NECTEC – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Tue, 08 Nov 2022 06:45:50 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png NECTEC – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค สวทช. ร่วมเป็นวิทยากรหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับที่ปรึกษาผู้ประกอบการ พร้อมแนะนำ Thai SME-GP https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/thai-sme-gp-advisor2022.html Tue, 21 Jun 2022 08:34:21 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=27278

บุคลากร เนคเทค สวทช. ร่วมเป็นวิทยากรในงานของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.หรือ ISMED) หน่วยงานในเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในระดับพื้นที่เข้าสู่ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2565 มีการให้ความรู้แก่ผู้เชี่ยวชาญ/ที่ปรึกษา ก่อนที่จะเข้าไปให้คำปรึกษา แนะนำพัฒนาผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติงานภายใต้โครงการและความรู้ ที่เกี่ยวกับกฎหมายและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ตลอดจนสิทธิประโยชน์ ต่าง ๆ ที่ภาครัฐต้องการส่งเสริมสนับสนุน SME วันที่ 18 – 19 มิถุนายน 2565 ผ่านระบบ ZOOM

โดย คุณปรเมษฐ์ ธันวานท์ ผู้ช่วยวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (SAI) กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ (DSARG) เนคเทค สวทช. ได้ร่วมป็นวิทยากรในการบรรยายหัวข้อ “ภาพรวมและแนวปฏิบัติสำหรับ SMEs ในการขึ้นทะเบียน บนระบบ Thai SME-GP ของ สสว.” ในวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2565 ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำหรับที่ปรึกษา โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 211 คน

ระบบ THAI SME-GP จัดทำขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ภายใต้มาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งทาง สสว. ได้ให้ความไว้วางใจ ทีมวิจัยการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (SAI) เนคเทค สวทช. เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้น โดย สสว. มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาฐานข้อมูล MSME และระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสำหรับ MSME ให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สามารถวิเคราะห์ประมวลผล และการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศ สำหรับใช้ประโยชน์ในการวางแผนและกำหนดมาตรการในการส่งเสริม MSME สร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ MSME ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และเพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนมาตรการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสำหรับ MSME และหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งนี้ยังเป็นการประยุกต์ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขึ้นทะเบียน SME เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมระบบ THAI SME-GP
https://www.thaismegp.com

]]>
เนคเทค สวทช. จับมือ ส.ท.อ. พร้อมพันธมิตรเอกชน ร่วมยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยแพลตฟอร์มสารสนเทศขั้นสูง พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/ace2021-opening.html Mon, 13 Dec 2021 06:13:53 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23734

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ(มทร.กรุงเทพ) และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทคประจำปี 2564 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2021 (NECTEC–ACE 2021) ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” มุ่งเน้นด้าน “Digital Transformation for Sustainable Manufacturing and Services” เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรม ไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เป้าหมายเพื่อแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมการผลิตและบริการที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาและประยุกต์ใช้งานได้จริงในสายการผลิต พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0 ในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ในฐานะประธานเปิดงานกล่าวว่า อุตสาหกรรมคือแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อภาคเศรษกิจของไทย แต่ในช่วงที่ผ่านกลับเติบโตช้าลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความสามารถด้านแข่งขันและความเข้มข้นของการใช้เทคโนโลยีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมไทย ประกอบกับสถานการณ์จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน นอกเหนือจากการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังต้องมีการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง พร้อมต่อการแข่งขันภายหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย บวกกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับสายการผลิตเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 ในปัจจุบันได้เข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ตามแนวทางการพัฒนาประเทศ Thailand 4.0 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ถึง 10-40 % และสร้างรายได้ 10-20 % แต่ผู้ประกอบการยังขาดความรู้ความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ อุตสาหกรรม 4.0

จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้กำหนดแนวทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SME ให้สามารถยกระดับองค์กรให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ พร้อมรองรับการเข้าสู่ยุคความปกติใหม่หลัง COVID-19 ขึ้น อย่างเป็นระบบ โดยใช้แนวทางบันได 3 ขั้น คือ 1.การประเมินความพร้อมในปัจจุบัน และการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องดำเนินการตามทิศทางของธุรกิจ (Initiation) 2.การจัดทำแผนดำเนินการและการจัดหาเทคโนโลยีโซลูชั่น (Solutioning) 3.การติดตั้งเทคโนโลยีโซลูชั่นและการประยุกต์ใช้งานในโรงงาน (Implementation & Operation)

