อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งพยายามอย่างหนัก เพื่อหยุดภาวะการตกต่ำ กำลังลงมือทำทุกอย่าง เพื่อกระตุ้นผู้บริโภค ให้เดินเข้าร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่หลายบริษัท ซึ่งเคยเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ ปีละหนึ่งหรือสองรุ่น อยู่ระหว่างเร่งมือ พัฒนาสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น อีกสองเท่าตัว

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เฉพาะโทรศัพท์ลูกผสมประเภทเดียว มีวางขายทั้งสิ้นกว่า 15 รุ่น ขณะที่อุปกรณ์ใหม่แต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์พกพาหรือกล้องดิจิทัล จะมีจุดขายอยู่ที่ความบาง และความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่สามารถจุได้มากกว่าอุปกรณ์รุ่นเก่าในอดีต ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ใหม่ ไม่ซับซ้อนอีกต่อไป แต่กระนั้น เมื่อถึงเวลาตัดสินใจซื้อจริง จะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์แต่ละตัวเป็นสำคัญ

ด้านดัชนีชี้วัดอีกตัว คือ การโฆษณาทางการตลาด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเน้นคุณลักษณะของอุปกรณ์ใหม่นั้น จะช่วยให้ผู้บริโภคสะกิดใจได้ว่าควรจะคอยจนกว่าผู้ผลิตตัดสินใจเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไปเพื่อกระตุ้นยอดขายอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จะไม่สามารถชะลอความซบเซาได้เลย เมื่อยอดขาย ที่กำลังเพิ่มขึ้น กลับหยุดนิ่ง ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค คาดว่า ยอดขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตปีละ 6% ในช่วงปี 2541-2545 นายรอบ เอ็นเดอลี นักวิเคราะห์ บริษัท กิก้า อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส ให้ความเห็นว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงสนับสนุนจากการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแค่ "อุปกรณ์ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์" เมื่อถูกนำออกวางบนชั้นโชว์สินค้า

ต่อไปนี้ คือ อุปกรณ์ใหม่ 5 ประเภท นับตั้งแต่เครื่องพิมพ์ 2 ฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นได้ทั้งแฟกซ์ และสแกนเนอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์บันทึกวิดีโอระบบดิจิทัลที่ผู้ใช้ควรจะหยุดคิดก่อนตัดสินใจซื้อ

1.จอภาพอัจฉริยะ (Smart Displays) เป็นจอคอมพิวเตอร์พกพาที่เชื่อมต่อกับพีซีได้โดยไม่ต้องใช้สาย สามารถเข้าถึงอีเมล เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้จากทุกที่ในบ้าน

จุดสนใจ : สามารถใช้คุณสมบัติพีซีได้อย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องอาศัยสาย แต่คำเตือน คือ ไม่ควรอยู่ห่างจากคอมพิวเตอร์มากนัก เนื่องจากจะขาดการติดต่อกับพีซีได้ง่าย

เหตุผลที่ต้องรอ : ปัจจุบันมีให้เลือกไม่กี่รุ่น และราคาก็ยังแพงอยู่ เริ่มต้นที่ 42,957 บาท และอาจสูงถึง 64,457 บาท ในบางรุ่น ซึ่งด้วยจำนวนเงินดังกล่าว สามารถซื้อแล็บท็อประดับบนได้หนึ่งเครื่อง ขณะที่นักวิเคราะห์บางราย คาดการณ์ว่า ราคาจะลดลงครึ่งหนึ่งในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า พร้อมกับมีการปรับปรุงลักษณะของภาพบนจอให้ดียิ่งขึ้น

2. เครือข่ายบ้านไร้สายรุ่นใหม่ (Next-Generation Wireless Home Networks) หรือ รู้จักกันดีในชื่อ "ไว-ไฟ" (Wi-Fi) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกระจายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายแบบเดี่ยวไปสู่พีซี และแล็บท็อปในบ้านได้อีกหลายเครื่องนั้น เป็นเทคโนโลยีที่กำลังขายดีอยู่ในปัจจุบัน และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการเปิดตัวเวอร์ชั่นที่มีความเร็วสูงขึ้น

จุดสนใจ : มาตรฐานไร้สายรุ่นใหม่ คือ 802.11เอ (802.11a) และ 802.11จี (802.11g) มีความเร็วสูงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 5 เท่า ซึ่งนั่นหมายความว่า การทำงานบางอย่าง อาทิ การดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอจะเกิดขึ้นได้จริง

