อุตฯยานยนต์ไทยกำลังวิ่งฉิว "ฮุนได-นิสสัน" จ่อคิวรอรับสิทธิพิเศษด้านการลงทุนในประเทศ ขนเม็ดเงินลงทุนอีกเพียบ บีโอไอ-ส.ยานยนต์ เผย 8 เดือน ไทยดูดเงินเข้าประเทศกว่า 4 หมื่นล้าน จ้างแรงงานใหม่กว่า 1.5 หมื่นตำแหน่ง

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสถานการณ์การลงทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบว่า สถิติการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม 2546 พบว่าบีโอไอได้อนุมัติการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งสิ้น 52 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนกว่า 40,489 ล้านบาท เป็นโครงการที่จ้างแรงงานไทยทั้งสิ้น 14,870 คน

นายวัลลภกล่าวว่า หากเปรียบเทียบกับปี 2545 แล้ว พบว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวม ได้รับการอนุมัติสนับสนุนการลงทุนเพิ่มขึ้น 20 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 30,151 ล้านบาท มีการจ้างงานเพิ่ม 11,018 คน ขณะที่ชิ้นส่วนยานยนต์มีการลงทุนเพิ่ม 18 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 8,184 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้น 3,769 คน หากดูจากการขอส่งเสริมจากบีโอไอแล้วจะพบว่า ยังมีโครง การใหญ่อย่างโครงการผลิตรถปิกอัพของมิตซูบิชิ ซึ่งใช้เงินลงทุนถึง 18,064 ล้านบาท ความต้องการแรงงาน 1,560 คน รอให้บีโอไออนุมัติอีกโครงการหนึ่ง

"แนวโน้มการลงทุนของประเทศไทยชัดเจนมาก อย่างรถยนต์ปิกอัพอยู่ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด รถยนต์นั่งก็ต้องลงไปดูให้ชัดว่า จะนำรถแบบไหนมาผลิตในประเทศไทยกันแน่ เพราะบริษัทที่จะมาลงทุนคงจะเลือกลงในประเทศไทยเป็นบางโมเดล เพราะวอลุ่มไม่มากเหมือนปิกอัพ แถมอายุของชิ้นส่วนก็สั้นกว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ตอนนี้ก็ต้องดูฮอนด้า ทั้งเรื่องของรถ 4 ล้อ และเรื่องของอาร์แอนด์ดี ว่าจะมาลงในลักษณะใด และจะซัพพอร์ตธุรกิจของเขาอย่างไรบ้าง สำหรับชิ้นส่วนคงจะขยายตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งผมมองว่าการเติบโตแบบเป็นเครือข่ายคงจะเพิ่มขึ้น และทำให้การลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย"

ผู้อำนวยการสถาบันกล่าวอีกว่า สถานการณ์การลงทุนในประเทศไทยตอนนี้ถือว่าน่าจับตาอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นฮุนได ที่บริษัทแม่ประกาศชัดว่า จะเปิดฐานการผลิตในอาเซียน 1 แห่ง เพื่อผลิตรถออกจำหน่าย ซึ่งตนเข้าใจว่าน่าจะเป็นประเทศไทยค่อนข้างแน่ นอกจากนี้ยังมีนิสสัน เพราะหากบริษัทแม่เข้ามาจริง น่าจะเป็นการเข้ามาพร้อมกับเรโนลด์ด้วย ส่วนโฟล์กสวาเกนน่าจะยังสนุกกับการลงทุนในประเทศจีนอยู่ จึงยังไม่น่าย้ายมาไทยในช่วงนี้ และยังมีพวกพาร์ตเมกเกอร์รายใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ด้านต่างๆ ในประเทศไทยตอนนี้ค่อนข้างนิ่ง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจและการเมือง จึงเป็นโอกาสที่บริษัทเหล่านี้จะมาลงทุนได้อย่างเต็มตัว

ทั้งนี้ แบ่งเป็นโครงการกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 50 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 18,522 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในประเทศไทย 7,621 คน โครงการกิจการประกอบรถยนต์ 1 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 390 ล้านบาท การจ้างงาน 249 คน และกิจการผลิตรถยนต์แบบแพ็กเกจอีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการผลิตรถปิกอัพของโตโยต้า ใช้งบฯลงทุน 21,577 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในประเทศไทย 7,000 อัตรา

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2546