ปัญหาการหลงทาง จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เมื่อบริษัทไฮเทคสหรัฐ พัฒนาชิพจีพีเอสรุ่นใหม่ สำหรับใช้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมชูจุดเด่นกินไฟน้อย ระบุตำแหน่งได้แม่นยำ ทั้งในและนอกตัวตึก ขณะที่เล็งนำปรับใช้ในเชิงพาณิชย์ จัดส่งคูปองส่วนลดให้ลูกค้าทางมือถือ

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บริษัทควอลคอมม์ อิงค์. บริษัทโมโตโรล่า อิงค์. บริษัทซิอาร์เอฟ เทคโนโลยี อิงค์. และบริษัทโกลบอล โลเคท อิงค์. ก้าวข้ามข้อจำกัดของเทคโนโลยีจีพีเอส ซึ่งไม่สามารถตรวจหาสัญญาณในตัวอาคารได้ ด้วยการพัฒนาชิพจีพีเอสและซอฟต์แวร์ เพื่อใช้รับข้อมูลจากเครือข่ายไร้สาย ส่งกลับไปยังโทรศัพท์

ชิพแอสซิส จีพีเอส (Assisted GPS) จะช่วยให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถค้นหาตำแหน่งของผู้ใช้คนอื่นได้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่บนมุมถนน หรือในอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าว ยังยอมให้ร้านค้าปลีกส่งคูปองลดราคาไปยังผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อพวกเขาเดินผ่านร้านได้ เซมิคอนดัคเตอร์ตัวใหม่นี้ มีประสิทธิภาพมากกว่าชิพจีพีเอสรุ่นเก่า เนื่องจาก สามารถทำงานแม้จะอยู่ในตัวอาคาร และกินไฟน้อย จึงทำให้เหมาะที่จะบรรจุไว้ในโทรศัพท์มือถือ

จีพีเอส เป็นระบบบ่งชี้พิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยกองทัพสหรัฐ เพื่อใช้ติดตามรถบรรทุกและนักโทษทัณฑ์บน ต่อมาช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 เริ่มนำมาติดตั้งในรถยนต์ อาทิ แผนที่และระบบทิศทางดิจิทัล แต่ในปัจจุบัน จีพีเอส กำลังจะบรรจุอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง นับตั้งแต่อุปกรณ์พกพาไปจนถึงกระเป๋าแบ็คแพ็ค กระนั้น การนำชิพจีพีเอสไปใช้ในโทรศัพท์มือถือ ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการสื่อสารสหรัฐ ตามคำสั่ง อี911 (E911) ซึ่งบังคับให้ผู้ให้บริการไร้สายอัพเกรดอุปกรณ์ของตนให้สามารถติดตามหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินได้ภายในปี 2548 อย่างไรก็ดี แม้ว่าผู้ให้บริการไร้สาย มีทางเลือกอื่นที่จะทำตามคำสั่งดังกล่าว อาทิ ระบบเครือข่ายที่ใช้สถานีฐานลูกข่ายกระจายสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังบ้าน แต่คาดว่า ชิพจีพีเอสจะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจาก มีความถูกต้องแม่นยำสูง

ทั้งนี้ จากรายงานของบริษัทคาห์เนอร์ อิน-สแตท กรุ๊ป ระบุว่า ในปีหน้าจะมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบจีพีเอสในสหรัฐประมาณ 11.1 ล้านเครื่อง เทียบกับโทรศัพท์ระบบเครือข่าย 54.3 ล้านเครื่อง และภายในปี 2549 โทรศัพท์ระบบจีพีเอส จะเพิ่มขึ้นเป็น 77.5 ล้านเครื่อง ขณะที่โทรศัพท์ระบบเครือข่ายจะอยู่ที่ 63.7 ล้านเครื่อง ขณะที่ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ไร้สายหลายแห่ง อาทิบริษัทเวอริซอน ไวร์เลส และบริษัทสปรินท์ พีซีเอส กรุ๊ป ซึ่งใช้มาตรฐานเทคโนโลยีไร้สายของบริษัทควอลคอมม์ กำลังจะหันมาใช้ชิพจีพีเอสควอลคอมม์ ซึ่งมีข้อดี คือ สามารถบรรจุไว้ในชุดชิพหลักได้ ส่วนผู้ให้บริการรายอื่น เช่น บริษัทเอทีแอนด์ที ไวร์เลส เซอร์วิส อิงค์. บริษัทซิงกูลาร์ ไวร์เลส และบริษัทที-โมบาย ธุรกิจในเครือของบริษัทดอยช์ เทเลคอม เอจี ซึ่งใช้มาตรฐานเทคโนโลยีไร้สายของยุโรป ยังคงใช้เทคโนโลยีระบบเครือข่าย เนื่องจาก ไม่ต้องอัพเกรดโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่อย่างใด เนื่องจาก ชิพจีพีเอสสำหรับมาตรฐานยุโรป ยังไม่รวมในชุดชิพปัจจุบัน และอาจจะทำให้ต้นทุนของผู้ให้บริการเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อเครื่อง

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 2 ธันวาคม 2545