ร่างแผนแม่บท ICT ชู 8 ยุทธศาสตร์หนุนพีซีโลคอลแบรนด์กินแชร์ 80%

เปิดร่างแผนแม่บทไอซีทีแห่งชาติ เสนอ 8 ยุทธศาสตร์หลัก ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้พีซีประกอบในประเทศถึง 80% ในปี 2547 รวมถึงการผลักดันการใช้ซอฟต์แวร์ในประเทศ 30% เพื่อทดแทนการนำเข้า พร้อมเสนอให้ภาครัฐสนับสนุนการวิจัยพัฒนาฟรีแวร์อย่างจริงจัง เตรียมเสนอบอร์ดเอ็นไอทีซี 2..นี้

รายงานข่าวจากการประชุมเชิงปฏิบัติการแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย พ.. 2545-2549 ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (เอ็นไอทีซี) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินงานขึ้น 8 ด้าน เพื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีมาใช้ประโยชน์ในการสร้างศักยภาพในการพึ่งพาอาศัยตนเอง และเพื่อสามารถแข่งขันในโลกสากลได้ ยุทธศาสตร์หลัก 8 ข้อประกอบด้วย

1.การสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ เช่น การให้ผู้ใช้เครือข่ายทั่วไประดับจังหวัดสามารถเข้าถึงโครงข่ายด้วยความเร็ว 2 เมกะบิตต่อวินาทีภายในปี 2549

2.การส่งเสริมให้สาธารณชนมีความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของไอซีที โดยกำหนดว่าภายในปี 2549 แรงงาน (workforce) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ต้องสามารถเข้าถึงไอซีทีได้ และแรงงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 สามารถเข้าถึงและค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้
3.การปฏิรูปแนวทางการวิจัยและพัฒนาไอซีที กำหนดว่าประเทศจะต้องมีการลงทุนด้านการวิจัยด้านไอซีทีทั้งของภาครัฐและเอกชนไม่ต่ำกว่า 3% ของมูลค่าอุตสาหกรรมไอซีที และระบุว่าจะต้องมีการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ที่ผลิตหรือประกอบในประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 รวมทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ที่ผลิตในประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าการใช้ในประเทศภายในปี 2547 โดยให้รัฐสนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนาการทำฟรีแวร์ในลักษณะโอเพ่นซอร์ซเพื่อเป็นฐานให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยนำไปศึกษาและพัฒนาต่อ รวมถึงการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ที่มีศักยภาพ เพื่อผลิตชิ้นส่วนมูลค่าสูงทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์และ อปุกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมบางประเภท
4.การพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีที โดยให้รัฐเร่งดำเนินการจัดตั้งองค์กรส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (SIPA) เพื่อผลักดันให้การลงทุนและการสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยเติบโตขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2549 อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยจะมีขนาด 9 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีมูลค่าซอฟต์แวร์เพื่อการส่งออกร้อยละ 75 ของมูลค่ารวม 5.ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมใช้ไอซีที โดยกำหนดเป้าหมายว่าปี 2549 ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย จะสามารถใช้ไอซีทีในการบริหารจัดการภายใน
6.การนำไอซีทีมาใช้ประโยชน์ในการบริหารและบริการของภาครัฐ โดยกำหนดให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานในสังกัดสามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั่วประเทศ และบริการพื้นฐานของรัฐไม่น้อยกว่า 90% สามารถทำได้โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ภาครัฐสามารถจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ปีละไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท

7.การใช้ไอซีทีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่เศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพของสังคมไทย ส่งเสริมการนำไอซีทีไปใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กิจกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับไอซีทีประมาณ 600,000 คน หรือร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมดภายในปี 2549 และเพิ่มมูลค่าตลาดของธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ต่อปี โดยเร่งผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการนำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในภาคเศรษฐกิจ

และ 8.การบริหารจัดการและการลงทุนไอซีทีอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน โดยการเพิ่มการประสานงานร่วมระหว่างรัฐและเอกชน รวมถึงการปฏิรูปกฎระเบียบภาครัฐให้เอื้อต่อการใช้และการลงทุนไอซีทีอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กำหนดว่าในภายในปี 2549 ให้ภาครัฐมีซอฟต์แวร์ระบบบริหารขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ระบบสารบรรณ, ระบบบริหารบุคคล, งบประมาณ, การเงิน, บัญชี และพัสดุ

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 เมษายน 2545

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.