ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหนาวๆ ร้อนๆ ดิ้นทุกทางให้ได้ยอดขายตามเป้า

วิเคราะห์

หลังจากผ่านไตรมาส 1 และ 2 มาหมาดๆ กลายเป็นว่าภาวะตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ดูไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นค่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น เกาหลี หรือยุโรป ที่เป็นรูปธรรมอย่างยิ่งเห็นจะเป็นโมเดิร์นเทรดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับแนวหน้าของประเทศ ทั้งเพาเวอร์บาย และเพาเวอร์มอลล์ ต่างยอมรับกันถ้วนหน้าว่า ยอดขายไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ หนำซ้ำยังมีทิศทางการเติบโตที่ลดลง

อุทัย โล้วมั่นคง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทวิจัยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยืนยันกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลจากการสำรวจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ออกมา ทำให้บริษัทไม่กล้าที่จะฟันธงมูลค่าตลาดรวมในปีนี้ว่าจะเป็นเท่าไร

ทั้งไตรมาสที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดขายตกลงตลอด ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับทำให้คาดกันว่า มูลค่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าเฉพาะกลุ่มภาพและเสียง (AV) ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 36,000-37,000 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2545 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 39,000 ล้านบาท

สำหรับเหตุผลที่มูลค่าตลาดรวม โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเอวี ลดลงจากปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะราคาขายปลีกสินค้าที่ลดลง ตามด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่นำเงินไปใช้จ่ายในเรื่องอื่นจะนำมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้เครื่องใช้ไฟฟ้าโตได้ไม่เท่ากับปีที่แล้ว ยังมาจากลูกค้าซื้อสินค้าเงินผ่อนลง "ลูกค้ามีภาระต้องผ่อนสินค้ากันเต็มมือหมดแล้ว"

ผู้บริหารบริษัทวิจัยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ารายนี้ชี้ให้เห็นด้วยว่า การลดลงของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเอวี ยังเกิดมาจากสินค้าบางตัวยอดขายตกลง โดยเฉพาะเครื่องเสียงซึ่งตกลงต่อเนื่องจากปีที่แล้วประมาณ 3% หรือทีวีสี ซึ่งเป็นสินค้าอีกตัวหนึ่งที่คาดว่าน่าจะมียอดขายเติบโต แต่กลับไม่โต และมียอดขายลดลงถึง 10% นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่า ทำไมมูลค่าตลาดรวมกลุ่มเอวีจะไม่สดใสเหมือนปีที่แล้ว !!! และก็ไม่ใช่เพียงกลุ่มเอวีเท่านั้นที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ในส่ายตาของจีเอฟเค ยังทำนายถึงมูลค่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) โดยรวมว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก จาก 29,000 ล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนปีนี้ตัวเลขรวมน่าจะอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเพียง 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ปัญหาของสินค้ากลุ่มเอชเอ ที่เหมือนกับกลุ่ม เอวีอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ ราคาสินค้าต่อหน่วยที่ลดลง

นักพยากรณ์ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างจีเอฟเค เชื่อด้วยว่า ในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซัพพลายเออร์แต่ละรายจะไม่สุ่มเสี่ยงกับการโหมทำตลาดมากนัก เพราะไม่แน่ใจว่าความต้องการของผู้บริโภคจะมีมากน้อยแค่ไหน นั่นหมายความว่าแต่ละค่ายต้องทำการบ้านกันละเอียดมากขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของ "รุ่งโรจน์ เลิศอำนาจกิจเสรี" ผู้จัดการฝ่ายตลาด บริษัท ไพโอเนียร์ อิเลคโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ฉายภาพให้เห็นว่า ตอนนี้แต่ละค่ายจะต้องมาดูกันแล้วว่า กำลังซื้อผู้บริโภคอยู่ที่ไหน และอยู่กับใครบ้าง ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือ กลุ่มคนมีเงิน

ทำให้ในครึ่งปีหลังแต่ละค่ายจะมุ่งไปที่สินค้าไฮเอนด์เป็นพิเศษ สินค้าอย่างพลาสม่า ทีวี และดีวีดี โฮมเธียเตอร์ กลายเป็นสินค้าที่ถูกหยิบขึ้นมาชูโรงในตลาด "ผมมองว่าไตรมาส 3-4 ที่เหลืออยู่นี้ ผู้บริโภคอาจจะเห็นกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขายที่มากกว่าเดิมแต่อาจจะไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิม" หรือกับไฮเออร์ฯ สินค้าดังจากจีน ซึ่งจังหวะไม่ค่อยดีนัก เพราะดันมาเปิดเกมรุกตลาดในช่วงที่เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาลงพอดี จึงต้องมีการปรับเกมการตลาดอย่างหนัก

"ทวีศักดิ์ เกรียงไกรเกียรติ์" กรรมการ บริษัท ไฮเออร์ อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า หนักใจกับสถานการณ์ตลาดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะยอดขายที่ต่ำกว่าเป้าหมายไปถึง 20-30% ดังนั้นในครึ่งปีหลัง บริษัทจึงต้องหันมาเน้นกิจกรรมการตลาดที่เป็น event marketing มากขึ้น "เราต้องดึงงบฯโฆษณา (above the line) บางส่วนมาใช้ ทำให้งบฯที่นำไปทำกิจกรรมร่วมกับโมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์มากกว่า 50% ของงบฯ โฆษณาและงบฯการตลาดทั้งหมด" ภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปยังผลให้ไฮเออร์ฯ ต้องเลื่อนการผลิตตู้เย็นที่จะส่งออกไปทำตลาดในสหรัฐ อเมริกา และเครื่องซักผ้าที่จะทำตลาดในไทย ออกไปเป็นช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่า หลังจากเริ่มผลิตสินค้าได้เอง ไฮเออร์ฯ จะเดินเกมการตลาดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ผู้อยู่ในแวดวงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกรายหนึ่งกลับให้แง่มุมที่ต่างออกไป ผู้คร่ำหวอดรายนี้ชี้ว่า ภาวะตลาดที่ตกลงอย่างใจหาย ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายปราบปรามยาเสพย์ติดของรัฐบาล เพราะเงินนอกระบบส่วนนี้เกี่ยวพันกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่น้อย แต่กระนั้นก็ตาม ไม่ว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมียอดขายตกลงจากสาเหตุอะไรก็ตาม แต่ในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเหลือระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือนนี้ จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการประลองยุทธ์ของเหล่าซัพพลายเออร์ ทำอย่างไรยอดขายถึงจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม 2546

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.