ค่ายโทรคมนาคมดันลีนิกซ์เทียบชั้นวินโดว์ส

เดินหน้าโครงการโอเอสดีแอล โดยชูจุดเด่นเน้นผู้ใช้ มีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลง ระบบปฏิบัติการได้ตามความต้องการ

นิวยอร์ก - อินเทล ไอบีเอ็ม เอชพี และเอ็นอีซี นำทีมค่ายโทรคมนาคม ผนึกกำลังเดินหน้ามาตรการ พัฒนาระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ หนุนการทำตลาดเครื่องแม่ข่าย พร้อมดันขึ้นเทียบชั้นระบบปฏิบัติการวินโดว์ส ของยักษ์ใหญ่ ด้านซอฟต์แวร์อย่างไมโครซอฟท์

อินเทล, ไอบีเอ็ม, ฮิวเลตต์-แพคการ์ด และเอ็นอีซี จัดตั้งห้องปฏิบัติการพัฒนาโอเพ่น ซอร์ส หรือโอเอสดีแอล (OSDL-Open Source Develpment Lab) ขึ้นเมื่อปี พ..2543 เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ (Linux) สำหรับเครื่องแม่ข่ายเป็นจำนวนมาก และในปัจจุบัน อัลคาเทล ซิสโก้ ซิสเต็มส์ และโนเกีย ได้เข้าร่วมกับองค์การดังกล่าว และกลายเป็นสมาชิกของกลุ่มให้คำแนะนำ เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องแม่ข่าย ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานทางด้านโทรคมนาคม กระนั้น มาตรการข้างต้น ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ที่สร้างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ให้กับบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมหลายแห่ง ที่ต้องการเน็ตเวิร์ค อีควิปเมนท์ บิวดิ้ง สแตนดาร์ด (NEBS-Network Equipment Building Standard) ซึ่งเป็นระบบช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันได้ อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ต้องสามารถรองรับการใช้งานอย่างหนัก เช่น ความร้อนจากเปลวไฟ และต้องสามารถจัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อสร้างความแน่ใจว่า บริการประมวลผลยังคงสามารถทำงานได้ แม้ว่าเครื่องแม่ข่ายบางเครื่องในกลุ่มจะหยุดทำงาน

ต่อมาในปี พ..2544 โอเอสดีแอลมีสมาชิกเพิ่มขึ้น โดยบริษัท เดลล์ คอมพิวเตอร์ บริษัทคอมพิวเตอร์ เอสโซซิเอทส์ บริษัทฮิตาชิ และบริษัทเอสจีไอ รวมถึงบริษัทพัฒนาระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ อย่างบริษัทเรด แฮท, บริษัทเอสยูเอสอี บริษัทเทอร์โบลีนิกซ์ และบริษัทคัลเดอรา อินเตอร์เนชันแนล นอกจากนี้ โอเอสดีแอลได้จัดตั้งกลุ่มให้คำแนะนำ เพื่อจำกัดขอบเขตความจำเป็นใช้งานศูนย์กลางข้อมูล ซึ่งเป็นห้องควบคุมเครื่องแม่ข่าย ที่ไม่สามารถหยุดทำงานได้ ขณะเดียวกัน คาร์ลี ฟิออริน่า หัวหน้าฝ่ายบริหารของบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด กล่าวในแถลงการณ์ที่งานแสดงสินค้าลีนิกซ์เวิลด์ประจำปี พ..2545 ว่า การรวมกิจการระหว่างบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือเอชพี กับบริษัทคอมแพค คอมพิวเตอร์ คอร์ป.จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ เนื่องจากบริษัทแห่งใหม่นี้ จะมีความแข็งแกร่งทางด้านการประมวลผลระดับองค์กร บริการด้านเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเครื่องพิมพ์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น

ด้านหัวหน้ากลุ่มเครื่องแม่ข่ายของบริษัทคู่แข่งอย่างไอบีเอ็ม เผยว่า ลีนิกซ์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยบริษัทด้านไอที จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงลีนิกซ์ และระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น ซอฟต์แวร์บริหารการจัดเก็บข้อมูล ให้สามารถนำไปใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น ส่วนตัวแทนของบริษัทอินเทล คอร์ป. ผู้ผลิตชิพ ได้ทุ่มเงินกว่าพันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาชิพไอทาเนี่ยม (Itanium) ซึ่งเป็นตัวประมวลผลตัวแรก ซึ่งมีความเร็วมากกว่า 64 บิต เพื่อรองรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต้องทำงานหนัก

ทั้งนี้ ลีนิกซ์ เป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่น ซอร์ส ที่มีลักษณะไม่เหมือนกับซอฟต์แวร์อื่นๆ อย่างเช่น ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส (Windows) ของบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป.เนื่องจากทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงระบบปฏิบัติการได้ตามความต้องการ

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545

 

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.