 
เมื่อภาคอุตสาหกรรมของไทยสามารถประเมินความพร้อมได้ จะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจำนวนหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ในการยกระดับความพร้อมของสถานประกอบการให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการพัฒนากำลังคนอุตสาหกรรม และการพัฒนา Technology Solution Provider/System Integrator (SI) ให้มีทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการ ในการยกระดับเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต่ำลง และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะของประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับอุปสงค์ของภาคอุตสาหกรรมในประเทศอีกด้วย

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กล่าวว่า การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทคประจำปี 2564 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2021 (NECTEC – ACE 2021) ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานให้กับประเทศไทย เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย การสนับสนุนภารกิจสำคัญของประเทศและเครือข่ายพันธมิตร โดยในปีนี้มีกลุ่มเป้าหมายและพันธมิตรที่สำคัญ คือ ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยเทคโนโลยีเหมาะสมและคุ้มค่าต่อการลงทุน

ซึ่งปีนี้ เนคเทค สวทช. ได้จับมือร่วมกับพันธมิตรสำคัญได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และผู้สนับสนุนการจัดงานจากภาคเอกชน 8 องค์กร ภาครัฐ 1 องค์กร ร่วมกันจัดงานในรูปแบบออนไลน์ มีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 13-16 ธันวาคม 2564 และมีพิธีเปิดงาน ณ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” โดยมุ่งเน้นด้าน “Digital Transformation for Sustainable Manufacturing and Services” เพื่อแสดงถึงการพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมในยุคดิจิทัลที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมการผลิตและบริการที่ยั่งยืน ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0 เป็นสำคัญ 

รวมทั้งภายในงานจะมีการนำเสนอองค์ความรู้จากผลงานวิจัยของเนคเทค และผลงานที่ร่วมกับพันธมิตร มานำเสนอในรูปแบบการสัมมนาวิชาการ และการจัดนิทรรศการแบบOnline โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอผล งานและบริการที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล เพื่อแสดงศักยภาพและเทคโนโลยีจากภาครัฐและเอกชนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับภาค อุตสาหกรรม และนำเสนอความก้าวหน้าทางวิชาการทางด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิสก์ และสารสนเทศขั้นสูง โดยในปีนี้จะมีการจัดงานในรูปแบบ Online มีระยะเวลาจัดงาน 4 วัน , มี 4 Keynote , 17 หัวข้อสัมมนา, 50 บูธนิทรรศการ, 10 ห้องเจรจาธุรกิจ ที่สำคัญ คือ Virtual Exhibition ทั้ง 50 บูธ ยังเปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าไปรับชมและศึกษาข้อมูลได้ตลอด 3 เดือนภายหลังวันจัดงาน

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 35 ปี ในการก่อตั้งเนคเทค สวทช. ได้สะสมองค์ความรู้และผลงานวิจัยในด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์สำคัญ โดยมุ่งเน้นสร้างฐานรากเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ ที่ผ่านมาได้ส่งมอบผลงานในหลายด้าน อาทิ AIFORTHAI, KidBright, NETPIE2020, HandySense Smart Farming Open Innovation, Open-D และในวันนี้สิ่งหนึ่งที่เนคเทค สวทช. พัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง คือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ประกอบกับมีโจทย์สำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปี 2564 เนคเทค สวทช. จึงส่งมอบ Smart Factory Platform ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภายใต้แผนพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi จึงมีโอกาสขยายต่อยอดเพื่อประโยชน์แก่ภาคอุตสาหกรรมทุกระดับต่อไป พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0”

ภาคอุตสาหกรรมจะได้เตรียมความพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรมอุตสาหกรรม 4.0 คือ การรู้จักตัวเองด้วยดัชนีชี้วัดความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 (Thailand I4.0 Index) ช่วยในการสนับสนุนตามมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นกระบวนการการประเมินศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการ โรงงาน เเละบริษัท โดยทำการลำดับการปรับปรุงโรงงานในด้านต่าง ๆ เมื่อภาคอุตสาหกรรมมีความเข้าใจก็สามารถเริ่มต้นง่ายๆ เพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในราคาที่จับต้องได้ ด้วยแพลตฟอร์ม IDA หรือ Industrial IoT and Data Analytics Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไอโอที(IoT) และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักรการผลิตและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและอนุรักษ์พลังงานให้ดีที่สุด”

นอกจากนี้ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ ส.ท.อ. พร้อมพันธมิตร ร่วมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi ณ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมีวิสัยทัศน์เพื่อตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ผู้พัฒนาระบบ นวัตกร นักวิจัยตลอดจนนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ผ่านกิจกรรมต่างๆ

SMC ช่วยปลดล็อกปัญหาในการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยบริการทั้ง 5 ด้าน 

1) การประเมินความพร้อมของโรงงาน ว่ามีประเด็นใด ที่ต้องพัฒนาไปสู่ industry 4.0 ด้วย Thailand I4.0 Index 

2) การพัฒนากําลังคนร่วมกับพันธมิตรเพิ่มทักษะรองรับการเปลี่ยนแปลง 

3) การเลือกใช้เทคโนโลยีและการให้คําปรึกษาเรื่องแหล่งเงินทุนรวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับอุตสาหกรรมการผลิตแบบ One Stop Shop 

4) ให้บริการแพลตฟอร์มพื้นฐาน เพื่อตอบโจทย์โรงงานขนาดเล็กและกลางที่มีเงินลงทุนจำกัด 

5) ให้บริการเครื่องมือทดสอบ (Testbed) เบื้องต้นสามารถเข้ามาใช้บริการศูนย์การเรียนรู้ SMC Learning Center เพื่อเรียนรู้และรับบริการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สามารถรับคำแนะนำจากบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม 4.0 ในด้านต่างๆ กว่า 100 ท่าน

สนใจรับบริการ ติดต่อได้ที่

Email: smc-business@nectec.or.th
Website: www.nectec.or.th/smc
Facebook Page: facebook.com/smceeci
Facebook Group: SMC Community

]]>
เนคเทค-สวทช. คว้า 2 รางวัล TICTA 2019 ร่วมเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในเวทีระดับเอเชียแปซิฟิก APICTA https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/nectec-ticta2019.html Mon, 11 Nov 2019 09:07:12 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=17990

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ดร. ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ร่วมมอบดอกไม้แสดงความยินดีแก่ทีมวิจัยเนคเทค ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ Thailand ICT Awards 2019 (TICTA 2019) เพื่อเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน Asia Pacific ICT Alliance Awards 2019 (APICTA 2019) ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ประธานในพิธีเป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

TICTA 2019
TICTA 2019
TICTA 2019

โดยในปีนี้ เนคเทค คว้า 2 รางวัล ประกอบด้วย

1. Thai School Lunch: ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ได้รับรางวัล Winner Award Head Category สาขา Public Sector and Government
นำทีมโดย ดร. สุปิยา เจริญศิริวัฒน์ ทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ (HBA) Thai School Lunch เป็นระบบที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ ทั้งยังสามารถประมาณการค่าใช่จ่ายและวัตถุดิบล่วงหน้า เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2555 ร่วมพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
TICTA 2019
2. Traffy Waste: ระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ ได้รับรางวัล Winner Award สาขา Technology Award: Big Data Analytics
นำทีมโดย ดร. วสันต์ ภัทรอธิคม ทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) Traffy Waste เป็นระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายของการจัดเก็บขยะในพื้นที่โครงการ โดยการบริหารและจัดการตั้งแต่จุดทิ้งขยะจากเซ็นเซอร์ ตรวจวัดปริมาณขยะและโมบายแอปพลิเคชัน รายงานขยะเกลื่อนกลาด รถขยะอัจฉริยะติดตั้งระบบติดตามความละเอียดสูง ระบบแดชบอร์ดแสดงภาพรวม พร้อมทำนายและจัดเส้นทางการเก็บขยะให้มีประสิทธิภาพ
TICTA 2019

การประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ Thailand ICT Awards (TICTA) จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐด้านซอฟต์แวร์ไทย เพื่อให้มีแรงบันดาลใจ และมีโอกาสส่งผลงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับภูมิภาคอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก

TICTA 2019
]]>
[Hall of Fame] KidBright คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในงาน ITE 2019 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/kidbright-ite2019.html Tue, 08 Oct 2019 07:03:57 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=18306
kidbright-ite2019

เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. 2562 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค-สวทช. และคุณโสภาวรรณ วิทย์ดำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงสร้างพื้นฐาน (IMD) ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.เสาวลักษณ์ แก้วกำเนิด นักวิจัย ทีมวิจัยเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว (EST) คุณพีรนันท์ กาญจนาศรีสุนทร หัวหน้างานพัฒนากำลังคนด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ (HRDS) และทีมพัฒนา ในโอกาสที่ผลงาน “KidBright: บอร์ดสมองกลฝังตัวอัจฉริยะ” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 สาขาผลงานนวัตกรรมเพื่อสังคม ประเภทหน่วยงานภาครัฐ ในเวทีการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ (ITE 2019) จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) โดยมี ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ

kidbright-ite2019

ที่มารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2549 เห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ในขณะนั้น) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9) ด้วยพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรม โดยการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาสภาพดินเปรี้ยวให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “แกล้งดิน” ในเขตจังหวัดนราธิวาส และกำหนดให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันนวัตกรรมแห่งชาติ” เนื่องจากเป็นวันที่พระองค์ เสด็จฯ ทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับ “โครงการแกล้งดิน”

kidbright-ite2019

ในวันนวัตกรรมแห่งชาติ (5 ตุลาคม) ของทุกปีสำนักงานฯ จึงจัดงานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ จึงจัดพิธีมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเป็นการให้กำลังใจและเชิดชูเกียรติแก่ผู้ค้นคิดพัฒนาผลงานนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในสาขาต่าง ๆ อาทิ ผลงานนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ, ด้านสังคม, ด้านการออกแบบ, ด้านนวัตกรรมสื่อ, ด้านวิสาหกิจเริ่มต้น, ด้านองค์กรนวัตกรรมยอดเยี่ยม, ด้านธุรกิจเพื่อสังคม, ด้านแผนธุรกิจนวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ, ด้านต้นแบบนวัตกรรมในระดับนักเรียนนักศึกษา, ด้านนวัตกรรมที่มาจากข้าวไทย

kidbright-ite2019

และเตรียมพบกับความจัดจ้านของ KidBright ในสามย่านมิตรทาวน์ กันอีกครั้งในงาน “รวมพลคน KidBright” ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้!!!

]]>
Z-Size Ladies II: BMI Timeline & โปรแกรมจําลองรูปร่างของสตรี แบบ 3 มิติ https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-software/zsizeladiesii.html Wed, 04 Sep 2019 08:00:59 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=2281
ปัจจุบันภาวะอ้วนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว สตรีท่ีอยู่ในภาวะอ้วน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวาน และมีแนวโน้มภาวะความดันโลหิตสูงในระยะต้ังครรภ์ นํามาซึ่งการผ่าตัดทารกออกทางหน้าท้องและคลอดก่อนกําหนดได้ ดังนั้นการควบคุมน้ําหนักก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์ จึงเป็นเรื่องสําคัญของสตรีที่วางแผนตั้งครรภ์ทุกท่าน

โปรแกรม Z-Size Ladies II จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบของ BMI Timeline และสามารถจําลองโมเดลรูปร่างของสตรี 3 มิติ สําหรับสตรีทั่วไป สตรีมีครรภ์ และสตรีหลังคลอด แบบ Real time พร้อมทั้งบ่งบอกสัดส่วนของรูปร่างได้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในตัวของสตรี และเป็นหนทางหนึ่งที่กระตุ้น ให้สตรีป้องกันพฤติกรรมภาวะน้ําหนักเกินตลอดช่วงเวลาการตั้งครรภ์และเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้

zsizeladiesII

 

zsizeladiesII

 

คุณลักษณะ

  • เป็น Web Application แบบ Responsive Web เปิด ให้บริการท่ี https://zsize.openservice.in.th
  • ผู้ใช้สามารถจําลองโมเดลรูปร่างของตัวเองใน 3 มิติทั้งในช่วงเวลาปกติ ตั้งครรภ์ และหลังคลอด ได้แบบ real-time และ online โดยอาศัยเพียงข้อมูลน้ําหนัก ส่วนสูง และอายุครรภ์เท่านั้น โปรแกรมจะทําการคํานวณและสร้างโมเดลรูปร่างใน 3 มิติ ให้เห็นพร้อมทั้งทํานายสัดส่วนรอบอกรอบเอวรอบสะโพกรอบแขน รอบขา และความยาวขาได้
  • ผู้ใช้สามารถจําลองภาพใบหน้าของตนเองที่BMIต่างๆได้ สามารถพิมพ์บันทึก และ Share บน Facebook ได้

จุดเด่น/ประโยชน์ของเทคโนโลยี

  • มีข้อมูลจากงานวิจัยข้อมูลแม่ตั้งครรภ์ 587 ชุด ข้อมูลแม่หลังคลอด 503 ชุด และฐานข้อมูลของ SizeThailand 6,767 ชุด และจําลองใบหน้า ที่ BMI ต่าง ๆ
  • ช่วยให้สตรีทั่วไปตั้งครรภ์และหลังคลอดมีแรงจูงใจในการควบคุมน้ําหนัก

ขอบเขต/ข้อจํากัดการใช้งาน

สามารถรันผ่าน Web browsers ที่รองรับ WebGL ได้เท่านั้น

กลุ่มลูกค้า/ผู้ใช้งานเทคโนโลยีเป้าหมาย

  • กลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม
  • สถานพยาบาล และสถาบันการศึกษา

สถานภาพการพัฒนา

  • ผ่านการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง สตรีตั้งครรภ์ และสตรีหลังคลอด ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
  • ผ่านการรับรองจริยธรรมโครงการวิจัยในมนุษย์ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • ยื่นจดสิทธิบัตรแล้ว

หน่วยงานพันธมิตร

คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

วิจัยพัฒนาโดย

ทีมวิจัยการประมวลผลและเข้าใจภาพ (IPU)
กลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ (AINRG)
อีเมล: chanjira.sinthanayothin[at]nectec.or.th
โทร. 0 2564 6900 ต่อ. 2254

 

 

]]>
รักษ์น้ำ RakNam https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-software/raknam.html Tue, 03 Sep 2019 08:28:18 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=2277
raknam 
รักษ์น้ํา เป็นระบบพยากรณ์และจําลองเหตุการณ์เพื่อการบริหารจัดการปัญหาการรุกล้ำของน้ําเค็ม โดยมุ่งเน้นบริหารจัดการแบบ area-based เป็นหลัก โดยระบบรักษ์น้ํามีองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน ได้แก่ 1) Monitor 2) Forecast 3) Scenario 4) Optimize ระบบรักษ์น้ําสามารถนําไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการปัญหา การรุกล้ำของน้ําเค็มในพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่สอดคล้องกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
R-Monitor
แสดงข้อมูลคุณภาพน้ํา ปริมาณน้ําท่า ปริมาณน้ําฝนและน้ําขึ้น-น้ําลง จากสถานีตรวจวัดในพื้นที่
R-Forecast
คํานวณผลพยากรณ์ความเค็มครอบคลุมทั้งลําน้ําและน้ําขึ้น-น้ําลงล่วงหน้า 7 วัน โดยอัตโนมัติและมีความแม่นยําสูง
R-Scenario
สนับสนุนการบริหารจัดการปัญหาการรุกล้ำของน้ําเค็มให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
R-Optimize
หาแนวทางการจัดการปัญหาการรุกล้ำของน้ําเค็มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์
raknam 
raknam 

วิจัยพัฒนาโดย

ทีมวิจัยการจําลองและระบบขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (DSS)
กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะ์ (DSARG)
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.)
อีเมล : sirod.sirisup[at]nectec.or.th
โทร. 0 2564 6900 ext. 2276
ให้บริการข้อมูลแล้วที่…
https://chaophraya.lsr.nectec.or.th
]]>
BigStream: Real-time Data Platform https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-software/bigstream.html Tue, 03 Sep 2019 04:23:40 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=2273
big stream

 

Big Stream คือ แพลตฟอร์มสําหรับการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถนําไปประยุกต์ใช้สําหรับงานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มาจากแหล่งข้อมูลใด ๆ รวมถึงข้อมูลจาก Open Data และ เครือข่าย Internet of Things ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

big stream

 

