อุตฯ อิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นเดินหน้าหนุนลินิกซ์เต็มตัว
หวังขยายการใช้งานลินิกซ์นอกตลาดแม่ข่าย
ผู้ผลิตญี่ปุ่นจับมือตั้งสมาคมพัฒนาลินิกซ์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หวังร่วมมือกำหนดมาตรฐานซอฟต์แวร์ผู้บริโภค พร้อมปรับปรุงเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เผยเป้าหมายเบื้องต้นเน้นลดเวลาเปิดและปิด
อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพใช้งานแบตเตอรี่
สำนักข่าวซีเน็ต รายงานว่า
ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ 8 แห่ง ได้แก่ มัตสึชิตะ โซนี่ ฮิตาชิ
ฟิลิปส์ ซัมซุง ชาร์ป และโตชิบา ได้ประกาศความร่วมมือในการจัดตั้งสมาคมการค้า "คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ลินิกซ์ ฟอรัม" หรือเซลฟ์
(Consumer Electronics Linux Forum-CELF) โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบปฏิบัติการลินิกซ์
สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภคโดยเฉพาะ
ตัวแทนบริษัททั้ง 8 แห่ง
เปิดเผยว่า สมาคมดังกล่าวตั้งขึ้นเพื่อขยายขอบเขตการใช้งานระบบปฏิบัติการลินิกซ์ไปสู่อุปกรณ์เทคโนโลยีประเภทอื่นๆ
นอกเหนือจากการใช้ผลิตเครื่องแม่ข่ายในปัจจุบัน พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาในเชิงร่วมมือ
เนื่องจากผู้ผลิตบางราย อาทิ มอนตา วิสต้า กำลังเร่งพัฒนาลินิกซ์เวอร์ชั่นสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเอง
พร้อมเสริมว่า จุดประสงค์ของสมาคม คือ การพัฒนาระบบปฏิบัติการลินิกซ์ที่มีความเร็ว
และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับใช้ในกล้องบันทึกภาพวิดีโอระบบดิจิทัล
อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์อื่นๆ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยทางสมาคม
จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแนวคิด และวางข้อกำหนดการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์เหล่านี้
รวมทั้งเป็นผู้รับรองซอฟต์แวร์ลินิกซ์ที่วางจำหน่ายในตลาด
ทั้งนี้ สมาคมเซลฟ์
มีต้นกำเนิดมาจากโครงการร่วมมือระหว่างโซนี่ และมัตสึชิตะ ในการพัฒนาระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์ส
เวอร์ชั่น ใหม่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา กระนั้น
บริษัททั้งสองประกาศว่า ตนมีแผนสนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือเพื่อขยายขอบเขตการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวต่อไป
โดยเป้าหมายในระยะแรกคือ
การลดเวลาเปิดและปิดของระบบปฏิบัติการ เพิ่มความสามารถในการจัดการพลังงานเพื่อขยายอายุการใช้งานแบตเตอรี่
รวมทั้งลดการใช้หน่วยความจำ และปรับปรุงความเร็วในการตอบสนองคำสั่ง ตัวแทนเซลฟ์
กล่าวว่า นักพัฒนาโปรแกรมอิสระสามารถเข้าเป็นสมาชิกสมาคมได้ฟรี ขณะที่บริษัทที่ต้องการเข้าร่วมจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตรา
4,000-16,000 ดอลลาร์
ปัจจุบัน ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก
อาทิ โซนี่ เริ่มมีนโยบายเลิกใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สในการผลิตอุปกรณ์บางตัวแล้ว
เช่น สเตอริโอและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่ไมโครซอฟท์เองพยายามที่จะสนับสนุนให้อุปกรณ์ภายในบ้านหันมาใช้โอเอสดังกล่าวแทน
โดยทำการเผยแพร่ผ่านทางเครื่องเล่นวิดีโอเกมเอ็กซ์บ็อกซ์ยอดนิยมของตน
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 3 กรกฎาคม 2546
|