ระแวงภัย 'วันสังหาร' เขย่าบัลลังก์ไมโครซอฟท์

รัชสิรินธร์ เจริญพิทยา

ที่มา - วอลล์ สตรีท เจอร์นัล

 

อุตสาหกรรมไฮเทคตื่นภัย "เดย์ ซีโร่" ภาวะโจมตีเครือข่าย ไร้สัญญาณ เตือนภัยล่วงหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์ ฟันธงสร้าง ความหายนะ ตลาดวินโดว์ส ครั้งใหญ่ พร้อมชี้แนวโน้มบีบ ผู้ประกอบการหนีใช้โปรแกรมคู่แข่ง แต่ยังเชื่อมั่น ไมโครซอฟท์ ครองส่วนแบ่งเดสก์ทอป กว่า 90% ถึงปี 2550 การโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของไวรัสคอมพิวเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ บริษัทเทคโนโลยีหลายราย เริ่มหันมาตั้งคำถาม กันอย่าง จริงจังว่า หาก สถานการณ์ที่เรียกว่า เดย์ ซีโร่ (day zero) เกิดขึ้นจริง ตามที่หวาดกลัวกัน จะก่อให้เกิด ความสูญเสีย ในระดับไหน

 

"เดย์ ซีโร่ เป็นชื่อที่ผู้เชี่ยวชาญสมมติขึ้น เพื่อใช้เรียก สถานการณ์ ที่แฮคเกอร์ เข้าโจมตี เครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการ เตือนภัยล่วงหน้า เนื่องจากเป็น การอาศัยข้อบกพร่อง ที่ผู้ผลิต ซอฟต์แวร์เองก็ยังค้นไม่พบ ผิดกับไวรัสเทคโนโลยี และเวิร์ม ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ที่มักอาศัยรูโหว่ ซึ่งมีการออก โปรแกรม ซ่อมแซมไปแล้ว ภาวการณ์ที่ว่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตใน อุตสาหกรรม เทคโนโลยี กำลังหวาดกลัวกันอยู่มาก

 

นายมาร์ค ดิคเคลแมน หัวหน้าฝ่ายข้อมูลบริษัทอาเน็กซิส ผู้วิเคราะห์การ ใช้จ่ายด้านอิเล็กทรอนิกส์ คาดการณ์ว่า ตนจะได้รับผลกระทบ สูงมากจากการ โจมตีเช่นนี้ ด้วยเหตุที่ไวรัสส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่ซอฟต์แวร์วินโดว์ส ของไมโครซอฟท์เป็นหลัก กระบวนการการ ฟื้นฟูไปจนถึง ติดตั้งโปรแกรม ซ่อมแซมอาจต้องใช้เวลาหลายวัน ซึ่งหมายความว่ากำลังการผลิตของ บริษัทจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับเผยว่า ทางบริษัทเตรียมรับมือโดยการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์บางส่วน ไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่วินโดว์ส

 

บริษัทต่างๆ เริ่มต้องการใช้ระบบปฏิบัติการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกโจมตีโดยไวรัส หรือเวิร์ม ที่นับจะมีจำนวน เพิ่มมากขึ้นทุกวัน นายดิคเคลแมน กล่าว เราจำเป็นต้องมีสัดส่วนของคอมพิวเตอร์ที่ไม่ตกเป็นเป้าโจมตีรูปแบบเดียวกัน และบริษัทอื่นๆ ก็เริ่มมีความสนใจในนโยบายเช่นนี้กันแล้ว ในช่วงที่เวิร์มโซบิ๊ก และบลาสเตอร์ ออกอาละวาดเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลายรายก็เริ่มตื่นตระหนก และเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับภัยที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังเช่นกรณีของ เดย์ ซีโร่

 

โอกาสทองซอฟต์แวร์คู่แข่ง

นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับคู่แข่งของไมโครซอฟท์ เช่น แอปเปิล คอมพิวเตอร์ อิงค์., ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์. และลินโดว์ส ดอท คอม อิงค์. จากข้อมูลของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ไซมานเทค พบว่า มีไวรัสและรหัสอันตรายเข้าโจมตีระบบปฏิบัติการวินโดว์สกว่า 4,000 ครั้งในปีนี้ แต่ยังไม่มีไวรัสตัวใดที่โจมตีเครื่องแมคอินทอชเลยตั้งแต่ปี 2543 และมีบันทึกการโจมตีระบบปฏิบัติการยูนิกซ์และลินิกซ์ ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ต่อยอดมาจากยูนิกซ์ทั้งหมดเพียง 11 ครั้งเท่านั้น ส่วนผู้ผลิตบางรายก็เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อตอบรับกระแสดังกล่าว เมื่อต้นปีนี้ บริษัท จีแมค คอมเมอร์เชียล เมอท์เกจ คอร์ป. ได้วางจำหน่ายคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปที่ไม่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สไป 200 เครื่อง พีซีเหล่านี้ใช้ซอฟต์แวร์จากบริษัทวีเอ็มแวร์ ที่แยกส่วนระบบปฏิบัติการออกจากส่วนฮาร์ดแวร์ เพื่อให้สามารถรันได้ทั้งระบบปฏิบัติการวินโดว์ส และลินิกซ์

