รัฐบาลเดินหน้าลุยแผน "อีกัฟเวิร์นเมนต์" ทศทฯเฮรับเหมา "คอลเซ็นเตอร์" ภาครัฐ

รัฐบาลดันแผนปฏิบัติการ "อีกัฟเวิร์นเมนต์" เข้า ครม.ในอีก 2 สัปดาห์ สั่งทุกหน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลเข้าไปที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ฝันหรู 6 ปีศักยภาพไอทีประเทศไทยอยู่ระดับแนวหน้า ด้าน ทศทฯส้มหล่นรับเหมาทำระบบคอลเซ็นเตอร์กลางของภาครัฐให้บริการประชาชนทั้งประเทศ

...ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่างแนวทางการดำเนินการโครงการอีกัฟเวิร์นเมนต์ ว่าให้ทุกหน่วยงานราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไปจะต้องมีเว็บไซต์เพื่อให้บริการประชาชนได้ภายในสิ้นปี 2546 เพื่อเป็นรากฐานการให้บริการประชาชนสู่รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้หน่วยงานระดับกรมที่มีการกระจายการทำงานสู่ภูมิภาคจะต้องมีระบบอินทราเน็ตเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้ รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงสู่ระบบศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี หรือ "พีเอ็มโอซี" (PMOC : prime minister operation center) เพื่อนำข้อมูลจากทุกหน่วยงานมาวางแผนบริหารยุทธศาสตร์ของประเทศได้อย่างถูกต้อง

เมื่อเริ่มกระบวนการอีกัฟเวิร์นเมนต์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องรวดเร็วจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับระดับโลกได้ หากทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างจริงจังตามแผนงานภายใน 6 ปี คาดว่าไทยจะมีศักยภาพในระดับแนวหน้าของโลก เพราะมีความมั่นคงของประเทศเนื่องจากมีการบริหารจัดการและนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนเชิงกลยุทธ์ได้ การก้าวสู่อีกัฟเวิร์นเมนต์ที่ดีจะต้องมีการบริหารจัดการองค์กรที่ดีด้วย ซึ่งผู้บริหารองค์กรต้องเป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ เช่น บริษัทดอตคอมมุ่งแต่เรื่องเทคโนโลยีแต่ไม่มีข้อมูลที่ดีเพื่อนำมาวิเคราะห์ได้จึงทำให้ต้องล้มกิจการไป

ด้าน น..สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวเสริมว่า โครงการอีกัฟเวิร์นเมนต์เป็นยุทธศาสตร์เพื่อสร้างบริการสำหรับประชาชนและความมั่นคงของประเทศในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต รวมทั้งการสร้างความปลอด ภัยของข้อมูลซึ่งคาดว่าภายใน 2 ปีประเทศไทยจะสามารถเข้าสู่การเป็นอีไทยแลนด์ และสามารถแข่งขันกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านอีกัฟเวิร์นเมนต์และอีโซไซตี้ที่สมบูรณ์แบบ

ภารกิจหลักของกระทรวง คือ เป็นเจ้าภาพประสานงานให้ทุกหน่วยงานรัฐเชื่อมต่อข้อมูลถึงกันได้ ซึ่งเรื่องใหญ่ขณะนี้คือการสร้าง back office ของแต่ละแห่งขึ้นมารองรับการทำงาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ในงานบางประเภทอาจเอาต์ ซอร์ซให้เอกชนเข้ามาดำเนินการได้  "เป้าหมายเร่งด่วนโครงการอีกัฟเวิร์นเมนต์ที่จะต้องแล้วเสร็จภายใน 30 กันยายนนี้ ประกอบด้วย การใช้ระบบสมาร์ตการ์ดเพื่อขอรับบริการจากหน่วยงานรัฐ และทุกกระทรวงต้องมีบริการคอลเซ็นเตอร์ให้บริการประชาชน รวมถึงการเชื่อมข้อมูลเบื้องต้นระดับกรม, กระทรวงต่อไปยังพีเอ็มโอซีของรัฐบาลได้"

..สุรพงษ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังอนุมัติเห็นชอบในหลักการโครงการ "อีกัฟเวิร์นเมนต์" 15 ประเด็นหลัก โดยเตรียมเสนอต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอีก 2 สัปดาห์ โดยขณะนี้มีหน่วยงานรัฐให้บริการนำร่องด้านอีเซอร์วิสแล้ว 2-3 แห่ง อาทิ กระทรวงการคลัง, กระทรวงไอซีที, กระทรวงพลังงาน รวมทั้งโครงการไอซีทีซิตี้ในจังหวัดภูเก็ต, เชียงใหม่ และขอนแก่น

ทั้งนี้ 1 ใน 15 เป้าหมายสำคัญ คือ บริการคอลเซ็นเตอร์กลางของหน่วยงานรัฐ โดยได้มอบหมายให้บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับหน้าที่เป็นผู้ให้บริการกับประชาชนแทนทุกหน่วยงาน โดยมีศูนย์กลางที่ ทศทฯ สำนักงานใหญ่ ซึ่งวิธีดังกล่าวจะส่งเสริม ทศทฯขยายธุรกิจและหารายได้จากบริการคอลเซ็นเตอร์ในอนาคตได้ โดยที่หน่วยงานรัฐอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม หรือกรณีที่บริการมีมากขึ้น สามารถเอาต์ซอร์ซให้กับเอกชนที่มีบริการคอลเซ็นเตอร์ได้เช่นกัน

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 มีนาคม 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.