ไมโครซอฟท์ชู "มีเดีย เซ็นเตอร์ 2005" เปิดฉากบุกตลาดบ้าน

ตอบโจทย์ผู้บริโภคต้องการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ จากทุกที่ทุกเวลา

พี่เบิ้มวงการซอฟต์แวร์ รูดม่านเปิดตัว ซอฟต์แวร์มีเดีย เซ็นเตอร์ เวอร์ชั่นใหม่หลังทิ้งช่วงไปนาน 2 ปี ระบุทีเด็ดนอกจากจัดการเพลง, ภาพ, วิดีโอ และบันทึกรายการทีวี และเปิดโอกาสให้บันทึกซีดี-ดีวีดีได้ด้วยรีโมตคอนโทรลแล้ว ยังมีระบบปรับหาคลื่นสัญญาณทีวีหลายช่อง แต่นักวิเคราะห์ เชื่อแจ้งเกิดยาก เหตุผู้บริโภคยังไม่เห็นประโยชน์ที่แท้จริง

 

สำนักข่าวดาวโจนส์ รายงานว่า นายบิล เกตส์ ประธานและหัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรมของไมโครซอฟท์ ได้เปิดตัว ระบบปฏิบัติการ "วินโดว์ส เอ็กซ์พี มีเดีย เซ็นเตอร์ อีดิชั่น 2005" (Windows XP Media Center Edition 2005) รวมถึงซอฟต์แวร์ และผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง ที่งานแถลงข่าวในเมืองลอสแองเจลิส เมื่อวานนี้ (13..)

 

นายเกตส์ กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้าน ที่ประชาชนสามารถดาวน์โหลดเพลง, ภาพยนตร์, ดูรายการทีวี หรือฟังวิทยุก็ได้ "วันนี้ ทุกความฝันเกี่ยวกับความบันเทิงระบบดิจิทัลได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว คุณสามารถฟังเพลง ดูวิดีโอได้ในทุกที่ ที่คุณไป" นายเกตส์ กล่าว สำหรับวินโดว์ส เอ็กซ์พี มีเดีย เซ็นเตอร์ 2005 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์สเวอร์ชั่นหนึ่ง คล้ายกับวินโดว์ส เอ็กซ์พี แต่มีอินเตอร์เฟสมากกว่านั้น ช่วยให้พีซีสามารถจัดการเพลง, ภาพ, วิดีโอ และบันทึกรายการทีวีได้ ขณะที่รองรับการแพร่สัญญาณภาพความคมชัดสูง มีซอฟต์แวร์รับส่งข้อความทันใจ (ไอเอ็ม) ในตัว มาพร้อมกับฟังก์ชันปรับแต่งภาพตัวใหม่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บันทึกซีดี และดีวีดีได้ด้วยรีโมต คอนโทรล นอกจากนี้ ยังมีระบบปรับหาคลื่นสัญญาณทีวีหลายช่อง จึงสามารถบันทึกรายการทีวีได้พร้อมกัน 3 รายการ

 

นายแบรด บรุ๊คส์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวซอฟต์แวร์มีเดีย เซ็นเตอร์ไปเมื่อ 2 ปีก่อน ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันที โดยทางบริษัทเพิ่งจะขายซอฟต์แวร์ตัวนี้ครบ 1 ล้านก๊อบปี้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ "ผู้ใช้มีแนวโน้มสนใจซอฟต์แวร์ที่ว่านี้มากขึ้น เมื่อปีที่แล้ว หุ้นส่วนในอุตสาหกรรมของไมโครซอฟท์ ซึ่งส่งสินค้าไปขายใน 35 ประเทศทั่วโลก เพิ่มจาก 40 บริษัท เป็น 100 บริษัทในปีนี้" นายบรุ๊คส์ กล่าว และเสริมว่า ทางบริษัท ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ และจัดทำเนื้อหากว่า 30 ราย ทั้ง เอชพี,เดลล์, โซนี่, โตชิบา, เอ็มเอสเอ็นมิวสิค, แนปสเตอร์ และเอ็กซ์เอ็ม แซทเทิลไลท์ เรดิโอ โดยจะวางตลาดพีซีมีเดีย เซ็นเตอร์ ในปีนี้ ซึ่งมีราคาระหว่าง 620 - 2,000 ดอลลาร์ (24,800-80,000 บาท)

 

โดยนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พีซีใหม่เหล่านี้ มีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นดีวีดีมากกว่าพีซีทั่วไป เนื่องจาก ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในห้องนั่งเล่น ในงานเดียวกันนี้ ยักษ์ใหญ่วงการซอฟต์แวร์ ได้เปิดตัวบริการเอ็มเอสเอ็น มิวสิค (MSN Music) อย่างเป็นทางการ หลังจากเผยโฉมเรียกน้ำย่อยไปเมื่อเดือนที่แล้ว รวมทั้งแนะนำ โลโก้ "เพลย์ ฟอร์ ชัว" (Plays for Sure) สีฟ้าสำหรับบริการเพลงออนไลน์ และอุปกรณ์เพลงพกพา อย่าง ริโอ คาร์บอน ที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยโลโก้ดังกล่าว ช่วยสร้างความมั่นใจกับลูกค้าว่า อุปกรณ์เล่นเพลงของพวกเขา จะใช้เล่นเพลงที่ซื้อมาได้

 

ขณะที่ นายเกตส์ ยังอวดโฉม อุปกรณ์มีเดีย เอ็กซ์เทนเดอร์ (Media Extenders) ของหลายบริษัท อาทิ เอชพี และลิงค์ซิส ของซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งช่วยให้เพลง, ภาพถ่าย และวิดีโอ บนพีซีมีเดีย เซ็นเตอร์ ถูกนำไปแสดงบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวใดก็ได้ในบ้าน กระนั้น นายมาร์ค แฮชแมน ของเอ็กซ์ทรีม เทค และพีซี แมกกาซีน ให้ความเห็นว่า ไม่มีเหตุผลที่ผู้บริโภคจะซื้อพีซีที่ว่านี้ เนื่องจาก สามารถใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในบ้านแทนได้

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 ตุลาคม 2547

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.