มุ่งพัฒนาการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้ขีดจำกัด
อินเทล เปิดตัวเทคโนโลยีชิพประมวลผลสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ "เซนทริโน" พร้อมทุ่มงบกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังกระตุ้นการใช้เน็ตไร้สายสนองความต้องการผู้บริโภค ชูคุณสมบัติเด่นยืดการทำงานแบตเตอรี่ พร้อมช่วยลดขนาด และน้ำหนักโน้ตบุ๊ค ด้านไอดีซีคาดอุตสาหกรรมไร้สายครองส่วนแบ่งตลาดถึง 35%

บริษัท อินเทล คอร์ป. แถลงเปิดตัวชิพไร้สาย "เซนทริโน" (Centrino) พร้อมกันทั่วโลกเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) โดยคาดว่าเทคโนโลยีชิพใหม่ล่าสุด จะเปลี่ยนโฉมโน้ตบุ๊คให้กลายเป็นอุปกรณ์พกพาที่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ตลาดชิพโน้ตบุ๊คปัจจุบันมีอัตราการเติบโตราว 17% ต่อปี ซึ่งชิพเซนทริโนจะช่วยให้อินเทลมีส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นชิพตัวแรกที่นำไปสู่ยุคของการเชื่อมต่อไร้สายแบบไร้ขีดจำกัด

ตัวแทนบริษัท อินเทล ประเทศสิงคโปร์ เผยว่า การเปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อมุ่งตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือผู้บริโภคทั่วไป ประกอบกับผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีชิพเซนทริโน ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กและเบาลง ขณะที่ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานกว่า 10 ชั่วโมง "เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นหนึ่งในสามองค์ประกอบสำคัญ ที่ช่วยให้การใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายโตขึ้น ขณะที่อีก 2 ปัจจัยได้แก่ ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากได้พีซีเคลื่อนที่อย่างแท้จริง และมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการที่มีความพร้อม" นายไล ยิต ลุง ผู้จัดการประจำประเทศสิงคโปร์ อินเทล เทคโนโลยี เอเชีย พีทีอี กล่าว

ทั้งนี้ ชิพเซนทริโนจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก 3 ตัว ได้แก่ตัวประมวลผล เพนเทียม-เอ็ม (Pentium-M) รุ่นใหม่ ความเร็ว 2.4 กิกะเฮิรตซ์, ชุดชิพประกอบอินเทล 855 และระบบเชื่อมต่อเครือข่าย โปร/ไวร์เลส 2100 โดยคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิพเซนทริโน จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเปิดตัวชิพภายใต้ชื่อการค้าดังกล่าว จะอยู่ใต้แนวคิด "ไร้สาย" (unwired) โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และแทบเล็ตพีซีกว่า 20 ยี่ห้อ รวมถึงจับมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศ เพื่อสร้างโครงข่ายไร้สายที่ช่วยให้ชิพประมวลผล สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นำร่องติดตั้งจุดเชื่อมต่อ 30 สนามบินทั่วโลก

ที่ผ่านมา อินเทลได้ทุ่มลงทุนเพื่อสนับสนุนการใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายไปแล้วกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายตามจุดบริการต่างๆ พร้อมติดป้ายสัญลักษณ์เซนทริโน ให้กับจุดที่ผ่านการทดสอบ โดยปัจจุบัน มีการติดตั้งจุดเชื่อมต่อในสนามบินราว 30 แห่งทั่วโลก และครอบคลุมพื้นที่โรงแรมกว่า 30 ล้านห้อง ขณะเดียวกัน อินเทลมีแผนใช้งบประมาณการตลาดในการเปิดตัว "เซนทริโน" มากกว่าการเปิดตัวเพนเทียม 4 ซึ่งใช้เงินไปกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับเป็นครั้งแรกที่อินเทลรวมเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับคอมพิวเตอร์พกพาแบบไร้สายเข้าด้วยกันภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียว ตราของเซนทริโนจะปรากฏพร้อมกับสัญลักษณ์ อินเทล อินไซด์ โดยโลโก้เซนทริโนจะใช้สีชมพูม่วง และฟ้า ในรูปทรงที่สื่อถึงการมุ่งไปข้างหน้า

เกาะติดโน้ตบุ๊ค-แทบเล็ต

อินเทลเผยว่า ชิพดังกล่าวจะใช้ในการผลิตโน้ตบุ๊คและแทบเล็ต พีซี เกือบทุกรุ่นภายในสิ้นปีนี้ นอกจากอุปกรณ์เดสก์โน๊ต (desknote) โดยทางบริษัทเชื่อว่าการเชื่อมต่อไร้สายและการใช้งานโดยไม่ยึดติดกับสถานที่ จะเป็นแกนสำคัญของการทำตลาดเครื่องโน้ตบุ๊คในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากการเติบโตของยอดจำหน่ายโน้ตบุ๊คที่มีอัตราสูงขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรายอดจำหน่ายพีซี นอกจากนี้ อินเทลยังมีแผนเปิดตัวเทคโนโลยีชิพรุ่นใหม่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.09 ไมครอน ซึ่งจะทำให้ชิพมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการผสานความสามารถในการทำงานแบบอนาล็อก และดิจิทัลได้ในตัวประมวลผลเดียวกัน ส่งผลให้ลดขนาด และต้นทุนของเครื่องโน้ตบุ๊คลงได้อีก

เครือข่ายไร้สายไวไฟ เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐ และกลุ่มประเทศยุโรป ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไอดีซีคาดการณ์ว่า ราว 35% ของโน้ตบุ๊คที่วางจำหน่ายทั่วโลกในปลายปีนี้ จะติดตั้งเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย ขณะที่การ์ทเนอร์ได้เคยประเมินว่า ในปี 2550 จะมีจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย (ไวร์เลส ฮอตสปอต) ราว 7 ล้านจุด และจำนวนเครื่องแม่ข่ายมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปลายปีนี้ จะมีมากถึงกว่า 500,000 แห่งทั่วโลก

คาดตลาดโต 35% ใน 3 ปี

รายงานของการ์ทเนอร์ ระบุว่า ปัจจุบัน อุปกรณ์ไร้สายมีส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดราว 20% และคาดว่าจะเพิ่มสูงเป็น 35% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นายมาร์ค มาร์จวิเชียส นักวิเคราะห์แห่งการ์ทเนอร์ยอมรับว่า ชิพเซนทริโนอาจช่วยเพิ่มคุณภาพ และปริมาณการใช้งานเครือข่ายไวไฟ แต่เทคโนโลยีไร้สายจะยังไม่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากจะต้องอาศัยจุดเชื่อมต่อฮอตสปอตเป็นจำนวนมหาศาล จึงจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ นายเควิน เครเวลล์ บรรณาธิการอาวุโส หนังสือ เดอะ ไมโครโปรเซสเซอร์ รีพอร์ต ให้ความเห็นว่า อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายไวไฟ น่าจะได้รับความนิยมมากในกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยด้านราคา และอายุการใช้งาน มากกว่าความเร็วประมวลผล ขณะเดียวกัน บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้ประกาศเตรียมแถลงเปิดตัวโน้ตบุ๊ค 3 ซีรีส์ ที่ใช้ชิพเซนทริโนในวันนี้ (13 มี.ค.)

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 มีนาคม 2546