เหตุผลที่ต้องรอ : ไว-ไฟเวอร์ชั่นเก่าไม่สามารถใช้ได้กับรุ่นใหม่ ดังนั้น การมิกซ์แอนด์แมชอุปกรณ์จึงทำได้ยาก นอกจากนั้น 802.11จี ยังไม่ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ผู้บริโภคอาจต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพื่ออัพเดท อุปกรณ์เมื่อมาตรฐานดังกล่าวได้รับการอนุมัติในปลายปีนี้

3. โทรศัพท์ลูกผสมสำหรับอนาคต (Next-Generation Combination Phones) เป็นโทรศัพท์ ซึ่งมีฟังก์ชั่นที่สอง โดยอาจจะเป็นอุปกรณ์ออร์แกไนเซอร์ส่วนตัว เครื่องเล่นวิดีโอเกม หรือกล้องดิจิทัล ตัวอย่างเช่น ทรีโอ (Treo) ของบริษัทแฮนด์สปริง ซึ่งเป็นรุ่นหนึ่งที่รู้จักกันดีในตลาด

จุดสนใจ : ผู้ใช้ไม่สามารถใส่อุปกรณ์ประเภทต่างๆจำนวนมากลงในกระเป๋าทำงานได้อีกต่อไป

เหตุผลที่ต้องรอ : โทรศัพท์แบบนี้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการพอคเก็ตพีซี โฟน อิดิชั่นของไมโครซอฟท์ มีราคาสูงและกินไฟเยอะ นายทอดด์ คอร์ท นักวิเคราะห์ บริษัท การ์ทเนอร์ อิงค์. แนะนำว่า ผู้ใช้ยังมีเวลาพิจารณาโทรศัพท์เหล่านี้อีกอย่างน้อย 9 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

4. อุปกรณ์บันทึกวิดีโอระบบดิจิทัล (Digital Video Recorders) มีขนาดใหญ่กว่ากล่องเคเบิลเล็กน้อย สามารถสั่งบันทึกโปรแกรมทีวีล่วงหน้าได้ 12 ชั่วโมง หรือทำได้แม้แต่สั่งหยุดการแพร่สัญญาณสดชั่วคราว สำหรับอุปกรณ์ที่เห็นกันอยู่ในตลาดขณะนี้ ประกอบด้วย รีเพลย์ทีวี (ReplayTV)ของบริษัท โซนิคบลู อิงค์. และทิโว (TiVo) จากบริษัท ทิโว อิงค์.

จุดสนใจ : หากต้องออกไปสังสรรค์ข้างนอก หรือหยุดเพื่อทำธุระในห้องน้ำ ผู้ใช้จะไม่พลาดหนังซิทคอมสุดโปรด และแตกต่างจากอุปกรณ์บันทึกวิดีโอที่ช่วยให้คุณสามารถบันทึกโปรแกรมทีวีได้เช่นกันอย่างสิ้นเชิง ตรงที่อุปกรณ์บันทึกวิดีโอดิจิทัลเหล่านี้ผู้ใช้สามารถข้ามโฆษณาคั่นรายการได้

เหตุผลที่ต้องรอ : ที่ผ่านมา ราคาขายอุปกรณ์ดังกล่าวลดลง และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ครอบครัวในสหรัฐเพียง 3% เท่านั้นที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ อย่างไรก็ดี หากจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น ราคาอาจจะลดลง

5. เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น (Multifunction Printers) หรือเครื่องพิมพ์แบบออล-อิน-วัน ที่สามารถพิมพ์งาน ส่งแฟกซ์ และสแกนเอกสารได้

จุดสนใจ : ลดจำนวนอุปกรณ์สำนักงาน ขณะที่มีคุณสมบัติที่ตอบสนองความต้องการผู้รักการถ่ายภาพได้ เช่น การต่อกล้องดิจิทัลเข้ากับเครื่องพิมพ์ เพื่อดูและเลือกภาพตัวอย่าง แล้วส่งเข้าไปในเครื่องใหม่ เพื่อสั่งพิมพ์ภาพออกมาตามที่ต้องการ

เหตุที่ต้องรอ : เทคโนโลยีแบบนี้ก้าวหน้าไปไกลแล้ว ดังนั้น ราคาจึงเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ใช้ต้องอดทนรอ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดลล์ คอมพิวเตอร์ เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นรุ่นแรกไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีราคาขายอยู่ที่ 4,687 บาท และอาจจะเกิดสงครามราคาขึ้น เมื่อผู้ผลิตรายอื่นส่งเครื่องพิมพ์แบบออล-อิน-วัน ราคา 8,600 บาท ลงตลาด

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2546