เพิ่มกำลังผลิตกลุ่มไวท์กู๊ด เชื่อมโยง 3 ตลาดเข้ายุคไอที เล็งขยายสินค้าใหม่ 80 รายการปี'48
โตชิบา ประกาศทุ่มอีก 1,000 ล้านบาท ขยายการลงทุนในไทย เพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มไวท์กู๊ด ในปี 2548 หวังเพิ่มศักยภาพสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม เข้าสู่เทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งเอวี ไอที และไวท์กู๊ด เผยปี'47 เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 80 รายการ ชูจุดขาย "Feel IT Do IT" ด้านยอดขายปีนี้มั่นใจทะลุ 3,200 ล้านบาท

นายมาโกโตะ นาคากาวา รองประธานบริหาร บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย มีอัตราการเติบโตสูงมาก เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยโตชิบา มองว่า ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพมาก (ยกเว้นญี่ปุ่น) และโตชิบาได้ขยายธุรกิจขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งปัจุบันมีบริษัทในเครือรวมถึง 18 บริษัท มีโรงงานขนาดใหญ่อีก 8 แห่ง และมียอดขายรวมกันทุกบริษัทถึง 4 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าที่โตชิบาทำตลาดในประเทศไทยมี 3 กลุ่ม คือ เอวี ไอที และไวท์กู๊ด (เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน) ส่วนกลุ่มที่สร้างรายได้ให้มากที่สุด คือ ไวท์กู๊ด เป็นสัดส่วน 60% ตามด้วยหมวดเอวี 25% และไอที 15%

เป้าหมายในไทยนั้น บริษัทต้องการรักษาฐานการตลาดให้เหนียวแน่น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มไวท์กู๊ดประเภทตู้เย็น ที่ปัจจุบันโตชิบายังครองความเป็นผู้นำตลาดอยู่ เป้าหมายของโตชิบาในปีหน้าจะทุ่มเงินอีก 1,000 ล้านบาท ขยายการลงทุน โดยเน้นขยายกำลังผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตตู้เย็น 4.5 แสนเครื่องต่อปี เมื่อถึงปี 2548 จะเพิ่มเป็น 9 แสนเครื่อง ส่วนเครื่องซักผ้าขณะนี้อยู่ที่ 5 แสนเครื่อง เป็น 1 ล้านเครื่องในปี'48 "การทุ่มเม็ดเงินในครั้งนี้ เรามองว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เป้าหมายโรงงานในไทยไม่ใช่เพียงแค่เป็นฐานการผลิตสำหรับตลาดในประเทศเท่านั้น แต่จะเพื่อการส่งออกด้วย และตู้เย็นเป็นสินค้าที่เราแข็งแกร่งในตลาด เรามีส่วนแบ่งตลาด 20% ในส่วนของ 1 ประตู และเมื่อรวม 2 กับ 3 ประตูแล้วเราก็ยังครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดรวมที่ 16% ดังนั้น เราจึงต้องรักษาฐานของตู้เย็นให้เหนียวแน่น ขณะที่เครื่องซักผ้าเราก็เติบโตขึ้นปัจจุบันโตชิบาขึ้นมาอยู่อันดับสี่ของตลาดแล้ว" รองประธานบริหารกล่าว นายนาคากาวา กล่าวต่อว่า เพื่อสนับสนุนให้การทำตลาดในไทยแข็งแกร่งขึ้น ขณะนี้บริษัทได้ตั้ง โตชิบา คอนซูมเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง คอร์ปอเรชั่น ขึ้น ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมสนับสนุนการทำงาน ทั้งด้านการวางแผนสินค้า การผลิต การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดได้ รวมถึงการกระจายสินค้าและการเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน

ด้าน นายชินจิ เทราซาวา ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดในไทยปี 2547 ว่า ในปีหน้าโตชิบาจะฉลองครบรอบ 35 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย และจะรุกตลาดอย่างหนักทุกกลุ่มสินค้าในระดับพรีเมียม และแนวทางการทำตลาด จะเน้นเชื่อมโยงการใช้งานของสินค้าให้เป็นหนึ่งเดียว Feel IT Do IT ซึ่งสินค้าในกลุ่มเอวีและไอทีเห็นภาพชัดเจนที่สุด

ด้าน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ 3,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23% ในขณะที่สภาวะตลาดโดยรวมมีการเติบโตประมาณ 5% ส่วนปีหน้าคาดว่าการเติบโตจะเท่ากับปีนี้ จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 80 รายการ ล่าสุดคือ ตู้เย็นรุ่นใหม่ โตชิบา พลาสม่า เป็นนวัตกรรมของตู้เย็นที่สร้างประจุไฟฟ้าลบมารวมกับโอโซน เพื่อสลายกลิ่นในตู้เย็น และยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรค

นายชินจิ เทราซาวา ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ระหว่างแถลงแผนการตลาดในไทยปี 2547 โดยระบุว่า ในปีหน้าโตชิบา จะฉลองครบรอบ 35 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย และจะรุกตลาดอย่างหนักทุกกลุ่มสินค้าในระดับพรีเมียม ด้วยแนวคิดเชื่อมโยงการใช้งานของสินค้าให้เป็นหนึ่งเดียว ในสโลแกน "Feel IT Do IT"

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546