สศอ.เร่งรัฐ-เอกชนร่วมป้องกันอุตฯ อิเล็กฯ ย้ายหนีไปจีน, เวียดนาม

สศอ. ชี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมย้ายฐานการผลิตหนีไปจีน, เวียดนาม หลังสูญเสียความได้เปรียบด้านค่าแรง เร่งเอกชนจับมือรัฐ ออกมาตรการป้องกันด่วน พร้อมยกระดับการผลิต ให้ได้มาตรฐานในระดับสากล หนุนชิงส่วนแบ่งตลาดจีน และรับมือมาตรการกีดการค้าจากประเทศคู่ค้า

 

นายดำริ สุโขธนัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยในงานประชุมสัมมนากลุ่มย่อย เรื่อง โอกาสของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในตลาดโลก ว่า ขณะนี้มีแนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน และเวียดนาม มากขึ้น เนื่องจากมีความได้เปรียบการแข่งขันในด้านค่าแรงงานที่ต่ำกว่า ทั้งนี้ แม้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย จะมีทิศทางการขยายตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ แต่เมื่อพิจารณาจุดอ่อนของอุตสาหกรรมดังกล่าว พบว่า การลงทุนต้องใช้เงินลงทุนที่สูง ทำให้นักลงทุนไทยไม่มีเงินเพียงพอ รวมทั้งการลงทุนส่วนใหญ่เน้นรับจ้างประกอบเท่านั้น ทำให้แรงงานไทยขาดการพัฒนาฝีมือ

 

"ภาคเอกชนและรัฐจำเป็นต้องร่วมมือกันหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาการย้ายฐานการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงปัญหาที่เกิดจากมาตรฐานคุณภาพสินค้า และการกีดกันการค้าของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ประกอบการประสบอยู่ในปัจจุบัน" นายดำริ กล่าว โดยเขามองว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ยังมีจุดแข็งที่สามารถปรับกระบวนการผลิตใหม่ได้ เพื่อให้เกิดการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ เพราะจะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ภาคเอกชนสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการลงทุน และการผลิตโดยไม่เกิดการเสียเปรียบ

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีข้อได้เปรียบสำคัญ เช่น เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกของสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น รวมถึงมีศูนย์ทดสอบสถาบันไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสถาบันภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม และเป็นองค์กรที่ไม่ค้ากำไร ทำให้การทำงานของศูนย์นี้น่าจะเป็นจุดที่น่าเชื่อถือได้จากสายตาทั้งในและนอกประเทศ

 

เผชิญมาตรการกีดกันสินค้า

ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย ยังมีปัญหาในด้านมาตรการกีดกันการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิต เพื่อส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศที่ไม่ใช่บริษัทแม่ โดยพบว่าในระยะที่ผ่านมา บริษัทเหล่านี้ต้องประสบกับการกีดการค้าในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการที่มิใช่ภาษี เช่น การควบคุมการนำเข้า มาตรฐานสินค้า เป็นต้น ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปยังเตรียมออกประกาศใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับเศษเหลือทิ้งของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 1 มกราคม 2549 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยแน่นอน "เนื่องจากทำให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีต้นทุนที่สูงขึ้น จากการใช้วัสดุทดแทนวัสดุต้องห้าม การกำจัดชิ้นส่วนเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน รวมถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตที่ต้องให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้ ดังนั้น ส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งออกมาตรการมารองรับ" นายดำริ กล่าว

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม 2545

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.