รายละเอียดการจัดอบรม

เขียนโดย: sittichai เมื่อ: พฤ. 25 มิ.ย. 2563 - 16.12 น.

          ทำไมต้องเรียนรู้เรื่องความคิดสร้างสรรค์ เพราะบางครั้งเราอาจมีความคิดที่แคบ และคิดในด้านเดียว การที่เราได้ศึกษาหรือเรียนรู้ความคิดสร้างสรรค์และหลักที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เปิดความคิดที่กว้างถึงหรือคิดสิ่งใหม่ ๆได้ การฝึกทักษะก็คิด หัดคิดบ่อย ๆ ในหลาย ๆ ด้าน ความคิดสร้างสรรค์ คือ การคิดสิ่งใหม่ ๆ หลาย ๆ ด้านหลาย ๆ มุม ทำให้เกิดความคิดที่จะสร้างหรือปฏิบัติสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา
          ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) เป็นกระบวนการคิดของสมอง วิธีการหรือกระบวนการคิดใน สิ่งใหม่ ๆ โดยมีแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ของกิลฟอร์ด** เพราะเป็นทฤษฎี ที่มีแนวคิดหลาย ๆ รูปแบบความแตกต่าง และความสัมพันธ์ คำว่า Creative Thinking กับ คำว่า Creativity  Creative Thinking คือ กระบวนการคิดของความคิดที่สร้างสรรค์ในสิ่งที่แตกต่าง  Creativity คือความสามารถในการสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ ๆ ดังนั้น Creativity เป็นการถ่ายทอดกระบวนการทางความคิดผ่าน Creative Thinking ให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ที่แตกต่าง
          ในปัจจุบันกระบวนการคิดแบบ Creative Thinking ได้ถูกพัฒนากระบวนการและตั้งชื่อใหม่ขึ้นมาว่า “Design Thinking” สิ่งที่เพิ่มเติมในกระบวนการคือ mindset โดยนำมุมมองของผู้ใช้-ลูกค้า-มนุษย์ มาเป็นศูนย์กลางที่เรียกกันว่า Human-centered Design เพื่อตามความต้องการของตลาด หรือ สังคมให้ทัน อีกทั้งการขั้นตอนการทดสอบจะสั้นลงเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดได้เร็วขึ้น ซึ่งได้ถูกนำไปใช้เป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาในโลกธุรกิจ การสร้างสรรค์นวตกรรมใหม่ และการแก้ปัญหาต่างๆ ในรูปแบบใหม่ (New Problem Solving) ในรูปแบบของการสร้างการบริการหรือสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ กระบวนการนี้จะถูกแบ่งออกมาเป็น 5 ขั้นตอนด้วยกันคือ
          1. Empathize: การทำความเข้าใจความต้องการ (Need) ของกลุ่มผู้ใช้ใน 3 ด้านคือ การใช้งาน องค์ความรู้ และอารมณ์ความรู้สึก
          2. Define: การแจกแจงปัญหาจากความต้องการของผู้ใช้ เพื่อค้นพบจุดสำคัญของปัญหา
          3. Ideate: การรวบรวมความความคิดสร้างสรรค์ให้มากที่สุดจากปัญหาที่ได้ทำการแจกแจง
          4. Prototype: การสร้างต้นแบบ ซึ่งควรจะถูก เร็ว และรายละเอียดน้อย
          5. Test: การทดสอบ เพื่อได้ผลตอบรับจากผู้ใช้เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข

กลุ่มเป้าหมาย
         หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ เยาวชนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เน้นที่ ม. 1-2 จำนวน 24 คน
สิ่งที่จะได้รับ
          1)  ตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการพัฒนาทักษะสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21
          2)  สามารถเข้าถึงปัญหา คิดแก้ปัญหา ได้อย่างเป็นระบบ
          3)  นำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ ผนวกกับการเข้าถึงปัญหาและคิดแก้ปัญหา กลายเป็นโจทย์สร้างผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง โรงเรียน และชุมชน
          4) ประกาศนียบัตรสำหรับผู้ผ่านการอบรม ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้  ในระยะเวลาที่กำหนด

รูปแบบการอบรม
          หลักสูตรนี้จัดในรูปแบบ Live Training ซึ่งเป็นการอบรมแบบถ่ายทอดสดออนไลน์ผ่านไมโครซอฟต์ทีม เรียนพร้อมกันอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทาง ดูได้จากมือถือหรือโน๊ตบุ๊ค

หัวข้อการอบรม
          1. การทำความเข้าใจความต้องการ (Need) ของกลุ่มผู้ใช้ใน 3 ด้านคือ การใช้งาน องค์ความรู้ และอารมณ์ความรู้สึก
          2. การแจกแจงปัญหาจากความต้องการของผู้ใช้ เพื่อค้นพบจุดสำคัญของปัญหา
          3. การรวบรวมความความคิดสร้างสรรค์ให้มากที่สุดจากปัญหาที่ได้ทำการแจกแจง เพื่อนำไปสู่การสร้างต้นแบบ ซึ่งควรจะถูก เร็ว และรายละเอียดน้อย

สิ่งที่ผู้เข้าอบรมจัดเตรียมก่อนวันอบรม
          1. โปรแกรมไมโครซอฟต์ทีม สำหรับผู้เข้าอบรม ลงไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค หรือ สมาร์ทโฟน (โปรแกรมไมโครซอฟต์ทีมสำหรับการอบรมนี้ สามารถดาวน์โหลดฟรี ใช้งานฟรี ลงได้ทั้งในโน๊ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟน) โดยวิทยากรจะจัดส่งคู่มือการใช้งาน และสอนการใช้โปรแกรมล่วงหน้าก่อนการอบรม และจะซักซ้อมก่อนการอบรมจริงในวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563  เวลา 14.00-16.00 น. ทางโปรแกรมไมโครซอฟต์ทีม
          2.  ไลน์ไอดี ผู้เข้าร่วมอบรม สำหรับดึงเข้ากลุ่ม เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร การส่ง ID Password เพื่อเข้าห้องอบรมออนไลน์ และการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