สำนักวิจัยไอที รื้อตัวเลขประมาณการตลาดรับไตรมาส 3

ไอดีซี - เอทีซีไอ เล็งปรับยอดประมาณการตลาดไอทีไตรมาส 3 รับสภาพแวดล้อมตลาดเปลี่ยน หลังรัฐผุดโครงการคอมพ์ราคาประหยัด, โรคซาร์สกระทบค้าปลีกชะลอ 30-50% ระบุตลาดพีซีไตรมาสแรกตก 1.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ เหตุงานประมูลไม่สดใส พร้อมเตรียมหาทางรอดช่วยคู่ค้ารายย่อย

 

นายทวีสิทธิ์ กุลองคณานนท์ นักวิเคราะห์ตลาดกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ รีเสิร์ช จำกัด หรือเออาร์ ในฐานะตัวแทนบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ไอดีซี) ในประเทศไทย กล่าวว่า ต้นไตรมาส 3 นี้ อาจมีการปรับประมาณการตลาดไอทีปีนี้ใหม่ โดยจะปรับจำนวนเครื่องพีซีเพิ่มขึ้น ให้สอดคล้องกับยอดขายโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที ขณะที่ ในส่วนของประมาณการใช้จ่ายด้านไอทีนั้น อาจปรับตัวลดลง ตามปัจจัยลบจากผลกระทบโรคซาร์ส และภาวะเศรษฐกิจ

 

สำหรับสถานการณ์ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยังมีกำลังซื้อจากตลาดคอนซูเมอร์อยู่ เนื่องจากราคาที่ปรับลดลง และมีเทคโนโลยีใหม่ที่ดึงดูดการใช้งาน ต่างจากงานโครงการประมูลค่อนข้างมีน้อย และเป็นโครงการขนาดเล็ก ประมูล 50-100 เครื่อง ขณะที่ไตรมาส 2 ตลาดรัฐปรับตัวขึ้นบ้าง โดยมีโครงการขนาดใหญ่เข้ามากขึ้น "เราทำสมมติฐานคร่าวๆ ไว้ว่า กรณีเลวร้ายที่สุดก็อาจปรับลดประมาณการค่าใช้จ่ายด้านไอทีลง 5% จากเดิมคาดไว้ที่ 12.7% หรือมีมูลค่าประมาณ 1,932.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ" นายทวีสิทธิ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณการไว้ว่า ไตรมาสแรกปีนี้ ตลาดรวมเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ลดลงจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ประมาณ 1.5% โดยอยู่ที่ 204,107-206,000 เครื่อง เทียบกับไตรมาส 4 มีจำนวน 208,700 เครื่อง อย่างไรก็ตาม ต้องรอการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานภูมิภาคของไอดีซีอีกครั้ง

 

ด้านนายจำรัส สว่างสมุทร เลขาธิการ สมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย (เอทีซีไอ) กล่าวว่า หลังการปิดการจองโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที คงต้องปรับทบทวนประมาณการตลาดไอทีปีนี้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากถือเป็นปรากฏการณ์พิเศษที่ทำให้ตลาดคอนซูเมอร์เติบโต และส่งผลให้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงสดใสขึ้น อีกทั้งน่าจะมีกำลังซื้อในตลาดวิสาหกิจขนาดกลางและเล็ก รวมถึงโครงการภาครัฐ บางส่วนด้วย

 

ซาร์สกระทบตลาดค้าปลีก

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ช่องทางจำหน่ายของบริษัทในส่วนของร้านค้าปลีกไอทีมียอดขายลดลงเฉลี่ย 30-50% จากผลกระทบโรคซาร์ส เพราะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในตลาดโน้ตบุ๊คหดหายไป ประกอบกับมีร้านค้าใหม่ๆ เปิดเพิ่มในพื้นที่ศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันมากขึ้น ลูกค้ากระจายออกไป ขณะที่ความต้องการในตลาดเท่าเดิม ทำให้บริษัทเองต้องติดตามสภาพหนี้เสีย และระมัดระวังเรื่องการให้เครดิตลูกค้ามากขึ้น

 

ขณะที่ นายณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานบริหารบริษัท เดอะแวลลู ซิสเตมส์ จำกัด ระบุก่อนหน้านี้เช่นกันว่า โรคซาร์ส ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง กระทบโดยตรงต่อธุรกิจค้าปลีกไอที โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่ลดลงไม่ต่ำกว่า 10% นายสมชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้จากการเป็นผู้ป้อนชิ้นส่วนในโครงการคอมพิวเตอร์ ทั้งฮาร์ดดิสก์ จอภาพ และเครื่องพิมพ์เพิ่มขึ้น รวมทั้งมียอดขายเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในตลาดคอนซูเมอร์ เข้ามาทดแทนตลาดพีซีที่หดหายไป

 

ซินเน็คเล็งสร้างทางรอดคู่ค้ารายย่อย

นายพุฒิพันธ์ เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแผนการตลาด เพื่อหนุนผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์รายย่อยจำนวนกว่า 3,000 ราย ตามบัญชีรายชื่อของบริษัท ที่กำลังวิตกกังวล เกี่ยวกับผลกระทบจากการทำตลาดคอมพิวเตอร์ไอซีที โดย 2 -3 วันที่ผ่านมา บริษัทได้พิจารณานโยบายการกำหนดสเปคชุดคอมพิวเตอร์จำนวน 1 - 2 รุ่นเพื่อเสนอผู้ประกอบการรายย่อย ให้นำเครื่องดังกล่าวไปทำตลาดใต้แบรนด์ของตัวเองได้ สำหรับจุดเด่นของเครื่องรุ่นดังกล่าว จะอยู่ที่ความทันสมัย และรองรับการอัพเกรดถึงระดับเพนเทียม 4 ขณะที่ประสิทธิภาพในการทำงานจะสูงกว่า เช่น ความเร็วในการประมวลผลประมาณ 1.3-1.7 กิกะเฮิรตซ์, ดีดีอาร์ แรม ที่ขั้นต่ำ 128 เมกะไบต์, จอภาพ15 นิ้ว และฮาร์ดดิสก์ 20-40 กิกะไบต์ เป็นต้น

 

ด้านระดับราคาเครื่องนั้นคาดว่าจะอยู่ในระดับ 13,000-14,000 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในโครงการของกระทรวงไอซีทีไม่เกิน 30% แต่จะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสร้างความเข้าใจให้ผู้ซื้อ ด้วยการจัดทำตารางเปรียบเทียบสเปคคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่าง และช่วยให้ผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับบนที่มีอยู่ประมาณ 50-60 % ของตลาดตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์จากร้าน "คาดว่าจะสามารถเปิดตัวสเปคคอมพิวเตอร์ได้เร็วที่สุดในต้นสัปดาห์หน้า และผู้ประกอบการสามารถสั่งชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบ และทำตลาดได้ทันที" นายพุฒิพันธ์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทมองว่าผลกระทบของการทำตลาดคอมพิวเตอร์ไอซีทีนั้น จะกระทบต่อยอดการจำหน่ายและภาพรวมตลาดในระยะยาวคือ ประมาณ 3 ปีข้างหน้า จากความต้องการชิ้นส่วนเพิ่ม ในกลุ่มที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ในโครงการนี้

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 พฤษภาคม 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.