เอ็กซ์บอกซ์ (Xbox) เปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดี (15 พ.ย.) ในงานคอมเด็กซ์ งานแสดงเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในสหรัฐ โดยได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทุ่มงบประมาณด้านการตลาดของบริษัท เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่สิงห์เกมวัย 16-26 ปี หลายคนอาจรู้สึกแปลกใจ ที่ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับเอ็กซ์บอกซ์มาก เท่าๆ กับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส และชุดซอฟต์แวร์ออฟฟิศ ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่อยู่ เนื่องจากเจ้าเครื่องเล่นเกมกล่องสีดำนี้แหละที่จะเป็นกุญแจสำคัญ ในการนำทางไปสู่อนาคตของไมโครซอฟท์

นายเจ อัลลาร์ด ผู้จัดการทั่วไปส่วนเอ็กซ์บอกซ์ กล่าวว่า 25 ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเปลี่ยนวิถีการดำเนินธุรกิจของคนทั่วไป แต่ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่ไมโครซอฟท์จะใช้เทคโนโลยีเข้าไปเปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ของคนบ้าง นายอัลลาร์ด และผู้บริหารของไมโครซอฟท์ มองว่า เอ็กซ์บอกซ์ จะเป็นก้าวแรกในการขยายฐานเข้าสู่ห้องนั่งเล่นของคนทั่วโลก โดยภายในห้องนั้น จะต้องประกอบด้วย อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ ตั้งแต่กล่องแปลงสัญญาณดิจิทัล (set-top box) ไปจนถึงเครื่องเล่นเพลง และวิดีโอระบบดิจิทัล

ปัจจุบันความบันเทิงกลายเป็นตลาดใหญ่ สำหรับบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ต่างต้องการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านทางเครื่องรับโทรทัศน์, เครื่องเล่นเกมที่ให้ภาพกราฟฟิกสมจริง, การดาวน์โหลดเพลง และภาพยนตร์มาสร้างความบันเทิงให้กับคนในครอบครัว รวมทั้งการสร้างความบันเทิงนอกบ้าน ด้วยการพกพาอุปกรณ์เลขาอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแม้แต่เครื่องเล่นเพลง-วิดีโอดิจิทัลขนาดพกพา ดังนั้น ไมโครซอฟท์ จึงพยายามสร้างฝันให้เป็นจริง ด้วยการเปิดบริการ "ดอทเน็ต" (.NET) และพาสปอร์ต (Passport) ระบบรับรองสิทธิสำหรับการใช้งานบริการต่างๆ ของไมโครซอฟท์ ณ จุดเดียวแบบครบวงจร โดยเอ็กซ์บอกซ์ จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการสร้างฐานที่มั่นให้กับบริษัทในบ้านของผู้บริโภค

ขณะนี้ ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดน้อยลง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ ส่งผลให้ไมโครซอฟท์ต้องปรับตัวด้วยการมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อย่างตลาดบันเทิงภายในบ้าน และการกรุยทางเข้าสู่ห้องนั่งเล่นด้วยเอ็กซ์บอกซ์ เป็นเส้นทางที่บริษัทเล็งเห็นว่า มีโอกาสประสบความความสำเร็จสูงสุด มาตรการดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกของไมโครซอฟท์ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจฮาร์ดแวร์ โดยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบริษัทจากนักธุรกิจทำงานออฟฟิศ มาเป็นผู้สร้างสรรค์ความบันเทิงภายในบ้าน

นาย พี.เจ.แมคนีลีย์ นักวิเคราะห์ตลาดเกมของบริษัท การ์ทเนอร์/ดาต้าเควสต์ กล่าวว่า การทุ่มทำตลาดด้วยงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ของไมโครซอฟท์ จะกระตุ้นความสนใจให้สิงห์เกมทั่วโลกหันมาสนใจเอ็กซ์บอกซ์มากขึ้น แต่บริษัทต้องทำการบ้านหนักกว่านั้น ด้วยการสร้างแรงดึงดูดให้กับลูกค้ากลุ่มเด็ก และผู้ใหญ่หันมาสนใจในเอ็กซ์บอกซ์ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่สิงห์เกมกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544