พีซีไทยโดนหางเลข "เอื้ออาทร" หวั่นถูกแย่งแชร์-งัดแผนรับมือ

ยักษ์พีซีโลคอลแบรนด์วางแผนรับมือโปรเจ็กต์ "คอมพิว เตอร์เอื้ออาทร" หวั่นตลาดชะงักถูกภาครัฐแย่งลูกค้า จับตากระแสการตอบรับของตลาดอย่างใกล้ชิด ปรับแผนอุตลุดรักษามาร์เก็ตแชร์ "เอเทค" เตรียมส่งพีซีรุ่นพิเศษลดสเป็ก ลงบี้ตลาด พร้อมออกแคมเปญพิเศษเจาะกลุ่มสถาบันการศึกษาสร้างตลาดทดแทน เผยแนวโน้มราคาพีซีในตลาดต้องปรับลงอีกระลอก ไม่ให้ทิ้งห่างคอมฯเอื้ออาทร ด้าน "หมอเลี้ยบ" ประกาศเปิดจองต้น พ..นี้

นายนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด แสดงความคิดเห็นกับ "ประชาชาติธุรกิจ" เกี่ยวกับผลกระทบของโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ว่า โครงการนี้ต้องการขยายโอกาสกลุ่มผู้มีคอมพิวเตอร์ลงไประดับล่างซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าโครงการนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้ตลาดรับรู้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการนี้ออกมาก็ทำให้กำลังซื้อกลุ่มคอนซูเมอร์หยุดชะงักเพราะรอดูความชัดเจน รวมถึงรอซื้อคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรด้วย

ทั้งนี้ รูปแบบโครงการนี้ คือ กระทรวงไอซีที เป็นเจ้าของโครงการซึ่งภาครัฐมีกำลังซื้อสูงทำให้สามารถเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ดี ซึ่งหากสามารถเคาะราคาออกมาที่ 10,900 บาทจริงก็ถือว่าเป็นราคาที่ดีมาก และคงจะส่งผลกระทบกับตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมด้วย เพราะโปรเจ็กต์นี้ก็เหมือนกับการเข้ามาแทรก แซงตลาดของภาครัฐโดยไม่คิดกำไร แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นผลดีในการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของตลาดระดับล่าง และช่วยขยายฐานลูกค้ามากขึ้น

"เอเทค" งัดแผนรับมือเต็มสูบ
"ผู้ประกอบการพีซีในประเทศได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะตลาดถูกแย่งไปส่วนหนึ่ง ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในส่วนของเอเทคก็กำลังดูว่าจะรักษาระดับราคาไม่ให้ทิ้งห่างกันมาก เพราะอาจจะทำให้เสียมาร์เก็ตแชร์ไปได้ ซึ่งบริษัทอาจจะต้องทำพีซีรุ่นพิเศษออกมาโดยลดฟีเจอร์บางอย่างที่ไม่จำเป็น เช่นเดิมเอเทคจะมีมาตรฐานจอขนาด 17 นิ้ว ก็อาจจะปรับเป็นจอขนาด 15 นิ้วแทน เพื่อทำให้ระดับราคาใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร โดยคาดว่าควรจะมีส่วนต่างราคาไม่เกิน 10-20%"

นอกจากนี้ จะต้องโฟกัสกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ระดับกลางและบนแทน โดยทำแผนการตลาดที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มชัดเจน เช่น ในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าสถาบันการศึกษาเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มั่นคงและมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายนนี้เอเทคได้เริ่มทำแคมเปญพิเศษสำหรับกลุ่มสถาบันการศึกษา เนื่องจากสถาบันการศึกษาภาครัฐส่วนใหญ่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณจากส่วนกลางไม่เพียงพอ แต่มีความจำเป็นและความต้องการที่จะขยายห้องคอมพิวเตอร์เพิ่ม ดังนั้นทางบริษัทจึงเสนอเป็นโปรแกรมเงินผ่อนปีละ 2 ครั้งในช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งสถาบันการศึกษาจะมีรายได้จากค่าบำรุงการศึกษา

นายนิธิพัฒน์กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับสถาบันการเงินจัดทำเป็นแพ็กเกจออกมาเสนอว่าห้องคอมพิวเตอร์ขนาด 20 เครื่องจนถึง 100 เครื่องแต่ละห้องเรียนจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ และสถาบันการศึกษาจะต้องผ่อนงวดละเท่าไหร่ คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 2-3 นี้ตลาดการศึกษาจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ  นอกจากนี้ นายนิธิพัฒน์กล่าวแสดงความคิดเห็นเรื่องขั้นตอนการจัดจ้างว่า เมื่อภาครัฐเป็นเจ้าของโครงการ และทำการประมูลจัดซื้อชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์แบบเป็นวอลุ่มเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด ดังนั้นในส่วนของการว่าจ้างเอกชนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ควรที่จะเป็นการเปิดประมูลเช่นกัน ซึ่งอาจจะเลือก 2-3 รายช่วยกันผลิต สำหรับในแง่ของคุณภาพมาตรฐานก็ต้องกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของโรงงานผู้ประกอบให้ชัดเจน ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ไอซีทีได้ต้นทุนการผลิตที่ดีที่สุด

