ซันฯปลุกตลาด "โลว์คอสต์คอมพิวเตอร์" พร้อมเร่งหาคู่ค้าช่วยบุกตลาดซอฟต์แวร์

ซันฯประกาศแผนขยายตลาดปีวอกชูนโยบายเปิดตลาด "โลว์คอส คอมพิว เตอร์" ขยายลงจับตลาดล่าง พร้อมชูนโยบายสร้างเม็ดเงินจากตลาดซอฟต์แวร์ โดยเร่งหาคู่ค้ามาโฟกัสการทำตลาดซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ

นายก้องเกียรติ หวังวีระมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ จำกัด เปิดเผย "ประชา ชาติธุรกิจ" ถึงนโยบายการทำตลาดของซันฯในปีนี้คือการหาพาร์ตเนอร์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยในการขยายตลาดซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ เนื่องจากซันฯมีผลิตภัณฑ์ทางด้านซอฟต์แวร์อยู่พร้อมแล้วไม่ว่าจะเป็น จาวา เดสก์ทอป ซิสเต็มส์, จาวา เอ็นเตอร์ ไพร้ซ ซิสเต็มส์และอื่นๆ อีกหลายตัว แต่ปัญหาคือบริษัทขาดการผลักดันและไม่มีคนที่จะมาสนับสนุนการทำตลาดอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาจะเป็นการฝากให้คู่ค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ของซันฯช่วยทำตลาดพ่วงไปด้วยเป็นโซลูชั่นทำให้พาร์ตเนอร์ยังไม่โฟกัสหรือผลักดันการทำตลาดอย่างจริงจัง จะเน้นการทำตลาดฮาร์ดแวร์มากกว่า ดังนั้นเพื่อสร้างตลาดด้านซอฟต์ แวร์อย่างจริงจัง เนื่องจากซอฟต์แวร์ของซันฯสามารถทำงานบนเครื่องฮาร์ดแวร์ทุกยี่ห้อ จึงมีนโยบายการตั้งตัวแทนจำหน่ายเพื่อมาทำตลาดซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดข้อตกลง

นายก้องเกียรติกล่าวว่า นโยบายอีกข้อของบริษัทคือการทำโลว์คอส คอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเนื่องจากปัจจุบันซันฯมีลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ของซันฯจำนวนมาก แต่มีปัญหาว่าเครื่องเวิร์กสเตชั่นลูกค้าไม่ใช้ของซัน ด้วยปัญหาว่าเครื่องของซันมีราคาสูงกว่าเครื่องของคู่แข่ง ดังนั้น ซันฯจึงได้ออกคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ชิปเอเอ็มดี เพื่อทำให้ราคาใกล้เคียงคู่แข่งเพื่อขยายลงมาในตลาดล่าง "เชื่อว่าถ้าบริษัทมีคอมพิวเตอร์เวิร์กสเตชั่น ราคาถูกลงมาทำตลาด ลูกค้าที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ของ ซันฯอยู่เดิมก็น่าจะพร้อมเครื่องเวิร์กสเตชั่นของซันฯ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าขนาดกลางและย่อมที่อยู่ออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำตลาดคอมพิวเตอร์ซันฯ จะเน้นความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่พัฒนาแอปพลิเคชั่นเฉพาะด้าน เพื่อให้พาร์ตเนอร์มีโฟกัสการทำตลาดในแต่ละเซ็กเมนต์มากขึ้น"

นายก้องเกียรติกล่าวว่า นอกจากเรื่องของการสร้างเม็ดเงินทางด้านธุรกิจ ซันฯยังให้ความสำคัญกับประเด็นการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะการผลักดันโครงการศูนย์ java competency เป็นลักษณะศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรเพื่อสร้างนักพัฒนาบนเทค โนโลยีจาวา แต่การที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อผลักดันนโยบาย และจัดหาองค์กรกลางเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง "ความต้องการนักพัฒนาเทคโนโลยีจาวามีสูง แม้ว่าเมืองไทยจะมีคนรู้จักหรือพัฒนาแอปพลิเคชั่น บนเทคโนโลยีจาวาจำนวนมาก แต่มีคนที่ได้รับ certify อยู่เพียง 200-300 คนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้สำคัญเพราะถ้าไม่ได้ certify ก็ทำให้การพัฒนาอาจมีข้อบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจุดนี้ทำให้โอกาสในการที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อส่งออก หรือไปรับงานต่างประเทศก็ลำบาก"

นายก้องเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ซันฯได้พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะสำเร็จและเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน ซึ่งการตั้งศูนย์นี้ไม่ใช่ว่าซันฯจะเป็นผู้ได้ประโยชน์แต่ว่าประโยชน์จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย แน่นอนว่าซันฯก็ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการที่มีนักพัฒนาจาวาแอปพลิเคชั่นที่มากขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนร่วมกันเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศไทย

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 16 เมษายน 2547

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.