"อี. พอร์เตอร์" แนะอุตฯยานยนต์ เพิ่มความสามารถชูเอกชนเดินนำ

"ไมเคิล อี. พอร์เตอร์" ชี้อุตยานยนต์ไทยยังต้องพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันอีกมาก แนะเอกชนต้องออกมานำหน้า รัฐบาลหนุนอยู่เบื้องหลัง ย้ำประเทศไทยห้ามวางใจกับการเป็นดีทรอยต์ออฟเอเชีย ถ้าไม่เร่งพัฒนาโดนแซงหน้าแน่นอน

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" หลังจากที่นายไมเคิล อี. พอร์เตอร์ ที่ปรึกษาโครงการศึกษาพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศไทย ได้เข้าบรรยายในหัวข้อ Thailand"s Competitiveness : Creating the Foundations for Higher Productivity เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น ได้มีการเสนอโครงการพัฒนาที่มีรูปแบบคล้ายกับที่ทางสถาบันยานยนต์ทำในช่วงที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญที่การสร้างสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่สำคัญ ทั้งเรื่องของการสร้างบุคลากรและศูนย์ทดสอบยานยนต์ในประเทศไทย อันดับที่สองคือการพัฒนากลุ่มธุรกิจในประเทศไทย โดยแยกการพัฒนาออกเป็นคลัสเตอร์อย่างชัดเจน และเรื่องที่สามก็คือ การสร้างองค์กรขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันอย่างแท้จริง ซึ่งจะต้องเป็นสถาบันร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและเอกชน เพื่อบรรลุจุดประสงค์ในการพัฒนาที่แท้จริง

"สิ่งที่เขาพูดก็คือ องค์กรที่เกิดขึ้น น่าจะให้เอกชนเป็นผู้นำ โดยให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน จะเห็นว่าเขามองเรื่องของการที่เอกชนจะให้ความร่วมมือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะว่าเอกชนเป็นผู้ที่กุมในส่วนของอำนาจในเชิงพาณิชย์ไว้ ถ้าจะพัฒนาขีดความสามารถด้านนี้ เอกชนจะต้องเป็นผู้ที่ลงมือมาทำด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐบาลเพียงลำพัง"

สำหรับเรื่องของโปรดักต์ แชมเปี้ยนที่มองว่ารถกระบะขนาด 1 ตันหรือรถปิกอัพจะเป็นสินค้าหลักของประเทศนั้น ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาอย่างเร่งด่วน โดยการมองว่าประเทศไทยเป็นดีทรอยต์ออฟเอเชียในปัจจุบันนั้น ก็ต้องมองว่าในอนาคตหากไม่มีการพัฒนาอย่างเร่งด่วนก็มีแนวโน้มสูงที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ ดังนั้นสิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาอย่างเร่งด่วนก็คือการสร้างความมั่นคงให้กับผู้ประกอบการที่เข้ามา ตั้งรกราก ให้อยู่กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต

"เหมือนที่เราเคยบอกว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่เคยเป็นจุดขายของไทยนั้น จริงๆ แล้วไม่มีประโยชน์กับแรงงานไทยเลย สิ่งที่เราต้องทำก็คือการเพิ่มอัตราค่าแรงให้สูงขึ้น แต่ก็ต้องทำงานได้มากขึ้น และเขาไม่หนีเราไปไหน นี่เป็นสิ่งที่จะทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นไปอย่างยั่งยืน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขามองว่าเราต้องพัฒนาเป็นการเร่งด่วน"

นายวัลลภกล่าวต่อว่า ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไขเป็นการเร่งด่วนก็คือการเป็นนักวางแผนระดับโลก ซึ่งยังขาดผู้ที่ลงมือทำอย่างแท้จริง องค์กรที่เกิดขึ้นมาจะต้องทำหน้าที่เป็นแกนนำในการพัฒนา ขณะเดียวกันก็ต้องก่อให้เกิดการพัฒนาในอุตสาหกรรมแต่ละชนิดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่านายพอตเตอร์ได้สนนับสนุนให้เกิดการตั้งศูนย์ออก แบบสำหรับรถปิกอัพในประเทศไทยขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อพัฒนาไปสู่การออกแบบและพัฒนารถปิกอัพของประเทศไทย อันจะก้าวขึ้นสู่การสร้างแบรนด์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นต่อไปในอนาคต ซึ่งนายพอร์เตอร์มองว่ามีโอกาสค่อนข้างมาก เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตันมากเป็นอันดับสองของโลก รองอยู่ก็เพียงแต่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 พฤษภาคม 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.