ซัมซุงย้ายฐานผลิตจอแอลซีดีเข้าไทย

ซัมซุงทุ่ม 400 ล้าน ย้ายฐานการผลิตจอภาพแอลซีดีมาไทย ลดกำลังการผลิตที่เกาหลี สร้างความได้เปรียบการแข่งขัน หนุนเป้าหมายรักษาการเป็นผู้นำตลาดจอ

 

นายซุก มินฌอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า เดือนนี้บริษัทเริ่มขยายสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โรงงานศรีราชา ผลิตจอภาพแอลซีดีเป็นครั้งแรกในไทย เพื่อความได้เปรียบด้านต้นทุนการแข่งขัน โดยใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 1 ล้านชุด/ปี จากเดิมใช้ผลิตจอภาพซีดีทีอยู่ 1.2 ล้านเครื่อง/ปี ผลิตเอชดีทีวี 2.2 ล้านเครื่อง/ปี เครื่องซักผ้า 1.5 ล้านเครื่อง ตู้เย็นและแอร์รวมกัน 1 ล้านเครื่อง เตาอบไมโครเวฟ 4 ล้านเครื่อง

 

สำหรับการย้ายฐานการผลิตครั้งนี้ บริษัทลดกำลังการผลิตที่เกาหลีลง 20% นอกจากนี้ยังมีฐานการผลิตแอลซีดีอยู่ที่เม็กซิโก มาเลเซีย และจีน ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายแอลซีดีทั่วโลก 10 พันล้านเครื่อง/ปี "ธุรกิจกลุ่มสินค้ามอนิเตอร์ และเอชดีทีวี ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงสุดของบริษัท ดังนั้นบริษัทจะศึกษาความเป็นไปได้ของการขยายการผลิตสินค้าในหมวดดังกล่าวภายในครึ่งปีหลังนี้ด้วย" ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้หลักจากผลิตภัณฑ์ไอที 50% ของรายได้รวม ขณะที่สินค้าคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ อยู่ในระดับ 25-30% และโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่ำกว่า 25%

 

ด้านนายกรัณฑ์ ร่วมสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า บริษัทจะรักษาความเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในตลาดจอภาพ ที่มีสัดส่วน 22% จากตลาดรวมปีละ 6 แสนเครื่อง/ปี โดยล่าสุดบริษัทวางตลาดจอภาพ 12 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะจอแอลซีดี 172 W ซึ่งเป็นจอกว้างสำหรับงานมัลติมีเดีย ที่สามารถใช้ร่วมกับทีวีได้ ทั้งยังมีรุ่นอื่นๆ เช่น รุ่นสำหรับงานประมูล, รุ่นเจาะตลาดสวยงาม เน้นการออกแบบ รวมถึงจอแอลซีดีขนาด 19 นิ้ว เน้นหน้าจอขนาดใหญ่ และไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ใช้งานอุปกรณ์การแพทย์ได้ เป็นต้น พร้อมกันนี้บริษัทได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ขนาดเล็กที่สุด และความเร็วสูงสุด 16 แผ่น/นาที เจาะตลาดผู้ใช้งานส่วนตัวและโซโห รุ่นเอ็มแอล 1750 และ 1710 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเครื่องพิมพ์ปีนี้ 7,000-10,000 เครื่อง

 

ขณะเดียวกันยังเปิดตัวคอมโบไดร์ฟ ที่เขียนอ่านแผ่นซีดีความเร็วสูงสุด 52 เท่า (52 เอ็กซ์) เป็นครั้งแรกในตลาดไทย ที่รวมคุณสมบัติเป็นเครื่องอ่านดีวีดี รอม 16 เอ็กซ์ เครื่องเขียนอ่านแผ่นดีวีดี และแผ่นซีดีในเครื่องเดียว รุ่น DVD- Multi Recorder ทั้งนี้ในผลิตภัณฑ์ไอทีนั้น มอนิเตอร์ยังเป็นรายได้หลักกว่า 60% และประมาณ 30% มาจากกลุ่มอุปกรณ์ออพติคัลมีเดีย หรือสื่อบันทึกข้อมูล และอีกราว 10% ที่เหลือมาจากเครื่องพิมพ์เลเซอร์

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 พฤษภาคม 2546

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.