ขณะที่หั่นราคาเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมเจาะตลาดเอเชีย

ไมโครซอฟท์ ประกาศดึงดัชนี "บิ๊ก แมค" ปรับกลยุทธ์ตั้งราคาซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ แจงเหตุหวังตอบสนองความต้องการท้องถิ่น พร้อมดีเดย์เปิดตัวแผนการใหม่ 2-3 เดือนข้างหน้า ขณะที่รัฐบาลอังกฤษแย้มแผนขู่ใช้โอเอสลินิกซ์ ประหยัดงบประมาณหลายร้อยล้าน ส่วนอุตสาหกรรมชิพตามรอย หันพัฒนาเวอร์ชั่นราคาถูก เจาะตลาดจีน

สำนักข่าวซีเน็ต รายงานโดยอ้างคำแถลงของนายมาร์ติน เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป. ซึ่งกล่าวในงานประชุมร่วมกับนักวิเคราะห์ว่า ทางบริษัท เตรียมนำกลยุทธ์การจำหน่ายซอฟต์แวร์รูปแบบใหม่ มาใช้ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยแย้มว่า ไมโครซอฟท์อาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการตั้งราคาสินค้า โดยพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับระดับค่าครองชีพในตลาดท้องถิ่น หรือที่เรียกกันว่า ดัชนี "บิ๊ก แมค" มากขึ้น  "บิ๊ก แมค ที่วางขายในอินเดีย และที่วางขายในนิวยอร์ก หรือไทเป มีราคาต่างกันเท่าไหร่ และเราจะนำดัชนีเช่นนั้น มาใช้ในการจำหน่ายซอฟต์แวร์ได้อย่างไร นี่เป็นปัญหาที่ยากมาก เรารู้ว่า เราต้องร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้เรานำเสนอสินค้าได้อย่างถูกต้อง และตั้งราคาซอฟต์แวร์ ที่สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาล ผู้บริโภค และโครงสร้างตลาด" นายเทย์เลอร์ กล่าว ทั้งนี้ นายเทย์เลอร์ ยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของแผนการดังกล่าว แต่ระบุว่า "ตอนนี้ เรามีทางเลือกอยู่ 2-3 ทาง และจะประกาศอย่างเป็นทางการ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า"

ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ ได้ยอมปรับราคาซอฟต์แวร์ ตามข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลบางประเทศแล้ว รวมทั้งได้จำหน่ายซอฟต์แวร์วินโดว์ส และออฟฟิศ เวอร์ชั่นราคาถูก ให้กับรัฐบาลไทย เพื่อเข้าร่วมในโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร โดยทางบริษัท ใช้วิธีออกแบบโปรแกรมวินโดว์สอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระยะเริ่มต้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนโยบายซอฟต์แวร์ราคาเดียวของตัวเอง นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังเริ่มใช้นโยบายที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ในการตั้งราคา และจำหน่ายซอฟต์แวร์ สำหรับใช้ในองค์กรรัฐบาล โดยเมื่อไม่นานมานี้ ตัวแทนรัฐบาลอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายล้านดอลลาร์ จากการขู่ว่าจะหันไปใช้โปรแกรมลินิกซ์ ขณะที่ รัฐบาลประเทศอื่นๆ เช่น รัฐบาลเยอรมนี ได้ปฏิเสธข้อเสนอของไมโครซอฟท์ และหันไปใช้ซอฟต์แวร์ลินิกซ์แทน เช่นเดียวกับรัฐบาลมลรัฐเท็กซัส และรัฐบาลเกาหลี

ผู้เชี่ยวชาญ ยังเผยด้วยว่า บริษัทอินเทล ผู้ผลิตชิพอันดับหนึ่ง ก็เริ่มพิจารณาแผนการผลิตชิพราคาถูก สำหรับประเทศกำลังพัฒนาเช่นกัน ขณะที่เอเอ็มดี ได้ฟื้นชีพเทคโนโลยีชิพดูรอนของตนในปีที่แล้ว เพื่อแย่งส่วนแบ่งในตลาดจีนโดยเฉพาะ  ขณะเดียวกัน ตัวแทนยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์ ประจำทวีปเอเชีย แถลงว่า ทางบริษัทมีแผนลดราคา และจำหน่ายเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ เวอร์ชั่นใหม่ๆ ในจีน และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ แถบเอเชีย

โดยทางบริษัท จะเริ่มจำหน่ายซอฟต์แวร์ วิช่วลสตูดิโอ ดอท เน็ต (Visualstudio.NET) เวอร์ชั่นที่มีราคาต่ำลง สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมในจีน, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และไทย ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า "ไม่มีประโยชน์ ที่จะพูดถึงเทคโนโลยีของเรา หากไม่มีใครมีโอกาสได้ใช้ เราต้องการให้ซอฟต์แวร์บางตัว เข้าถึงนักพัฒนาโปรแกรมได้มากขึ้น" นายคอลิน ปิง ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชีย และจีนแผ่นดินใหญ่ ของไมโครซอฟท์ กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า แผนการดังกล่าว เป็นความพยายามของบริษัท ที่จะดึงดูดนักพัฒนาโปรแกรมในเอเชีย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ และอัตราการเติบโตของระบบปฏิบัติการลินิกซ์ โดยปัจจุบัน ซอฟต์แวร์กว่า 90% ที่วางขายในจีน เป็นซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย ขณะที่รัฐบาลจีนเอง มีนโยบายสนับสนุนการใช้โอเอสเปิดอย่างชัดเจน รวมทั้งมีการพัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของประเทศเองด้วย

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 2 มีนาคม 2547