กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยได้รับผลกระทบจากการลดภาษีตามข้อตกลงในกรอบ AFTA ตั้งแต่ต้นปี 2543 ทำให้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่หลายบริษัทได้เลิกการผลิตสินค้าบางชนิดลง เช่น โทรทัศน์สี ในขณะที่หลายบริษัทได้ลดกำลังการผลิตลง เพราะไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้าจากมาเลเซียได้ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราการใช้กำลังผลิตในไตรมาสของปี 2544 ของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ลดลง

ฝ่ายวิจัยธนาคารกรุงเทพ ได้ประมาณการว่า มูลค่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 45,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าหมวดภาพและเสียง ร้อยละ 60 และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ร้อยละ 40 ตลาดในประเทศโดยรวมยังอยู่ในลักษณะชะลอตัวต่อไปอีก เนื่องจากประชาชนยังคงมีกำลังซื้อน้อย

การส่งออกไตรมาสที่ 1 ของปี 2544 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่า 2,021.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2543 โดยร้อยละ 40 เป็นการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

จากรายงานของ BOI พบว่า ไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สินค้าหลักที่มีการผลิตลดลง ได้แก่ หลอดภาพโทรทัศน์, จอภาพคอมพิวเตอร์, Hard Disk Drive Parts, IC, Diode & LED, Transistor, PCBA ส่วนสินค้าหลักที่มีการผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ Hard Disk Drive, Transformer เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง เพราะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยเป็นฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศที่ชะลอตัวลง

จากรายงานของ BOI พบว่า ไตรมาสที่ 1 ของปี 2544 สินค้าหลักที่มีการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2543 ได้แก่ Hard Disk Drive Parts, จอภาพคอมพิวเตอร์, Transistor และ Diode & LED ส่วนสินค้าหลักที่มีการจำหน่ายในประเทศลดลง ได้แก่ หลอดภาพโทรทัศน์, IC และ PCBA

มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 1 คิดเป็น 4,256 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2543 สินค้าสำคัญที่มีการส่งออกเพิ่ม ได้แก่ IC, Transformer สินค้าสำคัญที่มีการส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, PCBA, Diode & LED, Transistor และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ

อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า มีแนวโน้มหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเฉพาะตลาดหลักในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกที่จะได้รับผลกระทบสูง ได้แก่ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า ส่วนแนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศยังคงประสบภาวะซบเซาต่อไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าการผลิตและการส่งออกของไทยจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง

1. ญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2544 ได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการรีไซเคิล เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 4 ชนิด คือ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า โดยภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่การจัดเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หมดสภาพ จนกระทั่งถึงการแยกชิ้นส่วนที่ยังใช้ประโยชน์ต่อจะเป็นภาระของผู้บริโภค
2. สหภาพยุโรป ได้ผลักดันให้กฎระเบียบของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับเศษเหลือทิ้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Waste from Electrical and Electronic Equipment: WEEE) ให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ : ปริมาณการผลิตเฉพาะผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ : ปริมาณการผลิตเฉพาะผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

มิถุนายน 2544

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม