แบงก์เอสเอ็มอีเตรียมปล่อยวงเงินกู้ซอฟต์แวร์ 30%

ดีเดย์สรุปเกณฑ์แปลงซอฟต์แวร์เป็นทุนพรุ่งนี้ (24 เม..)
ธนาคารเอสเอ็มอี (ธพว.) ตั้งเป้าวงเงินสินเชื่อ 30% ขณะ บสย.เตรียมจ่าย 40% ขานรับเกณฑ์แปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่เอทีเอสไอ และกระทรวงไอซีทีมีกำหนดชี้แจงผู้ประกอบการ 24 เม..นี้ แย้มผลิตภัณฑ์ที่วางตลาดแล้ว มีโอกาสได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อก่อน ป้องกันปัญหาเอ็นพีแอล พร้อมเตรียมวางมาตรการร่วม บสย.ประกันความเสี่ยงหนี้สูญ

 

นายสำราญ ภูอนันตานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวว่า ธพว.พร้อมสนับสนุนโครงการแปลงสินทรัพย์ซอฟต์แวร์เป็นทุน ซึ่งล่าสุดสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (เอทีเอสไอ) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สรุปหลักเกณฑ์แล้ว และเตรียมนำเข้าที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ ร่วมกับผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ในวันพรุ่งนี้ (24 เม..)

โดยในส่วนของ ธพว.อนุมัติวงเงินสินเชื่อ ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคงกำหนดคุณสมบัติผู้ขอกู้ ที่มีผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์วางจำหน่ายในตลาดแล้วมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่วางตลาด หรือยังเป็นเพียงโครงการอยู่

 

ขณะที่ซอฟต์แวร์ที่ยังไม่วางตลาด หรือเป็นโครงการจะต้องใช้หลักเกณฑ์การพิจารณา ที่มีรายละเอียดซับซ้อนกว่า เพราะยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าจะมีรายได้เท่าใด ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะหนี้สูญหรือหนี้เสียค่อนข้างมาก จึงจะเจรจากับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หาแนวทางลดความเสี่ยงร่วมกันต่อไป "ตามสูตรทางการเงินแล้ว โดยทั่วไปโครงการที่ขออนุมัติสินเชื่อ หากยังไม่มีความชัดเจนดีพอ มีโอกาสที่สถาบันการเงินจะพบหนี้สูญประมาณ 7 ใน 10 โครงการที่ขอวงเงินมา" นายสำราญกล่าว พร้อมกันนี้ เขาเสนอแนะทางออกสำหรับภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ว่า ควรมีหน่วยงานกลางขึ้นมาพิจารณาร่วมกัน ถึงหลักเกณฑ์การประเมินสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ ตลอดจนประเมินผลิตภัณฑ์แต่ละตัวที่นำมาขอวงเงินสินเชื่อ เช่น เอทีเอสไอ, กระทรวงไอซีที, ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) รวมถึงสถาบันการเงิน

 

ใช้ 4 หลักเกณฑ์ประเมิน

ด้านนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ อุปนายกสมาคมซอฟต์แวร์ไทย (เอทีเอสไอ) และหนึ่งในคณะทำงานหลักการแปลงสินทรัพย์ซอฟต์แวร์เป็นทุน กล่าวว่า จะมีการนำเสนอแนวทางและหาข้อสรุปเกณฑ์แปลงทรัพย์สินซอฟต์แวร์เป็นทุน ร่วมกับ ธพว., บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเวิร์คช็อป "การแปลงสินทรัพย์ซอฟต์แวร์เป็นทุน" ในวันพรุ่งนี้ (24 เม..) โดยการพิจารณาประเมินมูลค่าสินทรัพย์ซอฟต์แวร์มี 4 หลักเกณฑ์ ประกอบด้วย 1.เทคโนโลยี 2.ความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์ 3.ผู้ประกอบการ และ 4.อื่นๆ โดยคณะกรรมการจะประเมินซอฟต์แวร์รูปแบบผลิตภัณฑ์และประเภทโครงการในการนำเสนอขอกู้เงิน ยกตัวอย่างเช่น วิธีการประเมินทางเทคโนโลยี จะพิจารณาจากเทคนิคใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีที่มาจากงานวิจัยและพัฒนา ซึ่งหากเป็นงานวิจัยใหม่ๆ มีผลต่อสังคมโดยรวม ก็จะได้คะแนนประเมินสูง

 

"วัตถุประสงค์ของการให้สินเชื่อหรือตีมูลค่าซอฟต์แวร์ให้นำมาเป็นสินทรัพย์ ใช้ค้ำประกัน เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่น เนื่องจากต้องการสร้างแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าการส่งออกของซอฟต์แวร์ไทย" นายพิพัฒน์กล่าว ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการไอที กล่าวว่า คณะทำงานได้เจรจาเบื้องต้นกับ บสย. เพื่อให้เปิดกว้างการขอวงเงินกู้ได้ประมาณ 40% ของวงเงินสินเชื่อที่ขอ ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายเติบโตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยจาก 25,000 ล้านบาท เป็น 90,000 ล้านบาท ในปี 49

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 เมษายน 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.