ไอดีซีชี้ปีหน้าอุตฯไอที มุ่งมาตรฐานกลาง

ด้านบริษัทขนาดเล็กเป็นตัวบุกเบิกตลาดไว-ไฟ

ไอดีซี เพิ่มตัวเลขคาดการณ์ค่าใช้จ่ายภาคไอที เชื่อข่าวดีด้านเศรษฐกิจหนุนผู้ประกอบการเพิ่มงบ ขณะที่ฟันธงผู้ผลิตต้องปรับตัวรับกระแสมาตรฐานกลาง พร้อมระบุแนวโน้มเอาท์ซอร์สบริการไอทีเติบโตต่อเนื่อง ส่วนภาพลักษณ์ตลาดยูทิลิตี้ คอมพิวติ้งยังสับสน

 

เวบไซต์เทคเวบ รายงานคำทำนายของบริษัทวิจัยไอดีซี เกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีในปีหน้า 10 ประเด็นหลัก โดยกล่าวว่า ปี 2548 จะเป็นปีแรกที่ทั้งผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ชั้นนำ เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ที่อาศัยมาตรฐานกลาง คือ อนาคตของอุตสาหกรรม มากกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงเพียงอย่างเดียว นักวิจัย เปิดเผยว่า แนวทางที่สำคัญ คือ ผู้ผลิตเหล่านี้จะต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจ ที่ยึดมาตรฐานกลางเป็นหลัก ขณะที่ยังสามารถสร้างความโดดเด่นในตลาดได้ โดยไม่ต้องอาศัยการปกป้องจากเทคโนโลยีเฉพาะของตน

 

ขณะเดียวกัน ไอดีซียังปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการการเติบโตของค่าใช้จ่ายในภาคไอที โดยนักวิจัย เชื่อมั่นว่า ค่าใช้จ่ายในภาคนี้จะเติบโตราว 6-8% นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จากที่เคยทำนายไว้เมื่อต้นปีว่า จะอยู่ที่ระดับ 4.9% "ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เราวิเคราะห์สถานการณ์ในทางบวก เนื่องจากเริ่มมีข่าวดีในทางเศรษฐกิจ ปรากฏขึ้นมาในช่วงที่บริษัทต่างๆ ตั้งงบประมาณลงทุนด้านธุรกิจและไอที สำหรับปี 2548" รายงานของไอดีซี ระบุ

 

อย่างไรก็ดี แม้แนวโน้มด้านเศรษฐกิจจะสดใสมากขึ้น แต่ไอดีซี เชื่อว่า บริษัทต่างๆ จะยังคงใช้นโยบายเอาท์ซอร์สบริการด้านไอทีออกนอกประเทศต่อไป พร้อมทำนายว่า ในปี 2548 มูลค่าบริการด้านไอทีที่ป้อนกลับมายังตลาดสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นราว 2 เท่า เป็นจำนวน 16,000 ล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นสูงเป็น 46,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2552 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของตลาดบริการด้านไอที ในสหรัฐทั้งหมด อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่า ตลาด "ยูทิลิตี้ คอมพิวติ้ง" ซึ่งเป็นแนวคิดในการขายกำลังประมวลผลในรูปแบบเดียวกับระบบสาธารณูปโภค อย่างไฟฟ้าหรือก๊าซ จะยังคงมีทิศทางที่สับสนต่อไป เนื่องจากผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่หลายราย ยังคงโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับทฤษฎีดังกล่าว โดยการให้ความหมาย หรือข้อมูลด้านผลตอบแทนที่ผิด

 

ขณะที่เทคโนโลยีป้ายประจำตัวสินค้าระบบความถี่วิทยุ (radio-frequency identification-RFID) จะต้องเผชิญอุปสรรคบางประการ แม้ว่าทางวอลล์-มาร์ท ผู้ค้าส่งอันดับหนึ่งของโลก และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ จะออกมาประกาศสนับสนุนแล้วก็ตาม "เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี ยังคงมีปัญหาสำคัญในทางปฏิบัติ อาทิ ความน่าเชื่อถือของป้าย, การแทรกแซงของสัญญาณรบกวนอื่นๆ ขณะที่ตัวมาตรฐานเอง ยังมีพัฒนาการค่อนข้างช้า" ตัวแทนไอดีซี กล่าว

 

ส่วนการใช้ไว-ไฟในกลุ่มองค์กรต่างๆนั้น ไอดีซี คาดการณ์ว่า บริษัทต่างๆ จะเริ่มใช้เทคโนโลยีแลนไร้สายเวอร์ชั่นมาตรฐานในสำนักงานชั่วคราว หรือสำนักงานเล็กๆ ขณะที่การใช้งานในบริษัทขนาดใหญ่ จะจำกัดอยู่ในบริเวณห้องประชุมและพื้นที่สาธารณะ กระนั้น ผู้จัดจำหน่าย จะยังคงประสบปัญหาในการผลักดันให้บริษัทต่างๆ ที่ใช้ระบบสายเคเบิลอยู่แล้ว หันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ทางบริษัท ยังทำนายเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสมาคม เอสซีโอ กรุ๊ป และไอบีเอ็ม ว่า ยักษ์สีฟ้า จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าของตน ที่ได้รับผลกระทบจากการฟ้องร้องของเอสซีโอ เช่นเดียวกับที่เอชพีเคยทำมาแล้วในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอสซีโอ อ้างว่า ตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รหัสบางตัวในโปรแกรมลินิกซ์ และกล่าวหาไอบีเอ็มว่าละเมิดสัญญาของทั้งสองบริษัท ด้วยการเผยแพร่เทคโนโลยีของตนให้แก่ผู้บริโภค โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทางบริษัทได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไอบีเอ็ม เป็นจำนวน 3,000 ล้านดอลลาร์ และขู่ว่าจะยื่นฟ้องผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์ลินิกซ์ด้วย

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 ธันวาคม 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.