งานซีอีเอส 2003 เปิดตัวคึกคักค้านกระแสตลาดเทคโนโลยีซบเซา นักวิเคราะห์ชี้เหตุโลกเทคโนโลยีเข้าสู่ยุคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เน้นคุณสมบัติผนวกระบบงานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา เผยตัวชูโรงหลักเครือข่ายไร้สายภายในบ้าน ขณะที่เปิดประเด็นสิ่งแวดล้อมเป็นครั้งแรก

งานแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics Show) ที่จัดขึ้นในกรุงลาส เวกัส เมื่อวันที่ 9-10 มกราคม ที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เพราะขณะที่นักวิเคราะห์ และผู้ผลิตหลายรายออกมาฟันธงว่าตลาดอุปกรณ์ไฮเทคปีนี้จะยังคงลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ แต่บรรยากาศภายในงานกลับคึกคักอย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีผู้ผลิตยักษ์ใหญ่กว่า 2,000 ราย ขนสินค้ารุ่นล่าสุดมาเปิดตัวกันอย่างล้นหลาม

สู่ยุคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่ นิทรรศการเทคโนโลยีเจ้าอื่น อาทิ งานคอมเด็กซ์ กำลังดับแสงลงเรื่อยๆ แต่งานซีอีเอสกลับเริ่มเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู นักวิเคราะห์ กล่าวว่า สาเหตุอย่างหนึ่งเป็น เพราะแนวโน้มตลาดเทคโนโลยีในปัจจุบันกำลังนิยมอุปกรณ์ที่ผนวกคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสารเข้าด้วยกันมากขึ้น นายเจฟฟ์ โจเซฟ เจ้าหน้าที่สมาคมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค กล่าวว่า ผู้ผลิตกำลังพยายามผนวกอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ในแบบที่คิดว่าผู้บริโภคน่าจะเห็นว่ามีประโยชน์ โดยอุปกรณ์ทุกตัวนับจากนี้ไป จะมีคุณสมบัติการเชื่อมต่อระบบดิจิทัลรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์หรือเครือข่ายไร้สาย

นิทรรศการซีอีเอสในปีนี้ ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดที่เคยจัดมา พื้นที่แสดงสินค้ากินอาณาบริเวณทั้งหมด 1.2 ล้านตารางฟุต หรือประมาณสนามฟุตบอลรวมกัน 48 สนาม ผู้จัดแสดงสินค้ามาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมกว่า 25 ค่าย และผลิตภัณฑ์ที่มาโชว์ตัวในงานนี้ ก็มีทั้งอุปกรณ์บันเทิงภายในบ้าน เครื่องเล่นเพลง และไฟล์วิดีโอระบบดิจิทัล อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ และเกมรุ่นใหม่ๆ

ย้อนยุคดิจิทัล

งานซีอีเอสจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2510 หรือราว 36 ปีที่แล้ว ในฐานะงานแสดงโทรทัศน์ และวิทยุทรานซิสเตอร์รุ่นใหม่ๆ แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา รูปแบบนิทรรศการนี้ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เนื่องมาจากการถือกำเนิดของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเมื่อโลกเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก็ขยายบทบาทของตนไปสู่อุปกรณ์ภายในบ้านอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ หรือ เครื่องบันทึกภาพวิดีโอ

ผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีในปัจจุบัน หันมาผลิตอุปกรณ์อย่างศูนย์บันเทิงภายในบ้าน ที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้, จอภาพไร้สายที่สามารถพกติดตัวได้ตลอดเวลา หรือแม้แต่อุปกรณ์แพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ในรถยนต์

ในปีนี้ คาดประมาณว่า มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานซีอีเอส กว่า 100,000 คน จากกว่า 100 ประเทศ ขณะที่ผู้นำอุตสาหกรรมไอทีอย่างนายบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์, นายคูนิทาเกะ อันโด ประธานโซนี่ และนายเครก บาร์เร็ตต์ ซีอีโออินเทล ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันเปิดงาน การปรากฏตัวของบุคลากรชั้นแนวหน้าเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่านิทรรศการครั้งนี้เป็นความหวังของเศรษฐกิจยุคดอทคอมในภาวะตกต่ำมากแค่ไหน

เน้นตลาดผู้บริโภค

ด้านภาคผู้ประกอบการ มีแนวโน้มที่จะชะลอการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมนี้จึงหันมาตั้งความหวังไว้ที่ผู้บริโภคแทน แต่เนื่องจากผู้บริโภคได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ไปแล้ว อาทิ จอทีวีแบน, เครื่องเล่นดีวีดี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในปีนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายจึงหันมาวางจำหน่ายเทคโนโลยีที่มีราคาไม่แพง เช่น อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย หรือรีโมทที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว

ส่วนเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในงานซีอีเอสปีนี้ คือ เครือข่ายไร้สายภายในบ้าน ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้ผ่านเครือข่ายไร้สายไวไฟ (Wi-Fi) อาทิ ไมโครซอฟท์ และโซนี่ ที่แข่งกันเปิดตัวต้นแบบอุปกรณ์ และจอภาพจำนวนมาก ที่สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านเครือไร้สายได้ พร้อมประกาศโครงการร่วมมือเพื่อกำหนดมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยีนี้ขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ ก็ได้กล่าวเตือนถึงกรณีที่ผู้ผลิตอาจเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เร็วเกินไป และวางจำหน่ายสินค้าก่อนที่จะมีการกำหนดมาตรฐานร่วมขึ้น ซึ่งผลก็คือ จะทำให้อุปกรณ์บางตัวไม่สามารถปฏิบัติการร่วมกับอุปกรณ์ที่ผลิตจากบริษัทอื่นได้

ถกปัญหาลิขสิทธิ์-สิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากเรื่องจัดแสดงสินค้าแล้ว หัวข้อหลักที่มีการนำมาอภิปรายกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นประเด็นด้านลิขสิทธิ์สื่อดิจิทัล ขณะนี้ อุตสาหกรรมบันเทิงกำลังเดือดเนื้อร้อนใจอย่างหนักกับปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และภาพยนตร์ทางอินเทอร์เน็ต และพยายามล็อบบี้ให้รัฐบาลสหรัฐออกกฎควบคุมการผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ไม่สามารถใช้ลักลอบอัดไฟล์เหล่านี้ได้ง่ายดายนัก อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว พร้อมโต้แย้งว่าการควบคุมเทคโนโลยีเหล่านี้ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากมาก "ลิขสิทธิ์ไฟล์ดิจิทัลเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมนี้ แต่เราจะบอกได้อย่างไรว่า อะไรคือจุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปกป้องลิขสิทธิ์สื่อ และการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค" นายโจเซฟ กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น นิทรรศการปีนี้ยังนับเป็นงานซีอีเอสครั้งแรก ที่พูดถึงความสูญเสียทางสภาพแวดล้อมอันเป็นผลจากยุคอิเล็กทรอนิกส์เฟื่องฟู อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อุตสาหกรรมนี้ผลิตขึ้นมาได้กลายเป็นขยะอันตรายจำนวนมหาศาล ซึ่งทำให้นักอนุรักษ์ และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เริ่มหันมาถกเถียงเพื่อหาวิธีกำจัดอุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งานแล้วอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เช่น การรีไซเคิลมือถือเพื่อนำไปวางจำหน่ายใหม่ในประเทศกำลังพัฒนา

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (กรุงเทพไอที) ฉบับวันที่ 16 มกราคม 2546