คุณลักษณะ

  • รวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่องจากแหล่งข้อมูลใด ๆ ผ่านทาง APIs ตลอดจนอุปกรณ์ตรวจวัดข้อมูลผ่านทาง Internet of Things (IoT)
  • ประมวลผลข้อมูลอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานของสคริปต์ที่เขียนขึ้นเอง
  • จัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องตามลําดับการขามาของข้อมูล พร้อม Metadata ที่กําหนดได้เอง
  • ค้นคืนข้อมูลบนพื้นฐานของลําดับข้อมูลเวลาของข้อมูลตลอดจนการค้นคืนข้อมูลตาม Metadata
  • แจ้งเตือนผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์บนพื้นฐานของสคริปต์ที่เขียนข้ึนเอง
  • กําหนดสิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึงทรัพยากร (ได้แก่ Jobs และ Storages) บนพื้นฐานของ ACL (Access Control List) และ VO (Virtual Organization) สําหรับการเขียน (Write) การอ่าน (Read) และการแสดงรายการทรัพยากร

กลุ่มลูกค้า/ผู้ใช้งานเทคโนโลยีเป้าหมาย

นักพัฒนาซอฟต์แวร์

วิจัยพัฒนาโดย

ทีมวิจัยการจําลองและระบบขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (DSS)
กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ (DSARG)
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
Tel: 0 2564 6900 ext. 2279
e-mail: naiyana.sahavechaphan[at]nectec.or.th

 

 

]]>
นักวิจัยเนคเทค สวทช. สร้างชื่อ คว้ารางวัล Information Security Leadership Awards Asia-Pacific https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/isla-asia-pacific-awards2019.html Wed, 31 Jul 2019 06:53:23 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=20648
ISLA Asia-Pacific Awards

ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์ หัวหน้าทีมวิจัยความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (SEC) เนคเทค-สวทช. ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ISLA Asia-Pacific Awards ในสาขา Senior Information Security Professional

10 ก.ค. 2562 : (ISC) ² องค์กรด้าน Information Security ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศรางวัลผู้นำด้านความปลอดภัยของข้อมูลในปี พ.ศ. 2562 และได้จัดพิธีมอบรางวัล Information Security Leadership (ISLA) Asia-Pacific Awards ในการประชุม (ISC)² Secure Summit APAC 2019 เมื่อวันที่ 10 – 11 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรม Conrad ประเทศฮ่องกง ประกอบไปด้วย 13 รางวัล ใน 3 สาขาได้แก่

  1. Managerial Professional for an Information Security Project
  2. Senior Information Security Professional
  3. Information Security Practitioner
ISLA Asia-Pacific Awards

โดย ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์ หัวหน้าทีมวิจัยความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (SEC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ISLA Asia-Pacific Awards ในสาขา Senior Information Security Professional ซึ่งรางวัลดังกล่าวนี้ มอบให้กับบุคลากรด้าน Information Security ที่มีผลงานเด่น มีภาวะผู้นำ และอุทิศเวลาในด้าน Information Security แก่สังคมมาอย่างต่อเนื่อง

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล ISLA Asia-Pacific Awards ได้ที่

]]>
[Hall of Fame] นักวิจัยเนคเทคพา “MuEye” คว้ารางวัลผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่ 62 ประเภทนวัตกรรมดีเยี่ยม https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/mueye-dpst-2019.html Wed, 26 Jun 2019 05:00:22 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=21003
mueye-DPST-2019

วันที่ 22 มิถุนายน 2562 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดย ดร.อัชฌา กอบวิทยา ทีมวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ (PHT) รับโล่รางวัล “ผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่” ประจำปี 2562 ประเภทนวัตกรรมดีเยี่ยม (The Best Innovation) ผลงานวิจัย MuEye : กระบวนการผลิตเลนส์โดยอาศัยแรงตึงผิวที่ชั้นรอยต่อของเหลว โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ดร. ประสาท สืบค้า ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานในพิธี ในงานประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนักเรียนทุน พสวท. ประจำปี 2562 (DPST Student Conference on Science and Technology 2019: DPSTcon2019) ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพมหานคร

mueye-DPST-2019

ในโอกาสนี้ ดร. ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยอุปกรณ์สเปกโทรสโกปีและเซนเซอร์ เป็นตัวแทนในนามผู้บริหาร และพนักงานเนคเทค มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับ ดร.อัชฌาฯ ที่ได้รับโล่รางวัลผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่ ประจำปี 2562 ในครั้งนี้อีกด้วย

mueye-DPST-2019

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่ ประจำปี 2562 ประเภทนวัตกรรมดีเยี่ยมนั้น จะพิจารณาจาก

