ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์ ยันกำหนดการเปิดตัว ออฟฟิศ 2003 สิ้นปี ชูจุดเด่น ดึงมาตรฐานฟอร์แมตเอ็กซ์เอ็มแอล รองรับทุกระบบงาน หวังเพิ่มประสิทธิภาพ แลกเปลี่ยนข้อมูล ข้ามแพลตฟอร์ม พร้อมคาดช่วยลดต้นทุน สื่อสารองค์กรมหาศาล ด้านผู้บริหารยังเชื่อมั่น เอเชียศักยภาพทำตลาดสูง

บริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ป. ยักษ์ใหญ่แห่งวงการซอฟต์แวร์ เผยโฉมโปรแกรม "ออฟฟิศ 2003" (Office 2003) ในงานเวิร์คช็อป สำหรับผู้สื่อข่าว ที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์ ( 8 ส.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อเรียกน้ำย่อย ก่อนกำหนดเปิดตัว อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โปรแกรม "ออฟฟิศ 2003" ตัวนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษกว่าการเปิดตัวซอฟต์แวร์ครั้งที่ผ่านๆ มา เนื่องจากมีข่าวว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับโฉมขนานใหญ่ และจะมีเทคโนโลยีล้ำสมัยมาให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันตามสไตล์ไมโครซอฟท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเป็นการเปิดตัวในช่วงที่บริษัทกำลังถูกรุกหนักจากโอเพ่นซอร์ส, ลินิกซ์ รวมทั้งข่าวคราวรูโหว่ประเภทต่างๆ ระบบงานออฟฟิศเวอร์ชั่นล่าสุดมีชื่อเรียกรวมกันว่าเป็น "ออฟฟิศ 2003 ซิสเต็มส์" (Office 2003 Systems) เพื่อสื่อถึงการเป็นนวัตกรรมซอฟต์แวร์ ที่ผนวกรวมเทคโนโลยีสำหรับลูกค้า, การให้บริการ และการสื่อสารกับบริษัทคู่ค้า เป็นระบบเดียว ช่วยให้ผู้ใช้สื่อสารได้อย่างครบวงจร ซึ่งไมโครซอฟท์อ้างว่าจะช่วยลดเวลา และต้นทุนปฏิบัติการได้มหาศาล แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขที่แน่นอน

สื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม

หนึ่งในเทคโนโลยีชูโรงที่เข้ามารองรับกลยุทธ์นี้คือ การนำระบบฟอร์แมตไฟล์ "เอ็กซ์เอ็มแอล" (XML) ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางในการอ่านหรือจัดเก็บไฟล์มาใช้ ในออฟฟิศ 2003 เอกสารทั้งในระบบงาน Word, Access หรือ Excel จะจัดเก็บในรูปไฟล์สกุลนี้ได้ ทำให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งดึงและป้อนข้อมูลเข้าไปในระบบสนับสนุนขององค์กรได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านมือฝ่ายไอที โดยคุณสมบัติเช่นนี้ทำให้ออฟฟิศตัวใหม่มีลักษณะการทำงานแบบเวบ (web-based) มากกว่าแบบเอกสาร (document-based) ต่างจากซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นก่อนหน้า ที่ระบบงานแต่ละตัวแยกจากกันเป็นเอกเทศ นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีไออาร์เอ็ม (Information Right Management) ซึ่งช่วยให้ผู้เขียนเอกสารสามารถกำหนดได้ว่าใครที่มีสิทธิอ่าน แก้ไข หรือส่งต่อไฟล์เหล่านั้นออกไปได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ออฟฟิศ 2003 จะสามารถสื่อสารกับซอฟต์แวร์รุ่นที่ผ่านมาได้ และไมโครซอฟท์ยืนยันว่าตนจะยังสนับสนุนออฟฟิศเวอร์ชั่นเก่าต่อไป

เพิ่มลูกเล่นเทคโนโลยีลายมือ

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยผนวกอยู่ในชุดออฟฟิศมาก่อน ที่น่าสนใจคือ "วันโน้ต" (OneNote 2003) ซึ่งเป็นการเลียนแบบการจดโน้ตแปะตามเอกสาร ซอฟต์แวร์ตัวนี้สามารถบันทึกโน้ตที่เขียนด้วยลายมือจริงโดยตรงจากหน้าจอเดสก์ท็อป (ระบบสัมผัส), แล็บทอป หรือแทบเล็ตพีซี แล้วนำไปแทรกไว้บนส่วนของเอกสารที่ต้องการได้ รวมทั้งอาจบันทึกโน้ตแบบเสียง (ออดิโอ) ผ่านไมโครโฟนในแล็บทอป และซินโครไนซ์ (Synchronize) ไปพร้อมกับโน้ตลายมือได้ทันที

นายโอลิเวอร์ โรลล์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของไมโครซอฟท์ ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีออฟฟิศรุ่นใหม่ว่า ขณะที่นวัตกรรมอย่างอุปกรณ์พกพา, เทคโนโลยีจอภาพ หรือเครือข่ายบรอดแบนด์ กำลังจะกลายเป็นสิ่งปกติธรรมดามากขึ้น ซอฟต์แวร์ออฟฟิศจะช่วยขยายตลาดไอทีไปยังกลุ่ม "ผู้ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร" (Information workers) ที่ไม่เคยใช้อุปกรณ์ไอทีมาก่อน ได้อีกเป็นจำนวนมาก อาทิ กลุ่มพยาบาล แพทย์ นักบิน โดยเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงระบบเหล่านี้เข้าด้วยกัน

ชี้โอเพ่นซอร์สไม่ใช่คู่แข่ง

แม้ออฟฟิศ 2003 จะมีกำหนดเปิดตัวในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังคงมั่นใจในศักยภาพการทำตลาด "คนส่วนใหญ่คิดว่าบริษัทต่างๆ จะลดงบประมาณในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่จากสถิติเราพบว่าผู้ประกอบการกลับมีอัตราการลงทุนด้านไอทีเพิ่มขึ้น เนื่องจากตระหนักว่าเป็นวิธีที่จะช่วยให้ตนลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว และช่วยให้แซงหน้าคู่แข่ง" นายโรลล์ กล่าว โดยเฉพาะเอเชีย ซึ่งมีระดับการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น พร้อมคาดประมาณว่าจะมีผู้เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ออฟฟิศใหม่ราว 20% นอกจากนี้ ออฟฟิศ 2003 ยังดูเหมือนจะเป็นการข่มขวัญคู่แข่งอย่างโอเพ่น ซอร์ส และลินิกซ์อยู่กลายๆ

"เราไม่เคยกลัวซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส สิ่งสำคัญของเทคโนโลยีไอทีคือ ความแตกต่างระหว่างต้นทุน และผลตอบแทน" เขา กล่าว พร้อมเสริมว่า โอเพ่น ออฟฟิศ พยายามเลียนแบบไมโครซอฟท์ออฟฟิศเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งความท้าทายของระบบเศรษฐกิจปัจจุบันต่างไปมาก ในระยะยาว ลูกค้าจะพบว่าสตาร์ ออฟฟิศ มีค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงกว่า และให้ผลตอบแทนต่ำกว่าซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม 2546