หัวเหว่ยเน้นอาร์แอนด์ดีครองตลาดโทรคมโลก

เซินเจิ้น จีน - หัวเหว่ย ใช้จุดแข็งด้านงานวิจัยและพัฒนา เพื่อสนองเป้าหมายเฉพาะตลาด และราคาที่น่าสนใจ บุกตลาดทั่วโลกทุกภาคพื้นทวีป ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดของโลก

 

นายวิลเลี่ยม ซู รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน เจ้าของระบบโทรศัพท์ครบวงจร ทั้งระบบพื้นฐาน และระบบเคลื่อนที่ กล่าวถึงจุดเด่นที่ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเวลานี้ว่า พนักงานของบริษัทมีทั้งสิ้นกว่า 2.2 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานวิจัยและพัฒนา 1 หมื่นคน คิดเป็นพนักงานด้านวิจัยและพัฒนากว่า 45% ทั้งนี้เฉพาะที่สำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้น มีพนักงานรวม 5 พันคน และในปีหน้าเมื่อศูนย์วิจัยและพัฒนาสร้างเสร็จเรียบร้อยจะมีพนักงานรวม 1 หมื่นคน

 

จากปริมาณพนักงานด้านวิจัยและพัฒนาจะเห็นได้ว่า บริษัทแห่งนี้ให้ความสำคัญต่องานวิจัยและพัฒนามาเป็นอันดับหนึ่ง เฉพาะปี 2545 บริษัทใช้งบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาราว 10% ของรายได้ จากปีที่ผ่านมาใช้ราว 12% ของรายได้ ซึ่งเปอร์เซ็นต์การลงทุนน้อยลง เป็นเพราะงานวิจัยและพัฒนาเริ่มอยู่ตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน รายได้ของปีนี้เติบโตกว่าปีที่ผ่าน โดยบริษัทมีรายได้ปี 2544 เป็นเงิน 2,407 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวกว่า 1 แสนล้านบาท)

 

นอกจากนั้น บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 2-3 ปีนี้ บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 29% อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตดังกล่าวจะลดลงกว่าอัตราเฉลี่ยช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเติบโตเฉลี่ยรวม 60% "โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศปีนี้ บริษัทมีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% เนื่องจากบริษัทมีจุดเด่นด้านตัวผลิตภัณฑ์ และราคาที่ดี ส่วนตลาดในประเทศนั้นมีปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้การลงทุนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมลดน้อยลง อัตราการเติบโตในประเทศจึงค่อนข้างน้อย" นายซู กล่าว อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการเติบโตของตลาดต่างประเทศจะมีสูง หากคิดเป็นจำนวนเงินแล้วมีสัดส่วน 20% ของรายได้รวม แต่บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศขึ้นเป็น 35% ใน 1-2 ปีนี้

 

ทั้งนี้ลูกค้าของบริษัทมีทั่วโลก ในภาคพื้นทวีปต่างๆ เช่น บราซิล เยอรมนี ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย และไทย เป็นต้น โดยโครงข่ายโทรคมนาคมที่บริษัทติดตั้งให้ลูกค้าในประเทศต่างๆ รวมแล้วจะให้บริการลูกค้ากว่า 300 ล้านเลขหมาย โดยลูกค้านอกประเทศจีนบริษัทมีบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นลูกค้ารายใหญ่ ติดตั้งระบบอินทิลิเจนต์ เน็ตเวิร์ค สำหรับบริหารงานบริการคิดเงิน-ตัดเงินในระบบจ่ายก่อนใช้ (พรีเพด) ทั้งสิ้น 6 ระยะ ครอบคลุมลูกข่าย 10 ล้านเลขหมาย ที่เริ่มติดตั้งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543 และเสร็จลงในเดือนเดียวกันของปี 2545 สำหรับเฉพาะประเทศจีนเองระบบเครือข่ายโทรคมนาคมของบริษัท ติดตั้งให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายต่างๆ ในประเทศครอบคลุมลูกข่ายราว 200 ล้านเลขหมาย และปีหน้าจะเพิ่มเป็นราว 300 ล้านเลขหมาย ฉะนั้นจึงถือเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่มีเครือข่ายรองรับเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์มากที่สุดในโลก

 

โดยระบบเครือข่ายโทรคมนาคมของบริษัทเกิดจากการวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานของบริษัทเอง และคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (คัสตอมไมซ์) เช่น ระบบเครือข่ายออพติคัล ได้แก่ DWDM320G/1.6T, Metro MSTP, Intelligent Optical Network ระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้แก่ W-CDMA, cdma2000 1x, GPRS ระบบโทรศัพท์พื้นฐาน ได้แก่ NGN Solutions, C&C iNET, Broadband Access Server และซอฟต์แวร์สำหรับบริการเพิ่มมูลค่าต่างๆ ได้แก่ Fixed-line IN, Mobile IN, IP-based IN เป็นต้น ส่วนขั้นตอนการผลิตและเครื่องจักรนั้น บริษัทว่าจ้างออกแบบและใช้เครื่องจักรของซีเมนส์ เยอรมนีทั้งหมด, ใช้การออกแบบการจัดการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดจัสอินไทม์ ของญี่ปุ่น, ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของไอบีเอ็ม เป็นต้น

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน 2545

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.