ซันตีปีกรับนโยบายจีนสบช่องเบียดไมโครซอฟท์

นักวิเคราะห์ชี้เบื้องหลังปกป้องผู้ผลิตในประเทศและควบคุมข้อมูลลับ
ซัน ระบุนโยบายส่งเสริมซอฟต์แวร์ท้องถิ่นจีน ส่งสัญญาณดับอำนาจไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดทางดันระบบงานลินิกซ์ตีตลาดครั้งใหญ่ ขณะที่ไมโครซอฟท์เผยผลวิจัยตอกย้ำต้นทุนพัฒนาระบบงานวินโดว์สต่ำกว่าลินิกซ์

 

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายจอห์น เกจ หัวหน้าฝ่ายวิจัยบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ ซึ่งกล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบปฏิบัติการประจำชาติของรัฐบาลจีน โดยอาศัยซอฟต์แวร์ท้องถิ่น หรือซอฟต์แวร์อิสระ เช่นลินิกซ์ จะทำให้การครองอำนาจโดยซอฟต์แวร์วินโดว์สสิ้นสุดลง "เมื่อจีนตัดสินใจออกนโยบายต่อต้านซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้พัฒนาในประเทศ ซึ่งมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า "ลาก่อน ไมโครซอฟท์" ก็หมายความว่าลินิกซ์ และสตาร์ออฟฟิศ ซอฟต์แวร์ที่เราพัฒนาขึ้นฟรี จะเข้ามาแทนที่ระบบงานเวิร์ด ของไมโครซอฟท์ทั้งหมด" นายเกจ กล่าว

 

ที่ผ่านมา ผู้ผลิตในอุตสาหกรรม ได้หันมาสนับสนุนการใช้ลินิกซ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง ไอบีเอ็ม เรด แฮท และซัน ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูผลประกอบการครั้งใหญ่ หลังจากที่ผลกำไรสุทธิ ประจำไตรมาส 4 ลดลงถึง 80% คิดเป็นมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ จากยอดขาย ซึ่งลดลงราว 13% เหลือเพียง 2,980 ล้านดอลลาร์ "สำหรับเรา นี่เป็นโอกาสทางการตลาดครั้งใหญ่" นายเกจ กล่าว พร้อมเสริมว่า โอเพ่น ซอร์ส จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักใน 5 ปีข้างหน้า อีกทั้งยังเป็นทางเลือกสำหรับรัฐบาลที่ไม่ต้องการผูกขาดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีของบริษัทนั้น  แต่รัฐบาลต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ใช้ซอฟต์แวร์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้ซอฟต์แวร์มีความเสถียรภาพ และความน่าเชื่อถือของระบบ รวมถึงการสนับสนุนในทางเทคนิคและการพัฒนาที่ต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมถึงความรับผิดชอบเมื่อระบบมีปัญหาด้วย

 

นักวิเคราะห์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงพัฒนาระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สร่วมกับของจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ว่า จีนไม่เพียงต้องการปกป้องบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ท้องถิ่น อาทิ คิงส์ซอฟต์ จากอำนาจผูกขาดตลาดของไมโครซอฟท์เท่านั้น แต่ยังมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมการรักษาข้อมูลสำคัญของรัฐบาล และความปลอดภัยเครือข่ายข้อมูลในประเทศ ขณะที่ ตัวแทนบริษัทไมโครซอฟท์ กล่าวว่า พันธมิตรระหว่างชาติเอเชียทั้งสามอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านการแข่งขันที่เป็นธรรม ขณะเดียวกัน บริษัทไจก้า รีเสิร์ช ได้เปิดเผยผลการศึกษา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาระบบงานสำหรับโปรแกรมวินโดว์ส มีราคาถูกและทำได้ง่ายกว่าการพัฒนาระบบงานสำหรับลินิกซ์

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจ ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นการสำรวจจากผู้ประกอบการทั้งหมด 12 แห่ง โดยบริษัท 7 แห่งใช้แพลตฟอร์ม ดอท เน็ต ของไมโครซอฟท์ และบริษัทอีก 5 แห่งใช้แพลตฟอร์มลินิกซ์ พบว่า บริษัทขนาดใหญ่ มีค่าใช้จ่ายในการรันระบบงานมาตรฐานดอท เน็ต ราว 1.64 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 3 ปี ซึ่งต่ำกว่าค่าใช้จ่ายในการรันบนมาตรฐาน เจ2อีอี/ลินิกซ์ (J2EE/Linux) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.29 ล้านดอลลาร์ ราว 28%

 

ขณะที่ นายจอห์น ไรเมอร์ นักวิเคราะห์รายหนึ่ง เสริมว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน ไม่ใช่ราคาซอฟต์แวร์ แต่เป็นต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ และค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทางฟอร์เรสเตอร์ ระบุว่า แม้จะมีความแตกต่างด้านราคา แต่ "องค์กรหลายแห่ง จะหันมาใช้ลินิกซ์มากกว่าไมโครซอฟท์" เนื่องจากความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มยูนิกซ์ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับรันเครือข่ายคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของซัน

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 กันยายน 2546

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.