หน้าแรก | กิตติกรรมประกาศ | วัตถุประสงค์ | บทคัดย่อ | ขั้นรวบรวมข้อมูล | ที่มาและความสำคัญ | อัตชีวประวัติสุนทรภู่ | ผลการศึกษา | สรุปผลการศึกษา | ทีมงาน
 
 
 
 
     
บ่ายประมาณโมงครึ่งก็ถึงวัด ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
ลงหยุดปลงไอยราริมอารามี่ สมภารตามเชิญเสด็จให้คลาไคล ...

 
ไฟตะเกียงเรียงรอบพระมณฑป   กระจ่างจบจันทร์แจ่มแอร่มผา
ดอกไม้พุ่มจุดงามอร่ามตา จับศิลาแลเลื่อมเป็นหลายราย ...
   

 
 
บันไดนาคสุนทรภู่กล่าวว่าเหมือนมีชีวิตจริง ลีลาดังจะเลื้อยออกมาขย้ำเขี้ยวขบปาก ตาเขม้นมอง ซึ่งบันไดนาคเป็นทางขึ้นพระมณฑปสำหรับขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาท ของเดิมมี 2 ทางคือทิศตะวันตกและทิศเหนือ ที่เชิงบันไดทั้งสองทาง มีเศียรนาคหล่อทองสัมฤทธิ์แต่บันไดทิศตะวันตก(ด้านประตูเสด็จ)นาคมี 5 เศียร เป็นของหล่อขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกประจำเชิงบันได 2 สายต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างบันไดเพิ่มอีกสายหนึ่ง รวมเป็น 3 สาย และหล่อเศียรนาคด้วยสัมฤทธิ์ประจำราวบันไดเพิ่มขึ้นอีก 1 เศียร ส่วนเศียรนาคหล่อสัมฤทธิ์อีกคู่หนึ่งที่ประจำราวบันใดทางทิศเหนือตรงประตูยักษ์เข้ามานั้นเป็นนาค 7 เศียร แต่ละเศียรสวมมงกุฎ มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กล่าวกันว่า สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
เชิงบันไดเศียรนาค ด้านทิศเหนือ
ซึ่งสร้างขึ้นใหม่รัชกาลที่ 4
เชิงบันไดมีเศียรนาคหน่อทองสัมฤทธิ์ทิศตะวันตก บันไดนาคทางนี้เป็นทางสำหรับเสด็จขึ้น
นมัสการของพระพุทธเจ้า
ทิศประจิมปรากฏดาบสรูปปั้นนอกเหนือจากนี้มีสัจจพันธ์ฤาษีและฤาษีหมอ ตามประวัติกล่าวว่าสัจจพันธ์ฤาษีได้จำศีลภาวนาอยู่ที่เขาสุวรรณบรรพตมาแต่เดิม เมื่อสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาแสดงธรรมโปรดสัจจพันธ์ฤาษีจึงเกิดความเลื่อมใส ศรัทธา อุปสมบท เพราะปรากฎว่าพระพุทธบาทมีรูปสัจจพันธ์ฤาษีปรากฏอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ฤาษีหมอตั้งอยู่ทีเชิงเขาโพธิ์ลังกาซึ่งมีศาลาเสาก่ออิฐคือปูน หลังคามุงกระเบื้องไทยสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีรูปฤาษีจำลองคือสัจจพันธ์ฤาษีตั้งอยู่กลางประชาชนนิยมนับถือว่ามีตามศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเจ็บป่วยไปกราบไหว้อธิษฐานขอน้ำมนต์อาบหรือดื่มก็หาย นับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่ง
ก่อนขึ้นพระมณฑปที่บริเวณบันไดนาคด้านทิศตะวันตกหรือด้านประตูเสด็จจะพบสิงโตตันสองตัวขนาบข้างบันไดนาคตามที่กล่าวไว้จริง
สัจจพันธ์ฤาษีอยู่ที่เขาสุวรรณบรรพต
หน้าบันไดทางขึ้นพระมณฑปมีสิงโตตัน 2 ตัว
สิงโตตัน 2 ตัวมีลีลา ดังที่สุนทรภู่กล่าวว่า
“ดูผาดเผ่นเหมือนจะเต้นไปตามทาง”