ครม.ชะลอรวมจัดซื้อคอมพ์รัฐไปปีงบ 46

เหตุยังไม่มีความพร้อม ส่งผลผู้ประกอบการไทยเฮ ยืดเวลา ทำให้มีเวลาวางแผนเพิ่มขึ้น

ครม.เบรก จัดซื้อรวมคอมพิวเตอร์หน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองราคา ส่งผลต้องเลื่อนเป็นปี 2546 ขณะที่ ปี 2545 ให้จัดซื้อจัดจ้างตามเดิมก่อน เหตุยังไม่มีความพร้อม ขณะที่ผู้ประกอบการไทยเฮ ยืดเวลา ทำให้มีเวลาวางแผนเพิ่ม

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีศึกษาธิการ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เลื่อนแผนงานจัดซื้อคอมพิวเตอร์รวมของหน่วยงานภาครัฐ ไปดำเนินการในปีงบประมาณ 2546 เนื่องจากเห็นว่า ปีงบประมาณปัจจุบันล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว และหากยืนยันตามแผนเดิมที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณนี้ อาจส่งผลกระทบให้การดำเนินงานล่าช้า อย่างไรก็ตาม ครม. ตั้งข้อสังเกตเรื่องมาตรฐานครุภัณฑ์และคุณสมบัติ (สเปค) รวมทั้งรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับการกำหนดคุณสมบัตินั้น เป็นตามมาตรฐานของสำนักงานที่มีอยู่แล้ว ซึ่งในปีงบฯ 2545 นี้ให้ดำเนินการไปตามคุณสมบัติของหน่วยงานที่มีอยู่ ส่วนในปีงบประมาณหน้า จะใช้คุณสมบัติกลางที่สำนักงบประมาณมีอยู่ ซึ่งได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำไว้แล้ว ไม่ได้เป็นการกำหนดขึ้นใหม่

สำหรับการเสนอรวมการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ภาครัฐดังกล่าว นายสุวิทย์เคยเสนอเข้า ครม. ไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และ ครม.ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้ง โดยตั้งข้อสังเกตว่า การจัดหาไมโครคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากในคราวเดียวกัน อาจก่อให้เกิดปัญหาอย่างมาก ทำให้การดำเนินงานล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของหน่วยราชการ และการใช้งบฯ ที่ได้รับการจัดสรร รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบได้

เพิ่มเวลาจัดการให้รายย่อย

นายพิสิฐ พฤกษานุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบลต้า คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การเลื่อนการจัดซื้อคอมพิวเตอร์รวมภาครัฐออกไป ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อย หรือผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยี่ห้อไทย ในการเตรียมตัวมากขึ้น เพราะการจัดซื้อจำนวนมากๆ ในคราวเดียวนั้น ผู้ประกอบการรายย่อยจะเสียเปรียบ ขณะที่ บริษัทข้ามชาติจะมีกำลังเงิน มีฝ่ายรับผิดชอบการเช่าซื้อโดยตรง ทำให้มีอำนาจการจัดการขนาดใหญ่ได้มากกว่าผู้ผลิตไทย โดยก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการไทย ได้เจรจาหาทางออกต่อเรื่องดังกล่าว ว่าอาจทำการจัดซื้อคราวเดียว แต่ทยอยส่งมอบเครื่องเป็นคราวๆ ไป เช่น ครั้งละ 3,000-4,000 เครื่องต่อเดือน เป็นต้น

เอทีซีไอแนะ 3 ประเด็น

นายจำรัส สว่างสมุทร เลขาธิการสมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย (เอทีซีไอ) กล่าวว่า เห็นด้วยสำหรับการเลื่อนเวลาการจัดซื้อออกไปในปีงบประมาณหน้า เพราะนโยบายการจัดซื้อเครื่องปริมาณมาก และรวมศูนย์นั้น ยังมีข้อต้องคำนึงหลายประการ

ประกอบด้วย

1. การจัดซื้อพีซีรวมจะได้ลดราคาลงก็จริง แต่คงไม่ได้สัดส่วนสูงมากนัก เนื่องจากราคากำไรของเครื่องพีซีไม่ได้สูงเกินกว่า ร้อยละ 10 ขณะที่ ความยุ่งยากการติดตั้งและบริการ โดยเฉพาะหากกระจายอยู่ในหลายจังหวัด จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และเอกชนที่มีความพร้อมการให้บริการมีน้อย

2. จำนวนบริษัทที่ขายคอมพิวเตอร์มีอยู่ 200-300 บริษัท ซึ่งโดยมากเป็นบริษัทเล็ก ที่ไม่มีศักยภาพการเข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่

3. ความต้องการที่หลากหลายของแต่ละหน่วยงานเอง ซึ่งจะมองระบบเป็นโซลูชั่น การแยกซื้อเฉพาะพีซีจะทำให้เกิดผลกระทบได้

"สิ่งที่รัฐน่าจะพิจารณาแนวทางกาจัดซื้อไอทีภาครัฐ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น หน่วยงานรัฐต้องออกแบบความต้องการระบบให้ชัดเจน เพื่อให้เอกชนสามารถกำหนดราคาเข้าร่วมได้ รวมถึงการจ้างที่ปรึกษาตรวจสอบว่า ความต้องการที่ออกมานั้น เหมาะสมกับการทำงาน และงบประมาณของหน่วยงานหรือไม่ เพื่อสามารถใช้งบได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายจำรัส กล่าว

กระทบเป้ารายได้

นายธนา ธนะแพสทย์ ผู้จัดการฝ่ายช่องทางจำหน่าย บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี กล่าวว่า การชะลอการจัดซื้อแบบรวมศูนย์ของรัฐออกไปนั้น จะส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้าง เนื่องจากการรวมศูนย์จะช่วยให้เกิดการแข่งขันระหว่างภาคเอกชนที่ดี ขณะที่รัฐเองก็จะได้สินค้าราคาที่ต่ำลง อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วยทั้งราคาต่อประสิทธิภาพ การบริการหลังการขาย ศูนย์บริการต่างจังหวัด และการรับประกันสินค้า

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 มกราคม 2545

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.