อินเทลผุดชุดชิพรองรับ "ไฮเปอร์-เทรดดิ้ง"

แคลิฟอร์เนีย - อินเทล ประกาศเปิดตัวชุดชิพใหม่ 4 รุ่น ภายใต้เทคโนโลยีล่าสุด "ไฮเปอร์-เทรดดิ้ง" ชูคุณสมบัติเด่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานชิพเป็นสองเท่า พร้อมระบุเตรียมนำไปใช้ ในการผลิตพีซีครั้งแรก ขณะที่เล็งพัฒนาคอมพิวเตอร์ สำหรับปฏิบัติงานด้านกราฟฟิกในอนาคต

 

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บริษัท อินเทล คอร์ป. ได้แถลงเปิดตัว ชุดชิพใหม่ล่าสุด 4 รุ่น พร้อมคาดว่าจะสามารถสร้างความตื่นตัวในตลาดไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งกำลังซบเซาได้ ตัวแทนบริษัทอินเทล เปิดเผยว่า ชุดชิพทั้ง 4 รุ่น ซึ่งใช้ในการเชื่อมโยงไมโครโพรเซสเซอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ ภายในคอมพิวเตอร์ จะรองรับเทคโนโลยีไฮเปอร์-เทรดดิ้ง (Hyper-threading) ซึ่งทางบริษัทเตรียมใช้ในการผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในช่วงไตรมาสนี้

 

ทั้งนี้ เทคโนโลยีไฮเปอร์-เทรดดิ้ง จะช่วยให้ชิพประมวลผลตัวหนึ่ง มีคุณสมบัติการทำงานเทียบเท่ากับชิพ 2 ตัว ในโปรแกรมบางประเภท โดยบริษัทอินเทล ได้นำคุณสมบัติดังกล่าวไปใช้ในชิพเครื่องแม่ข่ายของบริษัทแล้ว และเตรียมนำมาใช้ในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) เป็นครั้งแรก หลังเปิดตัวชิพเพนเทียม 4 (Pentium 4) รุ่นความเร็วประมวลผล 3.06 กิกะเฮิรตซ์  นอกจากนี้ ชุดชิพรุ่นใหม่ ยังมีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อกับชิพความจำได้รวดเร็วขึ้น และบริษัทอินเทลก็มีแผนใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการพัฒนาวงจรสำหรับงานกราฟฟิกชั้นสูง ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติในการปฏิบัติงานด้านกราฟฟิกได้ โดยไม่ต้องบรรจุชิพหรือแผงวงจรเพิ่มเติม

 

นายดีน แมคคาร์รอน นักวิเคราะห์แห่งบริษัท เมอร์คิวรี่ รีเสิร์ช คาดประมาณว่า การเปิดตัวชุดชิพ 845จี (845G) ของบริษัทอินเทลเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ช่วยให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมชุดชิพเพิ่มขึ้นเป็น 62% ในช่วงไตรมาสที่สอง จากระดับ 58% ในช่วงไตรมาสแรก ตัวแทนบริษัทอินเทล กล่าวอีกว่า ทางบริษัทเตรียมวางจำหน่ายชุดชิพ รุ่น 845จีวี (845GV) ในราคา 28 ดอลลาร์, รุ่น 845พีอี (845PE) ในราคา 34 ดอลลาร์, รุ่น 845จีอี (845GE) ในราคา 37 ดอลลาร์ และ 850อี (850E) ในราคา 40 ดอลลาร์ โดยราคาดังกล่าว สำหรับการซื้อชิพ จำนวน 1,000 ชุดขึ้นไป

 

ก่อนหน้านี้ บริษัทอินเทล ได้เปิดตัวโครงการนาโนเทคโนโลยี ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาชิพของบริษัทในทศวรรษหน้า โดยใช้เทคโนโลยีมัลติเกต ทรานซิสเตอร์ และเทคโนโลยีคาร์บอน นาโนทิวบ์ เพื่อช่วยให้สามารถผลิตชิพ ที่มีขนาดเล็กกว่า 100 นาโนเมตร ได้ ขณะที่ชิพในปัจจุบันมีขนาดโดยเฉลี่ย 130 นาโนเมตร

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2545

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.