แมพพอยต์ ส่งบริการแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ เจาะผู้ใช้โทรมือถือ

แมพพอยต์ เอเซีย ต่อยอดธุรกิจหลัก จากผู้พัฒนาระบบแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ เจาะช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ผ่านบริการเสริม ด้านติดตามและระบุตำแหน่ง (โลเคชั่น เบส เซอร์วิส) หลังเห็นแนวโน้ม จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดปีหน้า ส่งบริการด้านนี้ เจาะผู้ใช้โทรมือถือ ได้ไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านราย

หม่อมหลวงศักดิ์สิริ กฤดากร ประธานบริหาร บริษัท แมพพอยต์ เอเซีย ดอท คอม จำกัด กล่าวว่า บริษัทกำลังให้ความสนใจกับการสร้างรายได้จากธุรกิจพัฒนาระบบแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านช่องทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมามุ่งการทำตลาดในกลุ่มองค์กรเป็นหลัก โดยมองว่า แนวโน้มการเติบโตของยอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย รวมถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างผู้ให้บริการค่ายต่างๆ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ที่ผลักดันยอดการใช้งานระบบแผนที่ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านรายในปี 45

ปัจจุบัน บริษัทมีความร่วมมือทางธุรกิจแล้วกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในบริการแผนที่ร้านค้า และบริการผ่าน "เอ็มโคลสทูมี" รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นๆ เพื่อร่วมให้บริการในรูปแบบดังกล่าว โดยบริษัทจะสนับสนุนเทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (โลเคชั่น เบส) และแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เทคโนโลยีระบบติดตาม (tracking) โดยคาดหมายว่าในปีหน้า จะมียอดเติบโตของการใช้งานด้านนี้ถึงระดับ 100% ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองถึงโอกาสของธุรกิจนี้ ในตลาดกลุ่มอื่นๆ ด้วย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท ไวเปอร์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจด้านระบบรักษาความปลอดภัย ในการพัฒนาระบบกันขโมยให้กับยานพาหนะ ทั้งที่เป็นระบบขนส่งขนาดใหญ่และพาหนะส่วนบุคคล ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีโอกาสทางการตลาดสูง

"เรามองว่า ในปีหน้าคนไทยจะมีความเข้าใจเรื่องระบบแผนที่มากขึ้น หลังจากที่บริษัทเองก็เร่งสร้างความรู้ให้กับตลาด ผ่านโปรแกรมระบบแผนที่อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป "สมาร์ทแมพ (SmartMap)" ซึ่งตั้งราคาไว้ต่ำกว่า 500 บาท เพื่อกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้แผนที่กับงานทั่วไปได้ง่ายขึ้น" ม.ล.ศักดิ์สิริ กล่าว

ตลาดราชการ ยังทำรายได้หลัก

ขณะที่ด้านโครงสร้างรายได้ในปีหน้านั้น จะมาจาก 3 ตลาด ได้แก่

1. ภาคราชการ ซึ่งยังคงเป็นตลาดหลัก และมีอัตราเติบโตอยู่ โดยเฉพาะการใช้งานแผนที่เชิงภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับ 20% และสร้างรายได้ให้บริษัทราว 250 ล้านบาท

2.ตลาดภาคเอกชน ที่เน้นใช้ซอฟต์แวร์ และระบบแผนที่ในการนำทาง โดยมองมูลค่าตลาดไว้ราว 30 ล้านบาท และ

3.ตลาดส่งออก ซึ่งเริ่มแล้วในประเทศมาเลเซีย โดยผ่านพันธมิตรท้องถิ่นที่นำเทคโนโลยีของบริษัทใช้ในงานแผนที่ และเริ่มรุกเข้าสู่โครงการประมูลภาคราชการของมาเลเซีย คาดว่าในปีหน้าจะสามารถสร้างรายได้ราว 15 ล้านบาทจากช่องทางดังกล่าว รวมทั้งในราวกลางปีหน้า บริษัทยังมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีอยู่แล้วในมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นซึ่งมีประสบการณ์จากฐานธุรกิจแผนที่มาก่อนช่วยทำตลาดให้

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม 2544

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.