พร้อมเปิดตัว "โรสเดล" รองรับเครือข่ายไวแม็กซ์

อินเทล ชูเทคโนโลยีประมวลผล "ดูอัล คอร์" รุกตลาดชิพยุคหน้า แทนกลยุทธ์เพิ่มความเร็วประมวลผล เชื่อเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ตั้งเป้าส่งรุกตลาดชิพเดสก์ทอป 40% ภายในปี 2549 ขณะที่ประกาศปรับโฉมชิพไร้สาย หันหนุนฟังก์ชันเชื่อมต่อเครือข่าย "ไวแม็กซ์" เต็มตัว แต่ชี้ยังรอกำหนดมาตรฐานขั้นสุดท้าย

หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของนายพอล โอเทลลินี กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของอินเทล ซึ่งระบุว่า เทคโนโลยีการประมวลผลแบบคู่ขนาน (parallel computing) และฟังก์ชันเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย "ไวแม็กซ์" จะกลายเป็นกลยุทธ์หลัก สำหรับการทำตลาดชิพในอนาคตของบริษัท พร้อมเผยว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่แสดงให้เห็นว่าอินเทล ไม่ได้มุ่งเน้นที่การเพิ่มความเร็วประมวลผล รอบเข็มนาฬิกาเพียงอย่างเดียว

ด้านนักวิเคราะห์ กล่าวว่า เทคโนโลยีการประมวลผลแบบคู่ขนาน เป็นการอาศัยหน่วยประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์หลายตัว มาคำนวณปัญหาที่ซับซ้อนร่วมกัน โดยพัฒนาการล่าสุดของเทคโนโลยีดังกล่าว คือการสร้างชิพที่มีกำลังประมวลผล เทียบเท่าไมโครโพรเซสเซอร์ 2 ตัวขึ้นไป หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ดูอัล คอร์" (dual-core) หรือ "มัลติคอร์" (multicore) ทั้งนี้ อินเทล ได้แถลงถึงกลยุทธ์การพัฒนาชิพยุคใหม่ ในงานประชุมนักพัฒนาโปรแกรมของบริษัท ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำปีละสองครั้ง ที่เมืองซานตา คลาร่า แคลิฟอร์เนีย หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัทมีปัญหาเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ล่าช้ากว่ากำหนด รวมทั้งมีรายงานด้านข้อบกพร่องทางเทคนิคจำนวนมาก กระนั้น นายโอเทลลินี ยืนยันว่า อินเทลมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวชิพดูอัลคอร์ สำหรับเดสก์ทอป แล็บทอป และคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ในช่วงปี 2548 พร้อมทั้งทำนายว่า ชิพเดสก์ทอปที่บริษัทนำออกวางจำหน่าย ภายในปี 2549 จะเป็นผลิตภัณฑ์ดูอัลคอร์อย่างน้อย 40% ขณะที่ชิพสำหรับคอมพิวเตอร์แม่ข่าย จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวราว 83% และชิพอุปกรณ์เคลื่อนที่ราว 70%

อย่างไรก็ตาม บริษัทเอเอ็มดี ผู้ผลิตชิพอันดับสอง ได้เผยโฉมชิพดูอัลคอร์ ตัดหน้าอินเทลไปแล้ว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายโอเทลลินี เผยว่า ยินดีที่คู่แข่งยักษ์ใหญ่ หันมาใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกับบริษัท เนื่องจากการใช้ระบบประมวลผลแบบคู่ขนาน ต้องอาศัยการยอมรับจากทั่วทั้งอุตสาหกรรม "นี่ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของวงการประมวลผล" เขากล่าว ขณะเดียวกัน อินเทล ยังเผยโฉมตัวอย่างชิพคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถรองรับเครือข่ายไร้สาย "ไวแม็กซ์" (WiMax) ได้ ในงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2004 ซึ่งจัดขึ้นในเมืองปูซาน เกาหลีใต้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ก.ย.) โดยที่ชิพดังกล่าว มีชื่อรหัสว่า "โรสเดล" (Rosedale)

ชิพไวแม็กซ์ จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สายได้ โดยอาศัยสถานีฐาน ที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร โดยชิพไวแม็กซ์ เวอร์ชั่นแรก ที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปีหน้า ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อใช้แทนสายเคเบิล หรือบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตามบ้าน ระบบดีเอสแอลโดยตรง โดยเฉพาะในบริเวณที่ยังไม่ได้วางโครงข่ายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาก่อน อย่างไรก็ตาม อินเทล มีแผนที่จะติดตั้งฟังก์ชันเชื่อมต่อเครือข่าย ไวแม็กซ์ ลงในชิพแล็บทอป ซึ่งปัจจุบันวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์เซนทริโน ในช่วงปี 2549 โดยที่นายสก็อต ริชาร์ดสัน ผู้จัดการแผนกบรอดแบนด์ไร้สายของอินเทล เชื่อว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ให้บริการเครือข่าย จะติดตั้งจุดเชื่อมต่อไวแม็กซ์ ได้ครอบคลุมเขตเมืองใหญ่ๆ ทุกแห่งแล้ว และจะช่วยให้ผู้ใช้ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ได้จากทุกพื้นที่ นายริชาร์ดสัน คาดว่า เทคโนโลยีไวแม็กซ์ จะเริ่มมีการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ในช่วงปีหน้า และจะเหมาะกับการใช้คอมพิวเตอร์ขณะเคลื่อนที่ เช่น การใช้งานในรถยนต์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนการกำหนดมาตรฐานไวแม็กซ์ ขั้นต่อไป

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 กันยายน 2547