  1. จำนวนผลงานที่จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรมากที่สุด โดยตัดสินจากจำนวนสิทธิบัตรเป็นลำดับแรก ก่อนที่จะพิจารณาจำนวนอนุสิทธิบัตร
  2. ผลงานสิทธิบัตรที่ส่งเข้ารับการคัดเลือกจะต้องได้รับการประกาศโฆษณาสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา และสามารถตรวจสอบเลขที่สิทธิบัตรกับฐานข้อมูลได้
  3. กรณีมีผู้สมัครที่มีจำนวนสิทธิบัตร และจำนวนอนุสิทธิบัตรเท่ากัน คณะกรรมการจะตัดสินให้รางวัลโดยคัดเลือกจากผลงานที่ถูกกล่าวถึงและส่งผลกระทบต่อสังคมวิทยาศาสตร์หรือประเทศชาติในวงกว้างมากที่สุด
mueye-DPST-2019

ในโอกาสนี้ เนคเทคขอร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.ธีระ บุตรบุรี นักวิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่รับโล่รางวัล “ผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่” ประจำปี 2562 ประเภทผลงานตีพิมพ์คุณภาพดีเยี่ยม (กลุ่มที่ 3) มา ณ ที่นี้

mueye-DPST-2019

พิธีมอบโล่รางวัลผลงานวิจัย พสวท. รุ่นใหม่ ประจำปี 2562 จัดโดยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ภายในงานประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นักเรียนทุน พสวท. ประจำปี 2562 (DPST Student Conference on Science and Technology 2019: DPSTcon2019) ระหว่างวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2562 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย และนักวิชาการ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการวิจัย ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้และกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี

บทความที่เกี่ยวข้อง

]]>
เนคเทค เยี่ยมชม บ. นิเด็คฯ: กรณีศึกษาการนำ NETPIE ไปประยุกต์ใช้เพื่อมุ่งสู่ Smart Factory https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/netpie-nidecshibaura.html Mon, 27 Feb 2017 02:09:43 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=20430
NETPIE
NETPIE

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) โดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธื์เดชขจร พร้อม ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการเนคเทค เข้าเยี่ยมชมตัวอย่างของการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่ยุค Industry 4.0 ด้วยการนำเทคโนโลยีทางด้าน Internet of Things (IoT) บน NETPIE Platform และ RFID มาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาโรงงานก้าวเข้าสู่ Smart Factory เป้าหมายหลักคือ การลดกำลังคนและความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ภายใต้งบประมาณที่จำกัด (Low-cost Automation)

NIDEC Shibaura

นายคาซูโยชิ ฮิโร ประธานบริษัท นิเด็ค ชิบาอุระ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารจากเนคเทค และสื่อมวลชน และกล่าวว่า “บริษัท นิเด็ค ชิบาอุระ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และมีลูกค้าทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย บริษัทมีแผนพัฒนาโรงงานในประเทศไทยให้เป็น Smart Factory ตั้งแต่ 2559-2561 เป้าหมายหลักคือ การลดกำลังคนและความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ภายใต้งบประมาณที่จำกัด (Low-cost Automation) จึงมุ่งเน้นการพัฒนาวิธีการขึ้นมาใช้เองภายใน โดยไม่พึ่งพา Solution สำเร็จรูปราคาแพงจากต่างประเทศ โดยทีมไอทีและวิศวกรของบริษัทได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2559 ใช้เทคโนโลยี IoT บนแพลตฟอร์ม NETPIE และ RFID ในการตรวจสอบ ควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกสายการผลิต เช่น การตรวจอุณหภูมิน้ำมันหล่อลื่นเครื่องจักร การตรวจอัตราการไหลของน้ำหล่อเย็น การบันทึกการทำงานของเครื่องจักร การบันทึกการใช้พลังงานไฟฟ้า และ การติดตามสินค้าในคลัง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำ NETPIE Platform เข้ามาใช้โรงงานอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งคาดหวังในการเป็นต้นแบบโรงงานในระดับประเทศ”

