
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสำคัญของการดำเนินงานแทบทุกภาคส่วน “ภาครัฐ” ในฐานะกลไกหลักในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในมิติต่างๆ กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ นั่นคือ การปรับตัวเพื่อประยุกต์ใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบริหารการเปลี่ยนแปลงให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) หน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการพัฒนาระบบราชการ ตามหลักธรรมาภิบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ได้จัดการประชุมสัมมนา “AI for Gov. : ปัญญาประดิษฐ์เปลี่ยนเกมภาครัฐ” เพื่อให้ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ และสนับสนุนการทำงานของกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ AI ในการทำงานของหน่วยงานราชการ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาองค์กรให้สอดรับกับคลื่นเทคโนโลยี AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมี นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมแสดงปาฐากถาพิเศษให้แก่บุคลากรภาครัฐ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 300 คน ในหัวข้อ “ความท้าทาย ทิศทาง และมาตรการสำคัญเพื่อในการพัฒนาระบบราชการไทย” โดยชี้ให้เห็นถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ (พ.ศ. 2567-2570) ที่มีวิสัยทัศย์พัฒนาภาครัฐที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ ขับเคลื่อนการดำเนินงานภาครัฐด้วยนวัตกรรม และดิจิทัลเพื่อยกระดับการทำงานด้วยข้อมูลในการตัดสินใจ, ปรับระบบงาน เงิน คนและโครงสร้างให้ยืดหยุ่นคล่องตัว, ปรับระบบงานภาครัฐให้มีความโปร่งใส ไร้ทุจริตคอร์รัปชัน ภาครัฐจะไม่ใช่เพียงผู้ตามเทคโนโลยี แต่สามารถเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ได้ หากรู้จักใช้เทคโนโลยีดจิทัล นวัตกรรม AI อย่างเข้าใจ มีเป้าหมาย และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

ร่วมด้วยการบรรยายพิเศษ โดย ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้าน Digital Transformation สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ที่ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในหัวข้อ “AI Governance กับการนำมาประยุกต์ใช้ในภาครัฐ” เพื่อเน้นย้ำถึงธรรมาภิบาลในการประยุกต์ใช้ AI หรือ AI Governance ซึ่งถือเป็น หลักการกำกับดูแลการปฏิบัติงานในทุกประบวนการที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ AI โดยจัดให้มีมาตรการในการกำกับดูผ่านการกำหนดนโยบาย ขั้นตอนปฏิบัติ และเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible AI) สพธอ. โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้จัดตั้งศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Center: AIGC) เพื่อพัฒนากรอบธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์สำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในทุกภาคส่วนตลอดจนให้คำปรึกษา พัฒนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์สำหรับองค์กร สามารถติดตามการดำเนินงาน และดาวน์โหลดเอกสาร แนวทางการประยุกต์ใช้ Generative AI อย่างมีธรรมาภิบาลสำหรับองค์กร ได้ที่ https://www.etda.or.th/th/Our-Service/AIGC/OurServices.aspx

คุณชนิกานต์ โปรญานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ผ่านการบรรยาย หัวข้อ “ขับเคลื่อนโลกด้วย AI” นำเสนอเทรนด์ของปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน และตัวอย่างของการนำ AI มาใช้งานจริงในวงการผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ

- AI เพื่อให้บริการประชาชน เช่น Chatbot บริการตอบคำถามอัตโนมัติ ให้ข้อมูลแก่ประชาชน, เครื่องมือสนับสนุนการจองคิว/ จองสถานที่
- AI เพื่อการจัดการกระบวนการภายใน เช่น ระบบค้นหาข้อมูลภายในหน่วยงาน (ระบบสารบรรณ), ระบบถอดความเสียง และสรุปความจากที่ประชุม, ระบบร่างเอกสารราชการ, การแปลภาษาเอกสาร, การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติเพื่อการตัดสินใจ
- AI เพื่อสนับสนุนภารกิจหน่วยงาน เช่น AI สำหรับการแพทย์ช่วยคัดกรอง วินิฉัยโรค, การวิเคราะห์โรคพืช, สร้างแบบจำลอง หาองค์ประกอบของโมเลกุลเพื่อควบคุมโรคระบาด

- DocChat: เครื่องมือ AI ที่สามารถสรุปสาระสำคัญของเอกสาร ตั้งประเด็นคำถามที่น่าสนใจโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถพูดคุยตอบโต้หรือตั้งคำถามกับเอกสารที่กำหนดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- DocGen: เครื่องมือ AI ที่สร้างเอกสารอัตโนมัติ รองรับการร่างเอกสารตามคาสั่งของผู้ใช้ เข้าใจภาษาราชการ สามารถแก้ไขเอกสารได้ รองรับการดาวน์โหลดเอกสารในรูปแบบไฟล์
- Partii Note: ระบบ AI แปลงเสียงพูดเป็นข้อความอัตโนมัติ รองรับการถอดความเสียงทั้งในรูปแบบไฟล์เสียง และ YouTube จากผู้พูดคนเดียว หรือมากกว่า สามารถส่งออกไฟล์ได้หลากหลายรูปแบบ PDF, Word, และไฟล์ข้อความ

AI for Thai: แพลตฟอร์มบริการปัญญาประดิษฐ์สัญชาติไทย ให้บริการ APIs ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีการประมวลผลภาพ (Vision) การสนทนา (Conversation) และข้อความ (Language) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้นักวิจัย นักพัฒนา ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการ ได้นำไปต่อยอด สร้างสรรค์ พัฒนาเป็นแอปพลิเคชัน หรือบริการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ ปัจจุบันมีบริการจากเนคเทค สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร จำนวน 93 บริการ ทดลองใช้งานที่ https://aiforthai.in.th/
การจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงการถ่ายทอดเทคนิคการใช้ AI เท่านั้น แต่ยังเป็นการปลุกพลังของบุคลากรภาครัฐทุกระดับ ให้ก้าวสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ นวัตกรรม และหัวใจของการบริการที่มุ่งเน้นที่ประชาชนอย่างแท้จริง ท่านที่สนใจสามารถติดตามรับชมบันทึกการสัมมนาย้อนหลังได้ที่ YouTube สำนักงาน ก.พ.ร.