ไอบีเอ็มหันจ้างผลิตคอมพ์ มุ่งลดค่าใช้จ่าย

ชี้เป็นทางออกที่ดี เหตุสามารถประหยัดเงิน ไปพร้อมกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่

นิวยอร์ก - ไอบีเอ็ม ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำ ลงนามสัญญามูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ ว่าจ้างบริษัทซานมินา-ไซน์ คอร์ป. ผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สำหรับขายในตลาดสหรัฐ-ยุโรป พร้อมวางแผนขายธุรกิจบางส่วน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของธุรกิจ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีอัตราการแข่งขันสูงและประสบภาวะขาดทุนในปัจจุบัน ขณะที่ผู้บริหารยันยังคงพัฒนา, ขายคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และผลิตคอมพิวเตอร์สมุดพกต่อไป

ตัวแทนของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชีนส์ หรือไอบีเอ็ม เปิดเผยว่า บริษัทจะว่าจ้างบริษัทซานมินา-ไซน์ คอร์ป. ให้ผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสำหรับจำหน่ายในตลาดสหรัฐและยุโรป โดยเป็นสัญญา 3 ปี มีมูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน บริษัท ซานมินา-ไซน์ ก็มีแผนจะเข้าซื้อแผนกผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเน็ตวิสต้าของไอบีเอ็ม ในสหรัฐและยุโรป แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยเงื่อนไขด้านการเงินในขณะนี้ นายบ็อบ ม็อบแฟต ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มเครื่องพิมพ์ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็ม กล่าวว่า มาตรการข้างต้น จะช่วยให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่าย ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาและเปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้

โดยช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทไอบีเอ็ม ในเมืองอาร์มองค์ รัฐนิวยอร์ก ออกหลายมาตรการเพื่อกระตุ้นธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้กลับมาทำกำไรได้ดังเดิม การเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ การหยุดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในร้านค้าปลีก ซึ่งทำกำไรได้ไม่ดีนัก และหันไปเน้นการขายให้กับลูกค้าระดับบริษัท ที่ทำกำไรได้มากกว่าแทน โดยเฉพาะอย่างคอมพิวเตอร์สมุดพก และเครื่องแม่ข่ายสำหรับใช้งานเครือข่าย แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ.2543 ธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็ม ยังคงประสบภาวะการขาดทุน โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 136 ล้านดอลลาร์ ด้านตัวแทนของไอบีเอ็ม เปิดเผยว่า หลังบริษัทขายแผนกผลิตคอมพิวเตอร์เน็ตวิสต้าแล้ว ยักษ์ใหญ่สีฟ้าแห่งนี้ ยังคงทำตลาด และออกแบบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเน็ตวิสต้าต่อไป แต่ไม่เปิดเผยยอดขายประจำปีของคอมพิวเตอร์เน็ตวิสต้า โดยตามข้อตกลงว่าจ้างผลิตคอมพิวเตอร์ ซึ่งนอกจากบริษัท ซานมินา-ไซน์ ในเมืองซาน โฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย จะเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะป้อนไอบีเอ็มแล้ว ยังมีแผนจะเข้าซื้อแผนกผลิตเน็ตวิสต้า เพื่อบริหารสัญญาว่าจ้างผลิตคอมพิวเตอร์ในสกอตแลนด์ด้วย

ทั้งนี้ ไอบีเอ็ม เสียความโดดเด่นในตลาดคอมพิวเตอร์เมื่อปี พ.ศ.2533 หลังจากไมโครซอฟท์ คอร์ป.เปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 3.0 (Windows 3.0) ซึ่งทำให้ระบบปฏิบัติการโอเอส/2 (OS/2) ของไอบีเอ็ม หมดความนิยมลง ต่อมาปี พ.ศ.2537 ไอบีเอ็มต้องเสียตำแหน่งผู้นำตลาดพีซีให้กับคอมแพค คอมพิวเตอร์ และพยายามดิ้นรนหามาตรการ เพื่อสร้างกำไรให้กับธุรกิจแห่งนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ไอบีเอ็มยังคงผลิตคอมพิวเตอร์สมุดพกทิงก์แพด (Thinkpad) ในโรงงานที่เมืองกัวดาลาจารา ในเม็กซิโก รวมถึงการผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะบางรุ่นที่จีน เพื่อขายในตลาดเอเชีย สำหรับพนักงานในแผนกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ประกอบด้วย วิศวกร พนักงานขายและฝ่ายบริหารลูกค้า จะลดลงราว 8,700 คน หลังจากพนักงานฝ่ายผลิตจำนวน 980 คน ถูกย้ายไปทำงานกับบริษัทซานมินา-ไซน์

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 มกราคม 2545

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.