เครื่องไฟฟ้าบ้านพาเหรดสู่ "โลกดิจิทัล" ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ยิ้ม "ได้เวลาโกยเงิน"
"
เอกรัตน์ สาธุธรรม สุจิตร ลีสงวนสุข
ผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกำลังเพิ่มมูลค่า
และความเป็นอัจฉริยะให้กับสินค้าของตนมากในรูปแบบของอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการประมวลผลด้วยตัวเอง
ซึ่งแน่นอนว่านอกจากชิพคอมพิวเตอร์ที่ถูกยัดใส่เข้าไปในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แล้ว อุปกรณ์ประเภทหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ
อุปกรณ์เก็บข้อมูล หรือฮาร์ดดิสก์
ยกตัวอย่างเครื่องเล่นดีวีดีรุ่นใหม่
ที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องเล่นเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการบันทึกรายการและภาพยนตร์ได้เหมือนกับเครื่องวิดีโอที่กำลังสูญพันธุ์ไปจากโลก
เครื่องเล่นดีวีดีเหล่านี้จะมีฮาร์ดดิกส์เพื่อบันทึกรายการจากทีวีก่อนที่ผู้ใช้จะสั่ง "บันทึก" ลงแผ่นดีวีดี ไม่เพียงเท่านั้น
หลังจากไอพอด เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลของบริษัทแอปเปิล และเครื่องเล่นเอ็มดีของโซนี่
ทำยอดขายได้อย่างงดงาม เลยพลอยส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าดิจิทัลทั้งหลายหันมาให้ความสนใจอุปกรณ์พกพาเพื่อความบันทึกมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นพานาโซนิค หรือแม้แต่ซัมซุง เสือตัวใหม่จากเกาหลี และแน่นอนว่า ยิ่งความจุข้อมูลของอุปกรณ์มากเท่าไร
ความได้เปรียบในตลาดจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงา ดังนั้น จึงไม่แปลกที่
ผู้ผลิตฮาร์ดิสก์รายใหญ่ของโลกรายหนึ่งอย่าง ซีเกท จะมองว่า ในอีกสองสามปีข้างหน้า
อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงหรือที่เรียกว่า "ดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์"
หรือแม้แต่รถยนต์จะเป็นตลาดสำคัญของฮาร์ดดิสก์
อุปกรณ์บันเทิง - ยานยนต์ตลาดใหม่ฮาร์ดดิสก์
นายเบรนท์ บาร์คเม้นท์
รองประธานกรรมการดูแลส่วนปฏิบัติการบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี ผู้ผลิต
ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ รายใหญ่ของโลก บอกว่า ในวันนี้มีปริมาณข้อมูลมากถึง 20,000 เทราไบต์ และคาดว่าปริมาณข้อมูลจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 60,000 เทราไบต์ในปี 2549 "เมื่อปริมาณข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น
ผู้ประกอบการที่มีเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลอยู่ในมือก็มีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มตามไปด้วย"
นายบาร์คเม้นท์ กล่าว
ปัจจุบันซีเกทมียอดส่งฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟไปทั่วโลกกว่า 67.5 ล้านยูนิต
และมีรายได้ ณ ปัจจุบัน 6,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งคาดหมายกันว่าในปี 2549
ยอดส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟทั่วโลกจะมีมากถึง 300 ล้านยูนิต"
เขาบอกด้วยว่า
กลุ่มเป้าหมายหลักที่ทำยอดขายให้ฮาร์ดดิสก์ของซีเกทในวันนี้มีอยู่ 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์
โน้ตบุ๊ค และในกลุ่มโมบาย หรืออุปกรณ์ไร้สายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ
พีดีเอ เครื่องเล่นวิดีโอ รวมไปถึงกล้องถ่ายรูปดิจิทัล และเครื่องเล่นเกมทั้งหลายที่จะต้องมีฮาร์ดดิสก์ติดอยู่กับตัวเครื่อง
เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมาก และสองกลุ่มเป้าหมายหลักของซีเกท
ขณะนี้ ก็คือ แนวโน้มของตลาดหลักๆ ของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ทั่วโลก
"ผมบอกได้เลยว่าต่อไปอุปกรณ์ไร้สายทั้งหลาย
ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี 3 อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
เทเลเมติก ดิจิทัลทีวี เกมคอนโซลต่างๆ ที่ภายใน 2-5 ปีนี้
ตลาดจะเห็นกันอย่างแน่นอน" นายบาร์คเม้นท์ กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่า
ในปี 2549 อุตสาหกรรมด้านความบันเทิง ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟในด้านของเทคโนโลยีดิจิทัลนั้นกว่า
30%
ของเพลงทั่วโลกจะถูกดาวน์โหลดผ่านทางออนไลน์ลงสู่อุปกรณ์ไร้สายขนาดเล็ก รวมไปถึงความบันเทิงที่เป็นรูปภาพ
ซึ่งจะรวมไปถึงภาพยนตร์ หรือเนื้อหาในประเภทมัลติมีเดีย และนั่นหมายความว่า