NETPIE, IoT

นับตั้งแต่การเปิดตัวของ NETPIE (Network Platform for Internet of Everything) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม IoT รายแรกของไทยเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 ทีมวิจัยพัฒนามุ่งเป้าผู้ใช้งานในระยะเริ่มแรกไปยังกลุ่มนักพัฒนาและอุตสาหกรรมขนาดย่อม เพื่อผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยี IoT ไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความได้เปรียบให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะให้บริการอุปกรณ์ได้มากถึง 1 ล้านอุปกรณ์ในระยะเวลา 3 ปี และผลักดันให้ NETPIE สามารถให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ ทัดเทียมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอื่นๆ ด้วยการจัดตั้งเป็นบริษัทภายในปีงบประมาณ 2560 ประจวบกับในปัจจุบันที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาเศรษฐกิจด้วยรากฐานที่มั่นคงจากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้แนวคิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Industry 4.0 ได้รับความสนใจและพูดถึงอย่างกว้างขวาง ว่าจะเป็นกลจักรสำคัญที่จะผลักดันประเทศไปสู่เป้าหมาย 4.0 ในองค์รวม เนคเทคซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่เชี่ยวชาญและบริการด้าน IoT อยู่แล้วในมือ จึงมีแผนในการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มนักพัฒนาและอุตสาหกรรม เพื่อให้มีการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกระบวนการที่เป็นการต่อยอดการใช้งานเทคโนโลยี IoT โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม NETPIE ด้วยเล็งเห็นว่า NETPIE สามารถเป็นทางลัดของคำตอบให้กับอุตสาหกรรมหลากหลายในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย/ต้นทุน (เช่น กำลังคน พลังงาน ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องจักร) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การขนส่ง จนไปถึงกระทั่งการสร้างนวัตกรรม IoT ใหม่ๆ

Netpie, IoT

ปัจจุบัน NETPIE สามารถดำเนินการตามเป้าหมายพื้นฐานได้ คือ

  1. การบริหารจัดการทีมเพื่อการให้บริการได้อย่างคล่องตัวและยั่งยืน
  2. การส่งเสริมให้นักพัฒนาของไทยนำ NETPIE ไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย
  3. การฝึกอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมาย อันได้แก่ นักพัฒนาและอุตสาหกรรมที่สนใจการนำ IoT ไปใช้ประโยชน์

นอกจากนี้ยังมีการนำ NETPIE ไปใช้งานแล้วในระดับธุรกิจขนาดใหญ่เช่น บริษัท นิเด็ค ชิบาอุระ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีฐานการผลิตในประเทศไทย และมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาให้โรงงานของตนมีความเป็นอัตโนมัติเพื่อเข้าสู่ Industry 4.0 ภายในปี 2561

ก้าวสำคัญของการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยสามารถก้าวเข้าสู่ Industry 4.0 ดังตัวอย่างที่มาเยี่ยมชมในครั้งนี้ นอกจากวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการและเทคโนโลยีที่พร้อมแล้ว ทรัพยากรมนุษย์ที่จะเป็นผู้ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายก็มีความสำคัญยิ่ง บริษัท นิเด็ค ชิบาอุระ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีบุคลากรทางด้านไอทีที่มีความพร้อมจึงสามารถเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง จากประสบการณ์ที่ทีม NETPIE ได้เข้าไปช่วยเหลือในการให้คำปรึกษากับกลุ่มอุตสาหกรรมไทยพบว่า หลายโรงงานมีความต้องการที่จะใช้ประโยชน์จาก IoT แต่ยังขาดบุคลากรดำเนินงาน ดังนั้นในปี 2560 นี้ ทีม NETPIE จึงได้วางเป้าหมายในการสร้างพันธมิตรด้าน System Integration: SI ที่จะมาเติมเต็มในการส่งต่อคุณค่าของเทคโนโลยี IoT และ NETPIE ไปสู่การใช้งานจริงในโรงงานภายในประเทศ และหวังว่าพันธมิตรเหล่านี้จะร่วมเดินทางไปด้วยกันและช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เข้าสู่ Industry 4.0 ได้เร็วยิ่งขึ้น

ผู้สนใจร่วมเป็นพันธมิตรด้าน SI และเจ้าของโรงงานที่ยินดีนำเทคโนโลยี NETPIE-IoT ไปทดสอบ สามารถเข้าไปดูข้อมูลและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ NETPIE ได้ที่ https://netpie.io/partner

วันที่เผยแพร่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 09:09

]]>