"เราไม่เห็นด้วยกับการที่ไอซีทีมีนโยบายที่จะมอบหมายความรับผิดชอบดังกล่าวให้ทางสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย (เอทีซีเอ็ม ) เพื่อไปจัดสรรโควตาให้กับสมาชิก เพราะการกระจายวอลุ่มก็จะทำให้ควบคุมคุณภาพยากและทำให้ต้นทุนสูงกว่า เพราะวัตถุประสงค์ของกระทรวงไอซีที คือ ทำพีซีราคาถูกเพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น"

สำหรับเอเทคเองก็สนใจที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับจ้างประกอบแน่นอนเพราะถือว่าเป็นงานถนัดของบริษัท ที่ผ่านมาก็เคยรับจ้างผลิตจากต่างประเทศแล้ว โดยบริษัทมีกำลังการผลิตประมาณ 20,000 เครื่องต่อเดือน สำหรับค่าจ้างประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ตามมาตรฐาน พร้อมด้วยการทดสอบคุณภาพนั้นจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 200 บาทต่อเครื่อง

SVOA ยอมรับโดนหางเลข
ขณะที่นางสาวจันทนา ลีลาสงวน ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตพีซีประกอบในประเทศ "เอสวีโอเอ" กล่าวถึงผลกระทบของโปรเจ็กต์คอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ว่า คงมีผลกระทบบ้างแต่เชื่อว่าคงไม่มาก เป็นส่วนของตลาดล่างที่ต้องการสินค้าราคาถูก ซึ่งที่ผ่านมาเอสวีโอเอก็มีสินค้าที่ครอบคลุมทุกตลาดรวมทั้งเครื่องตลาดล่าง เพราะบริษัทก็ไม่อยากเสียส่วนแบ่งตลาด เมื่อคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรออกมาบริษัทก็คงจะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ระดับราคาใกล้เคียงกันมากขึ้น

"ราคาของคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรย่อมกระทบต่อตลาดอย่างแน่นอน เราบริษัทคงไม่ไปทำราคาแข่งกับคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรโดยตรง แต่เราจะโฟกัสลูกค้าอีกกลุ่มเพราะความต้องการของลูกค้านั้นหลากหลาย โดยเน้นที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แตกต่าง นอกจากนี้สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับความเชื่อมั่นเรื่องการบริการหลังการขายว่าจะมีคนดูแลตลอด 1-3 ปี"

ส่วนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงน่าจะเป็นร้านค้าประกอบคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีแบรนด์ตามศูนย์ไอทีต่างๆ เพราะตลาดของกลุ่มนี้จะเป็นตลาดเดียวกันโดยตรง เมื่อคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรเข้ามาเป็นทางเลือก แทนที่ลูกค้าจะไปซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จากร้านประกอบเองที่มีความเสี่ยงทั้งในเรื่องมาตรฐาน รวมทั้งบริการหลังการขาย นางสาวจันทนากล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการเข้าไปรับจ้างประกอบคอมพิวเตอร์เอื้ออาทรนั้นบริษัทก็สนใจ เพราะเรามีศักยภาพที่สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

ด้านนายพิสิฐ พฤกษานุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบลต้า คอมพิวเตอร์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย (เอทีซีเอ็ม) กล่าวยอมรับว่า โปรเจ็กต์คอมพิวเตอร์เอื้ออาทรมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพีซีเช่นกันแต่ไม่มาก คาดว่าประมาณ 20% ของตลาด และที่สำคัญโครงการนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ในส่วนของเบลต้านั้นจะมาโฟกัสตลาดระดับกลางและบน โดยไม่เน้นนโยบายราคาเป็นหลัก แต่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่มากกว่าแทนที่จะปรับลดราคาลงมาชน

เปิดจองทั่ว ปท.ต้น พ..นี้
ขณะที่นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการคอมพิวเตอร์ราคาถูกเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ครู และประชาชนทั่วไป จำนวน 100,000 เครื่อง ในระดับราคาเครื่องละ 10,900-12,000 บาทพร้อมการรับประกัน 1 ปี ด้วยบริการหลังการขายจากหน่วย "พีซี แคร์" ของ กสท. โดยธนาคารออมสินจะเข้ามาสนับสนุนเงินกู้รายละไม่เกิน 15,000 บาทผ่อนชำระ 1-3 ปี ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้จองช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้และส่งมอบในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 เมษายน 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.