อุปกรณ์ไร้สาย หรือเครื่องเก็บข้อมูลดิจิทัลเหล่านั้นจะต้องมีเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลประเภทมัลติมีเดียในปริมาณที่สูง
ดังนั้นเทคโนโลยีของฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟจึงถือเป็นตัวเลือกที่มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาเป็นกลไกหลักในการเก็บข้อมูลในปริมาณสูงๆ
เหล่านี้
ขณะเดียวกัน อีกไม่นานอุตสาหกรรมหนึ่งที่กำลังจะเข้ามามีบทบาททำให้ยอดขายฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเติบโตเพิ่มขึ้นอีก
คือ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Penetration) เพราะขณะนี้อุตสาหกรรมดังกล่าวมีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งภายในรถยนต์
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นรถยนต์ที่มีเครื่องบอกพิกัดทิศทาง (Navigation) หรือเทคโนโลยีด้านเสียง (AV Technology) ไปจนถึงอุปกรณ์ด้านดิจิทัลมัลติมีเดียที่ติดอยู่ภายในรถยนต์ในรุ่นใหม่ๆ
ที่ออกสู่ตลาดกันอย่างคึกคักในช่วงนี้
ปีทองเครื่องไฟฟ้าตลาดบ้าน
"สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ผมกำลังจะบอกว่า
ตัวเลขประมาณการปี 2549 ที่บอกว่าจะมีการส่งออกฮาร์ดดิสก์ทั่วโลก
300 ล้านยูนิตนั้น จะมียอดการส่งออกนั้นจะมีเพิ่มขึ้นกว่า 35% ในทุกๆ วัน เลยทีเดียว" นายบาร์คเม้นท์ กล่าว กระนั้นก็ตาม
ยังมีตัวเลขที่น่าสนใจโดยมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2553 นั้น ตลาดรวมของการส่งออกฮาร์ดดิสก์ทั่วโลกจะมีปริมาณมากถึง
500 ล้านยูนิต ถึง 1,000 ล้านยูนิตต่อปี
โดยที่ตลาดใหญ่ที่สุดจะยังอยู่ที่ตลาดของสินค้าประเภทคอนซูมเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์กว่า
30-50%
หรือมียอดส่งออกฮาร์ดดิสก์ทั่วโลกสำหรับสินค้ากลุ่มนี้ 250-500 ล้านยูนิต
ในงานสัมมนาที่จัดโดยสมาคมด้านอุตสาหกรรมฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ
IDEMA:The
Trade Association for Data Storage Industry หัวข้อ "Business/Market
Change Analysis and Technology Update of HDD Industry" นายเดวิส
เรนเซล ผู้จัดการวิจัย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น หรือไอดีซี
บริษัทวิจัยระดับโลก เมื่อวันที่ 27 ต.ค.
2546 กล่าวว่า ตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2550 จะคิดเป็นสัดส่วน 18% จากตลาดรวมฮาร์ดดิกส์ 25.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีนี้ คาดว่าตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์จะอยู่ที่
5% จากตลาดรวม 20.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตลาดดั้งเดิมในเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและพกพา จะลดสัดส่วนลงจาก 74%
ในปีนี้เหลือ 64% ในปี 2550 ที่เหลือเป็นการใช้งานสตอเรจสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่จะลดลง
ในปีนี้มีสัดส่วน 22% จากตลาดรวม และจะลดลงเหลือ 19%ในปี 2550 ด้วย
ส่วนนายมาร์ก กีนัน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทรนด์ โฟกัส อิงค์ สำนักวิจัยด้านฮาร์ดดิกส์
กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์) ยังคงเป็นตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงสำหรับผู้ผลิตฮาร์ดดิกส์
โดยปีนี้คาดว่าจะสูงถึง 16.7 ล้านตัว และในปี 2549 ตลาดนี้จะมากกว่า 55 ล้านตัว คิดเป็นสัดส่วน 15-20% ของตลาดฮาร์ดดิกส์ทั้งหมด ทั้งนี้ในตลาดคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์นั้น
กลุ่มเครื่องบันทึกวิดีโอส่วนบุคคล (Personal Video Recorder :PVR) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฮาร์ดดิกส์มากที่สุด ปี 2549 ตลาดนี้จะถึง
25 ล้านตัว จากปี 2545 อยู่ที่ 2 ล้านตัว และปีนี้อยู่ที่ 5 ล้านตัว โดยมี "ภาพยนตร์" เป็นบริการหลักที่ผลักดันให้มีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวแพร่หลาย
เพราะปัจจุบันผู้ให้บริการเคเบิล และดาวเทียมในต่างประเทศเริ่มนำอุปกรณ์นี้ไปติดตั้งและคิดค่าอุปกรณ์ไม่แพง
ตามมาด้วยตลาดเกม โดยเฉพาะเกมคอนโซล โดยได้รับแรงผลักดันจากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
(บรอดแบนด์) ซึ่งผู้ผลิตเครื่องเล่นเกม
รายใหญ่ทั้งเอ็กซ์บ็อกซ์ของไมโครซอฟท์ และพีเอสเอ็กซ์ ของโซนี่
รวมถึงเครื่องเล่นเพลงดิจิทัล ที่มี ไอพอดจากแอปเปิล และโซนี่กำลังจะออกมา
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
(SciTech) ฉบับวันที่ 30 ตุลาคม 2546
|