โดโคโมเผยโฉมมือถือใช้แทนกระเป๋าสตางค์

เชื่อปฏิวัติวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่

ยักษ์ใหญ่โดโคโม เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมมือถือใหม่ล่าสุด ใช้เทคนิคติดตั้งชิพอัจฉริยะ ช่วยแปลงโฉมเป็นกระเป๋าสตางค์ พร้อมบริการเช็คอิน-เปิดประตูบ้าน เผยยักษ์ใหญ่สะดวกซื้อ เอเอ็ม/พีเอ็ม ร่วมมือติดตั้งระบบ เชื่อได้รับความนิยมเหนือไอ-โหมด เล็งขยายตลาดออกนอกประเทศ

 

หนังสือพิมพ์ เอเชียน วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บริษัทเอ็นทีที โดโคโม อิงค์. ผู้ให้บริการเครือข่ายอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ได้แถลงเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่ล่าสุด 4 รุ่น ที่ติดตั้งบัตรอัจฉริยะ "เฟลิกา" (FeliCa) ของบริษัทโซนี่เอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรม, เช็คอิน หรือเปิดประตูบ้าน ผ่านทางมือถือได้ ตัวแทนบริษัทเผยว่า บัตรอัจฉริยะดังกล่าว จะบรรจุชิพที่สามารถเก็บเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมทั้งสามารถบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ที่มักอยู่ในกระเป๋าสตางค์ทั่วๆ ไป อาทิ หมายเลขบัตรเครดิต และบัตรประจำตัวพนักงาน และทางบริษัทมีแผนวางจำหน่ายมือถือรุ่นดังกล่าว ในประเทศญี่ปุ่น ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้

 

ทางโดโคโมและโซนี่ เผยว่า ที่ผ่านมา ทางบริษัทมีความร่วมมือกับผู้ค้าปลีก และผู้ดำเนินธุรกิจบริการราว 39 ราย อาทิ ออล นิปปอน แอร์เวย์ส และบริษัทสะดวกซื้อ เอเอ็ม/พีเอ็ม โค. ให้ติดตั้งระบบจ่ายเงินดังกล่าว ลงในร้านค้าปลีกของบริษัท และทั้งสองมีแผนที่จะวางจำหน่ายมือถือรุ่นใหม่ นอกประเทศญี่ปุ่นในอนาคตด้วย

นายคาซึโย คัตสึม่า นักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคม ของบริษัท เจ.พี.มอร์แกน ให้ความเห็นว่า ระบบของโดโคโม อาจได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น "นี่เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะสำหรับโดโคโมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ค้าปลีก และผู้ดำเนินธุรกิจอื่นๆ ด้วย" เขากล่าว

 

ขณะที่นายทาเคชิ นัตสึโนะ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการของบริษัท กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ชิพเฟลิกา อาจไม่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับโดโคโมมากนัก จากการใช้บริการของลูกค้า เนื่องจากทางบริษัท จะไม่ได้รับส่วนแบ่งยอดขายจากร้านค้าปลีก แต่บริษัทคาดหวังว่า จะสามารถทำกำไรได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์เทคโนโลยี ให้แก่ผู้ให้บริการมือถือรายอื่นๆ "ผมมั่นใจว่า เทคโนโลยีตัวนี้ จะได้รับความนิยมยิ่งกว่าไอ-โหมดเสียอีก" เขากล่าว

 

ทั้งนี้ โดโคโม ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของบริษัทนิปปอน เทเลกราฟ แอนด์ เทเลโฟน คอร์ป. สามารถแจ้งเกิดในตลาดมือถือโลกครั้งแรก ด้วยการเปิดตัวบริการไอ-โหมด (i-mode) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในญี่ปุ่น โดยบริการดังกล่าว ช่วยให้ลูกค้าสามารถท่องเวบ และรับส่งอีเมลผ่านทางมือถือได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทเริ่มชะลอตัวลง และทางบริษัทได้หันมาเปิดให้บริการใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือธุรกิจหลักของตน อาทิ บริการดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้าและเกม ซึ่งระบบจ่ายเงินผ่านบัตรอัจฉริยะ ก็เป็นหนึ่งในแผนเปิดตลาดใหม่ๆ ของบริษัทเช่นกัน ผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าด้วยมือถือ จะต้องนำโทรศัพท์ไปแตะกับอุปกรณ์ตรวจจับ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแคชเชียร์ หรือถือเครื่องไว้ใกล้ๆ จากนั้น เครื่องจะถอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้โดยตรง หรืออาจเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีบัตรเครดิต

 

ขณะที่ทางบริษัทยังติดตั้งอุปกรณ์อ่านข้อมูล ไว้ในเครื่องขายของอัตโนมัติหลายแห่งในประเทศด้วย รวมทั้งมีการติดตั้งระบบล็อกอัตโนมัติ ไว้ตามตึกอพาร์ตเมนต์บางแห่ง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปิดล็อกด้วยชิพเฟลิกาได้ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ รวมถึงการเช็คอินที่สนามบิน, จองตั๋วละครผ่านบริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ หรือการใช้แทนบัตรเข้าโรงละคร หรือคอนเสิร์ต อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของเทคโนโลยีดังกล่าว ในกรณีที่มือถือหายหรือถูกขโมย โดยปัจจุบัน ทางบริษัทเผยว่า มีมือถือเฟลิกาเพียงเครื่องเดียว ที่ได้รับการติดตั้งฟังก์ชันความปลอดภัยพิเศษ โดยโทรศัพท์เครื่องนี้ ผลิตโดยบริษัทฟูจิตสึ และมีการใช้ระบบล็อกจากระยะไกล ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้มือถืออีกเครื่อง โทรไปสั่งระงับการทำงานของเครื่องได้

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2547

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.