หญิงอาจยินดีตอบแบบสอบถามมากกว่าผู้ชายก็เป็นได้ ผู้ดำเนินการสำรวจพยายามอย่างที่สุด ที่จะลดความลำเอียงเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคือการกระจายแบบสอบถามไปยังผู้ใช้อินเทอร์เน็ตให้ทั่วถึงมากที่สุด ให้ได้ผู้ตอบจำนวนมาก และไม่เจาะจงไปยังกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นพิเศษ วิธีการนั้นคือพยายามที่จะติดป้ายประกาศเชิญชวนตอบแบบสอบถามไว้ในเว็บไซต์หลายๆ แห่ง ที่เป็นที่นิยมและเปิดกว้างสำหรับทุกคน เพื่อให้ได้ผู้ตอบจำนวนมากที่สุด และมีความหลากหลาย

เว็บไซต์ที่ให้ความอนุเคราะห์ติด banner
เว็บไซต์ในเครือเอ็มเว็บ, dailynews.co.th, hunsa.com, kapook.com, pantip.com, police.go.th, siam2you.com, siamguru.com, thairath.co.th, thannews.com
 

 
 

Comments & suggestions regarding ECTI policy Research please contact: panida.saipradit@nectec.or.th
..........................................................................................
Copyright ฉ 2005 NECTEC / NSTDA All Rights Reserved.

National Electronics and Computer Technology Center, National Science and Technology Development Agency.