แนะทางออกชิ้นส่วนรถไทย อิงเทคโนฯญี่ปุ่น รวมกลุ่มพัฒนาไอที

อิงเทคโนฯญี่ปุ่น รวมกลุ่มพัฒนาไอที

ชี้ทางรอดอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เร่งปรับตัวด้านเทคโนโลยี การสนับสนุนการเงิน และระบบข้อมูลข่าวสาร จับตาจีนคู่แข่งน่ากลัว ติงภาครัฐดูแลโครงการ ร่วมมืออาเซียน หลังประโยชน์ไม่ตกถึงมือเอสเอ็มอี

สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาเรื่อง โลกาภิวัตน์อุตสาหกรรมยานยนต์ในเอเชียตะวันออกและประเทศไทย วานนี้ (9 ม.ค.45) โดยมีศาสตราจารย์เดนนิส แมคนามารา ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมรถยนต์เอเชีย มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ และตัวแทนจากกลุ่มยานยนต์ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ร่วมเป็นวิทยากร

นายแมคนามารา กล่าวว่า ปัจจุบันในเอเชียประเทศที่มีอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนที่สำคัญนอกเหนือจากญี่ปุ่นก็คือ เกาหลีใต้ ไทย และประเทศจีน ซึ่งทั้ง 3 ประเทศมีทั้งการผลิตและส่งออกไปจำหน่ายนอกประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไทยนับเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งด้านฐานการผลิต และเทคโนโลยีการผลิตที่ใกล้เคียงกับเกาหลีใต้ แต่เหนือกว่าประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตประเทศจีนเป็นแหล่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นประเทศขนาดใหญ่ ทำให้มีโอกาสที่จะผลิตสินค้าจำนวนมากและราคาต่ำได้ ซึ่งในปี 2543 ที่ผ่านมา สัดส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ใน 3 ประเทศ เกาหลีใต้มากที่สุดคือ 3.1 ล้านคัน จีน 2.1 ล้านคัน และไทย 2.6 แสนคัน และด้านการส่งออกชิ้นส่วนในปี 2541 เกาหลีใต้มีมูลค่า 1,281 ล้านดอลลาร์ จีน 533 ล้านดอลลาร์ และไทย 156 ล้านดอลลาร์

ตลาดรถยนต์ของจีนมีการเติบโตที่มีเสถียรภาพและแม้ว่าวันนี้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนไทยยังมีความได้เปรียบชิ้นส่วนจากจีน แต่ในอนาคตอันใกล้ถ้าหากจีนสามารถที่จะพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการผลิตได้ก็จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับทั้งไทยและเกาหลีใต้ ดังนั้น จึงเห็นว่าทางรอดและความสำเร็จของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนในประเทศไทยจะต้องเร่งปรับตัวในประเด็นหลักๆ เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกำไร ซึ่งจะเป็นไปได้ในหลายรูปแบบทั้งการหาผู้ร่วมทุน การซื้อเทคโนโลยี ซึ่งเห็นว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมไทยใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมจากญี่ปุ่น จึงควรที่จะพยายามดึงเอาเทคโนโลยีจากผู้ผลิตญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้น ผู้ผลิตเองควรจะให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดรถยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องก้าวตามให้ทัน เช่น การหันมาใช้ระบบอินเทอร์เน็ตให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของการซื้อขายหรือการหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เนื่องจากเป็นระบบที่อุตสาหกรรมรถยนต์ชั้นนำของโลกใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นอกจากนั้น ในเรื่องของความร่วมมือเขตการค้าต่างๆ ควรที่จะต้องให้ภาครัฐดูแลมากยิ่งขึ้น เช่น โครงการไอโค ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีบริษัทผู้ประกอบรถยนต์หรือชิ้นส่วนรายใหญ่จากต่างประเทศเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์ ส่วนธุรกิจเอสเอ็มไม่ได้รับประโยชน์ในจุดนี้แต่อย่างไรทั้งสิ้น

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 มกราคม 2545

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.