"ไอซีที" ชูไทยฮับธุรกิจ "เอาต์ซอร์ซ" ร่อนหนังสือดึง 10บ.ข้ามชาติลงทุน

"ไอซีที" เดินหน้าชูไทยเป็นฐานธุรกิจ "เอาต์ซอร์ซ" ของภูมิภาคเอเชีย เตรียมจัดตั้ง "คณะกรรมการเอาต์ซอร์ซแห่งชาติ" ปลาย ก..นี้หวังดึงบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนตั้งคอลเซ็นเตอร์ในไทย

..สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงไอซีทีมีนโยบายที่จะสนับสนุนธุรกิจด้านเอาต์ซอร์ซเชิงธุรกิจ (business process outsource : BPO) ให้เติบโตมากขึ้นในประเทศไทย ล่าสุดกระทรวงไอซีทีได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, กระทรวงแรง งาน, สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ, บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตลอดจนภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจในด้านดังกล่าว เช่น บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า หากต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเอาต์ซอร์ซเพื่อดึงบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น รัฐบาลจะต้องดำเนินการสนับสนุนใน 4 ด้านหลักได้แก่

1.โครงข่ายสื่อสาร เนื่องจากขณะนี้ราคาค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศสำหรับภาคธุรกิจยังมีราคาสูงมากกว่าประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์หรือมาเลเซียถึง 3 เท่า ส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ทั้ง ทศทฯ และ กสทฯศึกษาถึงแนวทางที่จะปรับลดราคาให้สามารถแข่งขันได้
2.แรงจูงใจในด้านภาษี ซึ่งไอซีทีได้ขอความร่วมมือให้บีโอไอศึกษาว่าจะสามารถมีข้อยกเว้นพิเศษทางภาษีให้แก่ธุรกิจดังกล่าวอย่างไรได้บ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการลดระยะเวลาของกระบวนการในการนำเข้าแรงงานจากต่างชาติ

3.การเร่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แก่ประชาชน

4.การจัดตั้งประชาสัมพันธ์และโปรโมตเพื่อกระตุ้นให้บริษัทข้ามชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ โดยกระทรวงไอซีทีได้เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์บีพีโอแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยจะมีการหาข้อสรุปทั้ง 4 ด้านภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และมีแผนที่จะส่งจดหมายไปยังบริษัทข้ามชาติกว่า 10 บริษัทที่มีโครงการลงทุนระบบคอลเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกภายในไตรมาสที่ 2 นี้เพื่อเชิญชวนให้มาลงทุนในประเทศไทย

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดบีพีโอจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าตลาดรวมทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากประเทศไทยมีแผนชัดเจนในการสนับสนุนธุรกิจดังกล่าวเชื่อว่าประเทศไทยจะมีส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวราว 10% ภายในปี 2550 และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจเอาต์ซอร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2547

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.