 

ฝ่ายผู้ผลิต เผยว่า ผู้ใช้สามารถสั่งปิดเครื่องพีซีเหล่านี้ได้ง่ายมาก เวิร์มเข้าโจมตีเครือข่าย ดังเช่นในสถานการณ์ช่วงเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เครื่องติดเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมพอใจกับคุณสมบัติของวินโดว์ส ในการใช้งานทั่วไป นายนิรัจ พาเทล หัวหน้าฝ่ายข้อมูล กล่าว แต่สำหรับบางสถานการณ์ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจมาก การมีระบบปฏิบัติการที่หลากหลายน่าจะปลอดภัยกว่า

 

บริษัทคู่แข่งต่างก็ไม่ลังเลที่จะใช้จุดอ่อนเหล่านี้ เป็นเครื่องมือแย่งส่วนแบ่งตลาดจากไมโครซอฟท์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซันได้เปิดตัวโปรแกรมสำหรับพีซีเดสก์ทอป ที่ใช้จาวา เดสก์ทอป ซิสเต็มส์ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถรันบนพีซีที่ใช้ลินิกซ์ หรือยูนิกซ์ก็ได้ และมีทั้งโปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ต, ฟังก์ชั่นรับส่งข้อความทันใจ รวมถึงระบบงานอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกับวินโดว์ส และอ้างว่าจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อาจไม่ต้องการใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์

ถ้าคุณคิดถึงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ที่ต้องสูญเสียไป เนื่องมาจากการโจมตีของไวรัส เหตุการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการตัวนี้ นายอิงกริด ฟอน เดน ฮูเกน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของซันกล่าว เราจำเป็นต้องมีทางเลือกอื่น เนื่องจากความสูญเสียจากไวรัสมีมากเหลือเกิน

 

ครองตลาดเดสก์ทอปต่อเนื่องถึงปี 2550

จากการคำนวณของบริษัทไอซีเอสเอ แลบส์ บริษัทต่างๆ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยราว 81,000 ดอลลาร์ เพื่อฟื้นตัวจากการโจมตีของไวรัสเมื่อปี 2545 เพิ่มจากสถิติ 69,000 เมื่อปีก่อนหน้านี้ และคาดว่าความสูญเสียจากภาวะ เดย์ ซีโร่ น่าจะสูงยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบริษัทต่างๆ จะหันไปเลือกใช้ระบบปฏิบัติการอื่นเพื่อป้องกันปัญหาเวิร์มอินเทอร์เน็ต นายอัล กิลเลน ผู้วิจัยด้านระบบปฏิบัติการให้แก่ไอดีซี ทำนายว่า วินโดว์สจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเดสก์ทอปกว่า 90% ไปจนถึงปี 2550 เป็นอย่างน้อย และความเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตาม จะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดของไมโครซอฟท์ไปได้เพียง 1-2% เท่านั้น

 

ขณะที่ นายมาร์ตี้ ลินด์เนอร์ หัวหน้าทีมประจำศูนย์ความร่วมมือด้านเหตุฉุกเฉินทางคอมพิวเตอร์ องค์กรอิสระ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการโจมตีคอมพิวเตอร์ เผยว่า การเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ก็ใช่ว่าจะทำให้บริษัทเหล่านี้ปลอดภัยไปได้นานนัก เนื่องจากโปรแกรมใดเริ่มเป็นที่นิยม ก็จะตกเป็นเป้าโจมตีของนักเขียนไวรัสได้ทันที

คุณอาจจะปลอดภัยได้สัก 95% แต่จะไม่มีวันปลอดภัย 100% เขากล่าว สำหรับ 5% ที่เหลือ คุณจะต้องพึ่งพาระบบความปลอดภัยของตัวเอง

 

นายมาร์ค เวสต์ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลบริษัทผลิตซอฟต์แวร์เกมยักษ์ใหญ่ อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ท กล่าวว่า ทางบริษัทของตน ก็เริ่มติดตั้งซอฟต์แวร์เดสก์ทอปจากซัน ในคอมพิวเตอร์บางเครื่องแล้ว และอาจมีการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส ขณะที่ นายดิคเคลแมน กล่าวว่า เรายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่เห็นได้ชัดว่า การมีมาตรฐานเดียวสำหรับอุตสาหกรรมพีซีเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างยิ่ง นายเกรก ซัลลิแวน หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์วินโดว์สของไมโครซอฟท์กล่าวว่า ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์ตระหนักถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวดี และทางบริษัทกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการออกแบบซอฟต์แวร์เพื่อให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ ได้แต่คาดหวังว่า การลงทุนจำนวนมหาศาลสำหรับติดตั้งและเรียนรู้การใช้โปรแกรมไมโครซอฟท์ จะทำให้บริษัทต่างๆ ไม่ต้องการเลิกใช้วินโดว์ส และเมื่อเปรียบเทียบระบบงานและเครื่องมือของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์แล้ว เราให้ทางเลือกที่ดีกว่าผู้ผลิตรายอื่นมาก

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (SciTech) ฉบับวันที่ 25 กันยายน 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.