ไมโครซอฟท์หนุนซอฟต์แวร์ภาษาถิ่นสู้ศึกโอเพ่นซอร์ส

ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์ งัดกลยุทธ์ใหม่ ประกาศหนุนรัฐบาลลูกค้า พัฒนาซอฟต์แวร์วินโดว์ส-ออฟฟิศ เวอร์ชันภาษาท้องถิ่น อ้างเหตุหวังส่งเสริมศักยภาพ ประชากรทั่วโลก ขณะที่ยืนยัน ไม่ได้รับแรงกดดัน จากโอเพ่นซอร์ส ด้านผู้บริหารเปิดอภิปราย ชี้ผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ ราคาถูกในระยะยาว

 

สำนักข่าวซีเน็ต รายงานว่า บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป. ได้ประกาศแผนการตั้งโครงการพิเศษ เพื่อช่วยให้รัฐบาลประเทศต่างๆ สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์หลักของบริษัท ที่เป็นเวอร์ชันภาษาท้องถิ่นได้ โดยกลยุทธ์ครั้งนี้ ถือเป็นการตอบโต้กระแสความนิยมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ที่กำลังส่งผลคุกคามบริษัทมากขึ้น ในตลาดต่างประเทศ ตัวแทนไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า "โครงการภาษาท้องถิ่น" (Local Language Program) และจะเป็นผู้ดูแลด้านการแจกจ่าย "ชุดอินเทอร์เฟซภาษา" (language interface packs) ให้แก่รัฐบาลระดับชาติ และรัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ เพื่อให้นักพัฒนาโปรแกรมในประเทศ สามารถใช้พัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดว์ส เอ็กซ์พี และชุดซอฟต์แวร์ออฟฟิศ 2003 เวอร์ชันภาษาท้องถิ่นได้

 

ปรับกระบวนยุทธ์รับกระแสฮิตลินิกซ์

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เริ่มเผชิญกับความท้าทาย ในตลาดลูกค้ารัฐบาลมากขึ้น หลังจากที่ในช่วงปีที่แล้ว รัฐบาลระดับท้องถิ่น และระดับชาติหลายแห่ง อาทิ รัฐบาลเมืองมิวนิกและรัฐบาลในประเทศเอเชีย ได้เริ่มหันไปสนับสนุนซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ที่เปิดทางให้นักพัฒนาโปรแกรม สามารถดัดแปลงเป็นภาษาท้องถิ่นได้ง่าย อาทิ ซอฟต์แวร์โอเพ่นออฟฟิศ (OpenOffice) ซึ่งเป็นคู่แข่งกับซอฟต์แวร์ออฟฟิศ ของบริษัท ก็มีจำหน่ายในภาษาต่างๆแล้ว กว่า 30 ภาษา และทางบริษัทผู้ผลิต ยังมีแผนเปิดตัวเวอร์ชันภาษาอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 2 เท่า ขณะที่โปรแกรมออฟฟิศ 2003 ของไมโครซอฟท์นั้น มีจำหน่ายเป็นภาษาต่างๆ ทั้งหมด 34 ภาษา โดยที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์จะตอบโต้ความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยหาวิธีการที่เหมาะสมกับตลาดแต่ละแห่ง อาทิ การวางจำหน่ายชุดซอฟต์แวร์วินโดว์ส และออฟฟิศ เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้น ในราคาเพียง 40 ดอลลาร์ สำหรับตลาดไทย และมาเลเซีย

 

เน้นสนองความต้องการผู้ใช้ท้องถิ่น

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังเปิดเผยด้วยว่า โครงการดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอสินค้า ได้ตรงกับความต้องการในตลาดท้องถิ่นมากขึ้น และทางบริษัท วางแผนว่า จะพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของตน สามารถรองรับภาษาต่างๆ ได้มากขึ้นราว 2 เท่า รวมทั้งภาษาถิ่นอามาริค ของประเทศเอธิโอเปีย และภาษาของชาวยูเครนด้วย "การช่วยให้ชุมชน และประชากรทั่วโลก สามารถใช้ศักยภาพที่ตนมีอยู่ได้มากที่สุด เป็นนโยบายหลักของไมโครซอฟท์ เราหวังว่าโครงการส่งเสริมภาษาท้องถิ่น จะเปิดโอกาสให้คนในทุกภูมิภาค ทุกท้องที่ และทุกภาษาทั่วโลก ตระหนักถึงศักยภาพที่ตนเองมีอยู่" นางแมกกี้ วิลเดอร์รอตเตอร์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจของไมโครซอฟท์ กล่าว

 

ยันไม่ใช่แรงกดดันจากโอเพ่นซอร์ส

ด้านนายปีเตอร์ มัวร์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายตลาดองค์กรรัฐบาลระดับท้องถิ่น ของไมโครซอฟท์ ยังคงยืนยันว่า โครงการจำหน่ายซอฟต์แวร์วินโดว์ส เอ็กซ์พี เวอร์ชันราคาถูก สำหรับตลาดไทย ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันของซอฟต์แวร์ลินิกซ์ แต่ทางบริษัทมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคท้องถิ่น มีโอกาสเข้าถึงโครงการพีซีราคาถูก ของรัฐบาลเท่านั้น ทั้งนี้ นายมัวร์ ได้จัดงานอภิปรายขึ้นในเมืองโอคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "แก้ไขความเข้าใจผิด ที่ประชาชนทั่วไปมีต่อไมโครซอฟท์ เกี่ยวกับนโยบายตอบโต้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สของบริษัท" โดยเขากล่าวว่า การจำหน่ายวินโดว์ส เอ็กซ์พี ในราคา 40 ดอลลาร์ สำหรับผู้บริโภคในตลาดไทยนั้น ยังถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ในประเทศ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่า นโยบายนี้ เป็นแผนการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด กลับคืนมาจากโอเพ่นซอร์ส เขายังตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมา องค์กรในภาครัฐ ยังคงคำนึงถึงการลดค่าใช้จ่ายในระยะสั้น มากกว่าต้นทุนการใช้งานในระยะยาว พร้อมทั้งได้เปิดเผยผลการวิจัยของไอดีซี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สำหรับงานคอมพิวเตอร์ ที่ต้องอาศัยโปรแกรมหลายประเภท นับตั้งแต่โปรแกรมเชื่อมต่อเวบไซต์ ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นด้านความปลอดภัยนั้น การใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ ที่ผนวกรวมโซลูชั่นต่างๆไว้ด้วยกัน จะมีราคาถูกกว่าการใช้โอเพ่นซอร์ส เมื่อมีการใช้งานนานกว่า 5 ปี

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 มีนาคม 2547

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.